เลือกตั้งและการเมือง

ผบ.เรือนจำกรุงเทพฯ ยัน 'ทักษิณ' ยังอยู่ รพ.ตำรวจ - แพทย์ใหญ่ปัดรักษาแบบ VIP ยันห้องไม่หรู แอร์เสีย

24 ส.ค. 2566

12 views

แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ แจงดรามา รับตัวทักษิณ รักษาตามสิทธิผู้สูงวัย อยู่ชั้นวีไอพี แต่ห้องไม่หรูหรา แถมแอร์เสีย ต้องใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ อาการ สื่อสารได้ ความดันสูง เหนื่อยหอบ ต้องใส่สายออกซิเจน สั่งงดเยี่ยมทุกกรณี ถ้าญาติต้องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์

ด้านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เผยหากทักษิณ พ้นวิกฤติโรครุมเร้า แพทย์พร้อมส่งตัวกลับเรือนจำ ย้ำชัดไม่ส่งรักษา รพ.เอกชน ส่วน อดีตนายกฯ-ครอบครัว ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ยื่นเอกสารขออภัยโทษ


วานนี้ (23 ส.ค. 66) เวลา 18.40 น. นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ถึงกระแสข่าวที่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ย้ายการรักษาจาก รพ.ตำรวจ ไปยัง รพ.เอกชน ว่า


ตอนนี้ มีเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่ที่ รพ.ตำรวจจำนวนหลายคน และเจ้าหน้าที่ต้องรายงานมายังตนทุกชั่วโมง รวมทั้งรายงานเป็นภาพถ่าย


พร้อมขอยืนยันว่า ตัวนายทักษิณยังรักษาตัวอยู่ที่เดิม คือ รพ.ตำรวจ ซึ่งอยู่ตั้งแต่ย้ายไป และหากย้ายไป รพ.เอกชนจริง ตนต้องเป็นคนแรกที่เซ็นอนุมัติ


เมื่อถามว่า หลายคนตั้งคำถามถึงอภิสิทธิ์ที่ตัวนายทักษิณได้รับจากราชทัณฑ์

นายนัสที ระบุว่า ขอเรียนในฐานะที่ทำงานราชทัณฑ์มาตลอดชีวิต อยู่เรือนจำมา 15 แห่ง เป็น ผบ.มา 10 กว่าแห่ง การปฏิบัติในการดูแลผู้ต้องขังเป็นไปตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์


ผมเรียนว่า ชีวิตของผู้ต้องขัง การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังทุกคน ในใจของผู้คุมทุกคนเป็นห่วง ในเรื่องการเจ็บป่วยที่อันตรายทุกคน และ เราก็ไป รพ.ตำรวจตลอดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การดูแลรักษาจากโรคภัยไข้เจ็บเพื่อให้เขาปลอดภัยไม่ใช่อภิสิทธิ์ แต่เป็นสิทธิที่เขาควรได้รับการดูแล และขอยืนยันว่า การรักษาเป็นไปตามสิทธิมนุษยชน


เมื่อถามว่า ได้รับรายงานเรื่องแอร์ห้องนายทักษิณเสียหรือไม่

นายนัสที กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีรายงาน และประเด็นนี้ควรย้อนกลับไปถามต้นทางที่ให้ข้อมูลจะดีกว่า

-------------

วานนี้ (23 ส.ค. 66) ช่วงบ่าย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยภายหลังประชุม และรายงานผลกับ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เกี่ยวกับกรณีของนายทักษิณ ว่า


กรมราชทัณฑ์ได้เคลื่อนย้ายตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวด่วนกลางดึกที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับการประสานล่วงหน้า เพราะเป็นการเข้ามารักษาแบบเร่งด่วน และกลางดึก


เนื่องจาก นายทักษิณรับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ด้วยเกิดอาการแน่นหน้าอกกระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก


ทีมแพทย์ราชทัณฑ์พยายามรักษาระดับความดันที่สูงแล้วแต่ทำได้ไม่มาก จึงลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงกลางดึก


ซึ่งอาการของนายทักษิณนั้น พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ระบุว่า ความจริงทีมแพทย์ราชทัณฑ์มีความสามารถรักษาได้ แต่อาการป่วยของนายทักษิณต้องการแพทย์เฉพาะทางดูแล ประกอบกับเครื่องมือที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีจำกัด จึงต้องตัดสินใจย้ายตัว ซึ่งการที่นำตัวผู้ต้องหามารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะทางโรงพยาบาลตำรวจกับกรมราชทัณฑ์ได้ทำเอ็มโอยูและมีการรักษาผู้ป่วยมานานกว่า 30 ปีแล้ว


เมื่อรับเข้ามาแล้ว ปกติจะต้องรักษาตัวอยู่อีกอาคารหนึ่งซึ่งเป็นอาคารเก่า แต่เนื่องจากมาช่วงกลางดึกและผู้ป่วยเต็ม จึงไม่มีห้องพัก อีกทั้งนายทักษิณยังอยู่ในช่วงการกักโรคอยู่ จึงนำมาพักรักษาตัวที่ชั้น 14


ตั้งแต่นำตัวมาจากเรือนจำ แพทย์ให้ยาลดความดัน จนถึงช่วงเช้าวานนี้ นายทักษิณอาการยังคงทรงตัวและน่าเป็นห่วง ยังพบว่า ความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท และ และยังมีโรคอื่นๆ ประกอบอีกด้วย


จากนั้น ทีมแพทย์จึงนำตัวนายทักษิณไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 อาคาร ภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยพิเศษ ระดับสูง หรือพรีเมี่ยมวอร์ด


ประเด็นนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายแพทย์ใหญ่ว่า เหตุใดจึงต้องนำมารักษาที่หอผู้ป่วยพิเศษ แตกต่างจากกรณีผู้ต้องขังรายอื่นหรือไม่

นายแพทย์ใหญ่ระบุว่า ห้องที่นายทักษิณรักษาตัวนั้น อดีตใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19 แต่ปัจจุบัน ไม่มีผู้ป่วยรายใดรักษาตัวที่นี่ และอีกเรื่องที่น่าอายคือแอร์ของห้องที่นายทักษิณรักษาตัวนั้นไม่เย็น กำลังให้ช่างซ่อมอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้พัดลมสองตัวเพื่อช่วยระบายอากาศ


ส่วนตัวนายทักษิณอยู่ในห้อง ก็ไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการ เนื่องจากตามกฎหมายผู้ป่วยต้องโทษที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยาก


นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ขอยืนยันว่า ห้องพักของนายทักษิณไม่ได้ หรูหราเหมือนห้องสูทโรงแรม ตามกระแสข่าวที่พูดถึงซึ่งเป็นเพียงห้องพักผู้ป่วยขนาดใหญ่เป็นห้องเดี่ยว และไม่ได้มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายเหมือนกับห้องผู้ป่วยรายอื่น ๆ แต่เป็นเพียงห้องขัง มีเตียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์เท่านั้น


ส่วนการรักษา ได้ตั้งทีมแพทย์ดูแลรักษานายทักษิณทั้งหมด 6 ท่าน เชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และโควิด อยู่ในทีมดังกล่าว เพราะพบว่า นายทักษิณมีโรคหลายโรค ทั้งอาการของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหมอนรองกระดูก // โรคความดันหัวใจและหลอดเลือด


เมื่อรับการรักษา อาการนายทักษิณดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังใส่สายออกซิเจน //ความดันยังสูงอยู่ // แต่สามารถสื่อสารได้ มีอาการเหนื่อยหอบ  แพทย์ต้องเฝ้าระวัง โดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี


ส่วนการรักษา ไม่สามารถตอบได้ว่าจะกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เมื่อใด ต้องประเมินเป็นระยะ


ส่วนการจะนำตัวไป-กลับ เพื่อรักษานั้น ระหว่างเดินทางไป-กลับราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจทำไม่ได้ เนื่องจากเสี่ยงอันตราย เพราะโรคที่นายทักษิณเป็นนั้นเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดและประสาท อาจจะเกิดอันตรายได้ จึงต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ระบุเวลาว่ากี่วัน


ส่วนกรณีกระแสข่าวระบุว่า จะมีการย้ายตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งนั้น

นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า การจะย้ายผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องหานั้นจะต้องมีเหตุผลในการย้าย และรักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น


“คนที่จะเป็นคนสั่งย้ายก็คือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งกรณีหากจะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ก็จะต้องมีเหตุผลเพียงพอในการย้าย เพราะคนที่ตัดสินใจก็คือทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ไม่ใช่ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ” แต่ตั้งแต่รับผู้ป่วยจากราชทัณฑ์มารักษาตัว ก็ไม่เคยพบว่ามีผู้ต้องหารายใด ต้องย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน


จากนี้ ขั้นตอนในการดูแลรักษานายทักษิณนั้น ทีมแพทย์จะดูประวัติการรักษาของนายทักษิณที่ต่างประเทศมาศึกษา แต่รายละเอียดส่วนนี้ แพทย์ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกได้ว่าอาการป่วยถูกรักษามาอย่างต่อเนื่อง


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ สอบถามนายแพทย์ใหญ่ว่า เหตุใดนายทักษิณอยู่ต่างประเทศมีลักษณะค่อนข้างแข็งแรง และไปไหนมาไหนคล่องแคล่วไม่มีโรคภัย หรือบ่งบอกว่าเป็นผู้ป่วยหลายโรค แต่มาถึงประเทศไทยกลับป่วยหลายโรค

นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า นายทักษิณมีประวัติเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในต่างประเทศอยู่แล้ว ดังนั้น กรณีที่นายทักษิณป่วยหลายโรคนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกทั่วไป เหมือนตนเองเป็นหวัดก็ไม่ได้แสดงออกว่ามีอาการป่วยเหมือนกัน


ส่วนการรักษา ก็รักษาตามปกติ เหมือนผู้ป่วยสูงอายุทั่วไป ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติตามกระแสสังคม เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีการส่งผู้ป่วยอายุมากมารักษาเช่นกัน


ส่วนการดูแลความปลอดภัยระหว่างรักษา มีเจ้าที่กรมราชทัณฑ์คอยดูแล 3 คน แต่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาล สน.ปทุมวัน ดูแลความปลอดภัย

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/nrJOi8JE1f4

คุณอาจสนใจ

Related News