เลือกตั้งและการเมือง

‘หมออ๋อง’ มองบวก สังคมได้ถกปมคราฟท์เบียร์ หลัง ‘ราเมศ’ สอนมวย เป็นผู้นำต้องระวัง โพสต์เสี่ยงผิดกม.

โดย petchpawee_k

15 ส.ค. 2566

27 views

“ปดิพัทธ์” ภูมิใจบ้านเกิด “พิษณุโลก” มีคราฟท์เบียร์ตัวแรก ลองชิมลง Tiktok ขณะที่ฝ่ายเห็นต่างติง ห้ามโพสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ด้าน ‘ราเมศ’ สอนมวย ชี้เป็นผู้นำต้องระมัดระวัง โพสต์คราฟต์เบียร์ เสี่ยงผิดกฎหมาย ห้ามโฆษณา


วานนี้ (วันที่ 14 ส.ค.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โพสต์ภาพถือกระป๋องคราฟท์เบียร์ พร้อมข้อความระบุว่า


“เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ  เป็นของดีพิดโลกนอกจากกล้วยตากและหมี่ซั่วครับ”


นอกจากนี้ นายปดิพัทธ์ ยังโพสต์คลิปรีวิวลงบนติ๊กต็อก ระบุว่า เอาแล้วชาวพิษณุโลก นี่คือคราฟท์เบียร์ตัวแรกของจังหวัดพิษณุโลก ชื่อ Phitlok Session IPA เดี๋ยวเราลองมาดูกันว่ารสชาติเป็นอย่างไรนะครับ พร้อมดมและเล่าถึงรสชาติ ก็จะมีกลิ่นสดชื่นของผลไม้ และย้ำว่ารสชาติตรงปก พรีเซ็นต์ความเป็นพิษณุโลก


ทำให้มีผู้มาแสดงความเห็นชื่นชมทั้งในเฟซบุ๊ก และติ๊กต็อก ระบุว่าอยากอุดหนุนและขอพิกัดเพื่อไปซื้อตามจำนวนมาก ขณะที่บางส่วนแสดงความเห็นต่าง ระบุว่า ตามกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งโพสต์เชิญชวนยิ่งผิดเต็มๆ

------------------------------------------

วานนี้ (14 ส.ค. ) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา โพสต์ภาพคราฟเบียร์ทางโซเชี่ยลว่า ในหลักการของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมในเรื่องการโฆษณาไว้ มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้องสังคมไม่ให้มีการโฆษณา มาตรา 32 ระบุใจความสำคัญไว้ 2 กรณี คือ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า คือการโฆษณาเสนอขายหรือส่งเสริมการขายกฎหมายห้าม และอีกกรณีคือห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับการมีข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ซึ่งเป็นหลักกฎหมายใช้บังคับกับทุกคน


นายราเมศ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในส่วนของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร ว่า จากข้อเท็จจริงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า มีการโพสต์แสดงชื่อแอลกอฮอล์จริงหรือไม่ ตอบได้ตรงกันคือ มีการโพสต์ภาพคราฟเบียร์จริงและเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน


ประการต่อมาที่ต้องวินิจฉัยต่อคือ “เอาแล้วๆๆๆๆพิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลก……”  ถือว่าเป็นข้อความหรือพฤติการณ์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้คนอื่นอยากจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ตอบได้ตรงกันอีกเช่นกันคือ มีข้อความที่อวดอ้างชักจูงใจให้คนอื่นดื่มเพราะบอกว่าเป็นของดี สื่อสารออกไปเพื่อให้คนอื่นอยากดื่ม เข้าองค์ประกอบกฎหมายทุกประการ ต้องดำเนินคดีเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินตามกฎหมาย ผิดถูกก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง


นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฏร การปฏิบัติตนตามหลักกฎหมายบ้านเมืองคือสิ่งสำคัญ เรื่องนี้ก็ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ความเห็นของตนก็แค่ความเห็นส่วนตัว อาจจะมีใครเห็นต่างจากนี้ก็ได้ แต่นายปดิพัทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะตนในฐานะประชาชนคนหนึ่งมีสิทธิที่จะติติงได้ว่า “ท่านผู้ทรงเกียรติไม่ควรทำสิ่งนี้” จะมีแนวในการแสดงออกอย่างไรก็ควรคำนึงถึงสังคมและกฎเกณฑ์กติกาบ้าง เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็นในวันสองวันนี้แน่นอน

----------------------------------------------------

ต่อมา นายปดิพัทธ์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีนี้ว่า “ผมคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดี ที่สังคมจะได้มาตั้งคำถามกันเกี่ยวกับความชอบธรรมของมาตรา 32” นายปดิพัทธ์ กล่าว


เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากมีคนไปร้อง และตอนนี้มีนายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาตำหนิว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นถึงรองประธานสภาฯ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิที่เขาจะมาติง แต่ตนเป็นรองประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นเสมียนบรรจุกฎหมาย ตนเองก็ต้องมีความคิดที่จะเสนอต่อสังคมได้เฉกเช่นเดียวกัน และตนก็คิดว่ามาตรา 32 เป็นซีรี่ย์ที่จะต้องทำการผลักดันให้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้าด้วย


“ผมไม่ได้เมาแล้วขับ ผมไม่ได้เมาแล้วทำร้ายใคร แล้ว ผมเองก็มีความภาคภูมิใจมากที่ผลิตภัณฑ์ของชาวพิษณุโลกควรจะมีคนอื่นได้เห็นด้วย เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมอะไรทั้งสิ้น” นายปดิพัทธ์ กล่าว


เมื่อถามย้ำว่าไม่กังวลใช่หรือไม่หากมีคนไปร้อง นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก็ร้องทุกเรื่องอยู่แล้ว เรื่องใหญ่ๆ ไม่เคยร้อง เรื่องคุณสมบัตินาฬิกา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี , ยาเสพติด ผู้ต้องหาอะไรไม่เคยมีใครร้อง แต่ก็มาร้องเรื่องเล็ก ไม่เห็นเป็นสาระเลย


เมื่อถามถึงโพสต์ทวิตเตอร์ เมื่อวานที่นายปดิพัทธ์ ยืนยันว่าจะไม่ลาออก เมื่อมีเรื่องนี้มาประกอบด้วย ก็ยังยืนยันว่าจะไม่ลาออกใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องลาออกเป็นการตัดสินใจของพรรค ซึ่งขณะนี้พรรคก้าวไกลยังไม่ตัดสินใจ แต่กลับมีคนอื่นมาตัดสินใจแทนเต็มไปหมดเลย ว่าตัวเองจะต้องลาออกอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็มีข่าวพร้อมด้วยว่าตนยุติการปฎิบัติหน้าที่แล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ตนได้รับการเลือกตั้งจากสภาฯ และตนได้รับการโปรดเกล้าให้ทำหน้าที่รองประธานสภาฯ แล้วเพราะฉะนั้น ตนจะทำหน้าทีเต็ม 100% จนกว่าที่พรรคจะมีมติเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้น ตนจึงย้ำเพื่อความชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีใครมาบิดเบือนหรือกดดันกัน



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/BVtPl7dkXqM

คุณอาจสนใจ

Related News