เลือกตั้งและการเมือง
แกนนำ-ผู้สนับสนุน 'พรรคประชาชน' โพสต์น้อมรับความพ่ายแพ้ เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก
โดย thichaphat_d
16 ก.ย. 2567
28 views
วานนี้ 15 ก.ย. 2567 สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 โดยมีผู้สมัคร 2 ราย ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และ หมายเลข 2 นายจเด็ศ จันทรา หรือ บู้ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
โดย กกต.พิษณุโลก รายงานผลการนับคะแนน (อย่างไม่เป็นทางการ) นับแล้ว 92.31% พบว่า นายณฐชนน ได้ไป 28,307 คะแนน ด้านนายจเด็ศ ได้ไป 35,093 คะแนน ไม่เลือกผู้ใด 6,650 คะแนน บัตรเสีย 1,045 ใบ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตส.ส.พิษณุโลก เขต 1 โพสต์ X หรือทวิตเตอร์ เมื่อเวลา 18.51 น.ว่า "ขอยอมรับความพ่ายแพ้ และแสดงความยินดีกับคุณบู้ จเด็ศ จากพรรคเพื่อไทยด้วยครับ ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ทุกการรณรงค์ที่เกิดขึ้นใน #เลือกตั้งซ่อมเขต1พิษณุโลก ครับ"
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน โพสต์ข้อความภายหลังพรรคประชาชน แพ้เลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลก ว่า
“ยอมรับความพ่ายแพ้ แสดงความยินดีกับผู้ชนะ คุณจเด็ศ จันทรา
ให้กำลังใจโฟล์ค อ๋อง ทีมงานพิษณุโลก และพรรคประชาชน
ถอดบทเรียน เตรียมพร้อมต่อสู้กับการสนธิกำลังของ “ชนชั้นนำ 3 ฝ่าย : ชนชั้นนำดั้งเดิมจารีต ชนชั้นนำการเมืองจากทุกพรรค ทุกค่าย ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ” ที่จะนำ “พิษณุโลกโมเดล” ไปขยายผลในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ
ต้องช่วยกันต่อสู้ ยืนหยัดยืนยันต่อไปว่า ประเทศไทยยังมีความหวัง ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ด้วยพลังทางการเมืองใหม่”
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ แกนนำคณะก้าวหน้า ก็โพสต์ผ่าน X พร้อมแนบผลการเลือกตั้งที่นับแล้วร้อยละ 69.23 ว่า #เลือกตั้งซ่อมเขต1พิษณุโลก ยินดีกับคุณบู้และพรรคเพื่อไทยด้วยค่ะ พวกเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ ยอมรับผลที่ออกมาค่ะ
สำหรับท่านที่สงสัยว่าทำไมพรรคประชาชนแพ้ คะแนนหายไปไหน 10,000 เพราะหมออ๋องเมื่อปี 2566 ได้ถึง 40,000 คะแนน
ข้อเท็จจริงคือ เมื่อเทียบเป็น % กับผู้มาใช้สิทธิ์ โดยคิดเป็นสัดส่วนคะแนนที่ได้ เทียบกับคะแนนบัตรดีทั้งหมด
หมออ๋องได้ 41.3%
คุณโฟล์คได้ 40.25% คุณบู้ได้ 48.71%
เพราะฉะนั้น ปัจจัยของความพ่ายแพ้ มาจาก 2 สาเหตุหลัก
1. เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า คนมาใช้สิทธิน้อยกว่าเดิม (เลือกตั้ง 66 คนใช้สิทธิ 70% ครั้งนี้ 54%) หมายความว่าเราล้มเหลวในการรณรงค์ให้คนกลับบ้านไปเลือกตั้ง
2. พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 48% (ไม่ใช่ 2 เท่าตามที่เห็นจากคะแนนดิบ)
ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความว่า “กราบเรียนประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดที่เคารพครับ ก่อนอื่น ผมขอขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 และต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้ง (ผลอย่างไม่เป็นทางการ) คุณจเด็ศ จันทรา ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 2
พรรคประชาชน พร้อมเดินหน้าทำงาน รับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชน ตามแนวทางและอุดมการณ์เดิมต่อไป ผมอยากกล่าวคำขอบคุณให้กำลังใจคุณโฟล์ค รวมถึงทีมผช.หาเสียง เพื่อนสส. ทีมงานหลังบ้าน รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคทุกคน ทุกคนคือความภาคภูมิใจของผม และพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผู้ทรงอำนาจสูงสุดครับ
การเลือกตั้งซ่อม เขต 1 พิษณุโลกครั้งนี้ ทุกคนทำอย่างเต็มที่ ดีที่สุดแล้ว นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภาคภูมิใจ ไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจ ทุกการเลือกตั้ง มีแพ้ มีชนะ มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ส่งผลต่อการแพ้ชนะ
สำหรับผม สิ่งเดียวที่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้บอกกับพวกเราก็คือ หนทางในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่อทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนนั้นไม่ง่าย และเป็นการต่อสู้ระยะยาว ที่พวกเราต้องเดินหน้ากันต่อไป
ซึ่งผมมั่นใจในตัวโฟล์คและเพื่อนที่ร่วมเดินทางกันมาตั้งแต่สมันอนาคตใหม่ ณ วันนั้นเราตัดสินใจมาทำงานการเมืองเพราะไม่ได้คาดหวังในชัยชนะที่จะได้มาในระยะสั้น ๆ
แต่เราต้องการเข้ามาทำงานการเมืองระยะยาว เก็บชัยชนะทีละเล็กทีละน้อย แพ้บ้าง ชนะบ้าง แต่ทำอย่างไรให้ทุก ๆ การแพ้ คือชัยชนะย่อม ๆ ที่เรารุกคืบเข้าไปอยู่ในใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้มากขึ้นทีละขั้น เดินหน้าทำงานรับใช้ประชาชน สร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงกันต่อครับ
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ระบุว่า
“เรายอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มใจ และขอแสดงความยินดีกับคุณจเด็จ ผู้ชนะด้วยครับ
ไม่เป็นไรนะครับพรรคประชาชน เชื่อว่าเพื่อนๆ จะไม่เสียกำลังใจ
การเมืองคือเกมส์ยาว ต้องใช้ยุทธศาสตร์และความมานะ มีแพ้มีชนะเป็นปกติ ชนะอาจไม่ใช่จุดหมาย แพ้อาจไม่ใช่ปลายทาง ยังต้องสู้กันอีกหลายยกครับ หวังว่าจะไม่หยุดทำงานเพื่อประชาชนต่อไป พวกคุณจะเก่งขึ้นอีก พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่าท้อแท้นะครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณชาวพิษณุโลกทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ว่าคุณจะเลือกพรรคใดก็ตามครับ”
ทางด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน โพสต์ว่า “ยอมรับและไม่มีอะไรแก้ตัว ทุกการเลือกตั้ง ต่างพื้นที่ ต่างบริบท ต่างกติกา ยากทั้งนั้น ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อย่างไรก็ตามดิฉันยอมรับการผลเลือกตั้งที่ออกมาในครั้งนี้
เมื่อดูจากความเข้มข้นของ market share (สัดส่วนคะแนนที่ได้เทียบกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์)เปรียบเทียบแล้ว ครั้งนี้เราเพิ่มขึ้นจากครั้งที่หมออ๋องชนะเลือกตั้งปี 66 จาก 40% เป็น 45%
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนและให้กำลังใจทุก ๆ ท่าน อย่าเสียขวัญ เพราะชนะก็ไปตลอดไป แพ้ก็ไม่ตลอดไป ครั้งที่แล้วหมออ๋องเคยได้ 16,000 คะแนนจากคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกข้ามเขต ซึ่งในการเลือกตั้งซ่อมแบบนี้ยังไม่อนุญาตให้ทำได้
ขอบคุณชาวพิษณุโลกทุกท่านที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขอบคุณจากใจ
สู้ต่อไป
#เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_MClcurOiz8