“จตุพร” บอกไม่เกินคาด “ทักษิณ” เลื่อนกลับไทย 10 ส.ค.อ้างเหตุผลสุขภาพ

“จตุพร” บอกไม่เกินคาด “ทักษิณ” เลื่อนกลับไทย 10 ส.ค.อ้างเหตุผลสุขภาพ พร้อมทำนายล่วงหน้า หมอให้พักรักษาเป็นระยะๆ “เอาที่ท่านสบายใจ” ย้ำชัด การกลับบ้านกับการตั้งรัฐบาลยากพอกัน ชี้สถานการณ์เพื่อไทย เป็นรอง ถูกบีบหนักจากขั้วรัฐบาลเดิม ฟันธงปลายทาง ไม่พ้นมือ “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ



นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร แจ้งเลื่อนเดินทางกลับไทยจากวันที่ 10 ส.ค.นี้ ไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ เนื่องจากหมอเรียกไปตรวจร่างกายก่อน ว่าเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่ลงตัวหรือไม่ ก็ย้ำว่า ทุกเรื่องมีความสัมพันธ์กัน แม้จะเป็นคนละกรณี ซึ่งการประกาศกลับบ้านของ นายทักษิณ เหมือนทุกครั้ง คือ เริ่มต้นด้วยการดีล ลงท้ายด้วยการดีลไม่สำเร็จ



“ส่วนเหตุผลที่ระบุว่า หมอเรียกไปตรวจร่างกายนั้น ผมเคยพูดไว้แล้วว่า เหตุผลการเลื่อนที่ดีที่สุด คือการเจ็บไข้ได้ป่วยนี่แหละ ซึ่งพูดมาหลายวันอยู่แล้ว และขอพูดเผื่อไว้ด้วยเลย หลังจากไปรักษาแล้ว หมอจะให้พักเป็นระยะ คือ ผมไม่อยากไปวิพากษ์ จะเป็นการซ้ำเติมกัน อะไรกัน ดังนั้นเรื่องการจะกลับบ้านนั้น เอาที่ท่านสบายใจก็แล้วกันที่ประกาศ เพราะผมเห็นสถานการณ์ล่วงหน้าอยู่แล้ว”



และยังมองว่า การจัดตั้งรัฐบาลจากนี้จะยากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากอำนาจการต่อรองของพรรคเพื่อไทย ที่เคยมีสูง จนถึงวันที่สลัดมือจากพรรคก้าวไกล เป็นรองทันที กลายเป็นพรรคที่มานั่งกิน “มินต์ช็อก” ที่พรรคเพื่อไทย ต่างเป็นต่อในสถานการณ์ขณะนี้ อำนาจการต่อรองอยู่ในซีกพรรค 188 เสียง โดยฉับพลัน



ดังนั้น “ผมไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทย ขณะนี้จะได้นายกรัฐมนตรีได้อย่างไร จากที่ตั้งใจจะมาเป็นหัวหน้า แต่กลายเป็นสมุนโดยปริยาย”



นายจตุพร กล่าวว่าความตั้งใจเดิมของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่มีพรรค 2 ลุง จะต้องหาเสียงจาก สว.มาโหวตกว่า 110 เสียง ถามว่าจะมาจากไหน เพราะล้วนมีที่มาเกี่ยวข้องกับ 3ป. ดังนั้นการให้ สว.มาโหวตให้ โดยไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปไม่ได้เลย ตนเห็นว่าท้ายที่สุดจะหนีการจับมือกับลุง ไปไม่พ้น แต่สถานการณ์ไม่ง่าย ก็ยากเหมือนการกลับบ้านของนายทักษิณ

นายจตุพร ระบุว่าการคิดการใหญ่ โดยสูญเสียประชาชนที่เคยสนับสนุน ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย มีประวัติการต่อสู้ มีความตาย มีคนบาดเจ็บ สูญสิ้นอิสรภาพ “คุณสลัดมือจากพรรคก้าวไกล มือแรกที่คุณจะไปจับ คือ ประชาธิปัตย์ และมือสุดท้ายรวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ ประชาชนที่เลือกคุณ จะไม่เจ็บปวดหรือ ผมถึงบอกให้ดูแววตาประชาชนบ้าง เขารู้สึกอย่างไร ทันทีที่ตัดสินใจแบบนี้ประชาชนเขาก็ทิ้ง ผมเชื่อว่าวันนี้วิกฤตศรัทธาขั้นสูงสุดอยู่แล้ว และที่สำคัญ ทิ้งประชาชนแล้ว และไม่สำเร็จด้วยที่จะไปจัดตั้งรัฐบาล เพราะมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ”



นายจตุพร เชื่อว่าท้ายสุดพรรคเพื่อไทยอาจจะหลุดมือในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยระหว่างทางนี้ อาจทดสอบนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ได้ หรือข้ามไปบุคคลอื่นเสนอชื่อเรียงมา แต่ไม่สำเร็จ และปลายทาง จะไม่พ้นมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นั่งรออย่างสบายใจอยู่