'สว.กิตติศักดิ์' ยอมหน้าแตก ลั่นนายกฯไม่ได้มาจาก 'พท.' ชี้ทางออกโยนให้ 'ภูมิใจไทย' ตั้งรัฐบาล

‘สว.กิตติศักดิ์’ ยอมหน้าแตก ยันนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจาก ‘เพื่อไทย’ สวมบทโหรทำนาย ‘อนุทิน-บิ๊กป้อม’ ได้แน่ จี้ ‘เศรษฐา’ แจงปมหาเสียงแก้ ม.112 บอกเรื่องนี้เป็นของแสลง บอกเราต่อต้าน ‘พิธา’ แต่ ‘เศรษฐา’ มาทำตัวเอง แนะ ‘เพื่อไทย’ จะสลัด ‘ก้าวไกล’ ทิ้งได้ ต้องเปิดทาง ‘ภูมิใจไทย’ เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เชื่อวิน-วินทั้งสองฝ่าย ยัน ‘เพื่อไทย’ จะได้ร่วมรัฐบาลแบบไม่ผิดสัญญา MOU

วานนี้ (31 ก.ค.) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ในประเด็นต่างๆ 

ถามว่า กรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีแนวคิดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะมีปัญหาในการโหวตหรือไม่

สว.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้น่าจะมีปัญหาพอสมควร เนื่องจากเรื่องมาตรา 112 ถือเป็นของแสลงที่ สว. ยืนยันชัดเจนว่า ไม่ควรไปแตะต้องเลย ดังนั้น สิ่งที่จะแก้ได้ก็คือ นายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า ที่นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์คืออะไร และจะนำแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 นี้ ไปปฏิบัติจริงแค่ไหน ไม่เช่นนั้น เราไปต่อต้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลไว้  แต่ นายเศรษฐา พรรคเพื่อไทยมาทำเอง ก็คงจะคล้ายกัน ผลโหวตก็น่าจะคล้ายกัน

ถามว่า ได้มีการพูดคุยกันกับ สว.คนอื่นหรือไม่ ถึงเรื่องการโหวตนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี

สว.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน ตนอยู่ในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สว. ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธานกรรมาธิการ เพราะฉะนั้น มีการพูดคุยประชุมกันว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนที่มาแตะเรื่องมาตรา 112 จะไม่โหวตให้

“มันเป็นเรื่องไม่สมควรนะ มีเรื่องอื่นเยอะแยะมากมายทำไมไม่ทำ เพราะฉะนั้น เราเห็นว่าตรงนี้เป็นปัญหา มันจะเกิดความขัดแย้ง พลังเงียบที่เขารักและเทิดทูนสถาบันก็ไม่พอใจ ดังนั้น จะเกิดความขัดแย้ง ซึ่งนำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้งของคนไทยด้วยกันเอง”

ตนมีความชัดเจน ตนเห็นว่าข้อสังเกตที่พรรคก้าวไกลจะโหวตสนับสนุนให้แคนดิเดตฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคก้าวไกลจะถอยไปเป็นฝ่ายค้าน คอการเมือง เขาก็เห็นข้อพิรุธตรงนี้ว่า หากพรรคก้าวไกลโหวตให้กับแคนดิเดตฯของพรรคเพื่อไทย อาจมีการคุยหรือดีลกันหรือไม่ว่า จะไม่เชิญมาร่วมรัฐบาล ซึ่ง สว. ไม่ได้วิตกกังวลใดๆ แต่เป็นห่วงเรื่องความมั่นคง จะมีการชุมนุมและเกิดการปะทะกัน

“จะไปโหวตให้พรรคเพื่อไทย มันดูแปลกๆ ไหม หากบริสุทธ์ใจจริงๆ จะเป็นฝ่ายค้าน ก็ปล่อยเขาสิครับ ปล่อยพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับใคร จะเสนอแคนดิเดตนายกฯอย่างไร ก็ไม่ติดใจนะ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ ที่เขาไปเจอเทปที่คุณเศรษฐาไปหาเสียงไว้ว่า จะแก้มาตรา 112 ตรงนี้ต้องชี้แจงให้ชัดเจนนะครับ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ถามว่า มีเทปของนายเศรษฐาออกมาให้เห็น หากแก้อย่างไรจะมีผลผูกพันตัวเองหรือไม่

สว.กิตติศักดิ์ กล่าวทันทีว่า ตนขอสวมวิญญาณเป็นหมอเดา ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย

ถามว่า สว. เล็งใครไว้ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

สว.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ตนเข้าใจได้ และเห็นใจว่าพรรคก้าวไกลก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ สิ่งที่ตนวิเคราะห์คือ พรรคเพื่อไทยต้องหาทางออก โดยยกการจัดตั้งรัฐบาลไปให้พรรคภูมิใจไทยต่อไป

“ถ้าเป็นไปตามที่ผมวิเคราะห์จะ วิน-วิน พรรคเพื่อไทยก็จะไม่ถูกพรรคก้าวไกลตำหนิได้ เพราะตัวเองไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จีงยกให้พรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเชิญใครมาก็เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องถูกเชิญแน่นอน ประเด็นอยู่ที่ว่า พรรคก้าวไกลจะไม่มีข้ออ้างว่าพรรคเพื่อไทยผิดสัญญา ผิด MOU อะไรต่างๆ ผมขอวิเคราะห์ไว้เลยว่า สิ่งที่เป็นไปได้ตอนนี้ก็คือ พรรคเพื่อไทยส่งไม้ต่อให้พรรคภูมิใจไทยจะตั้งรัฐบาล” 

ปัญหามีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คิดว่า หากพรรคเพื่อไทยจะสลัดพรรคก้าวไกล แบบบาดเจ็บน้อยที่สุด ก็คือต้องส่งไม้ต่อให้พรรคภูมิใจไทยไปจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้เป็นรัฐบาลด้วยแน่นอน

“ผมไม่กลัวหน้าแตก ถ้าผิดก็ยอมหน้าแตก นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย ถ้าผิดก็ยอมหน้าแตกครับ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ถามว่า จะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ใช่หรือไม่

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ามี 2 ตัวเลือก คือนายอนุทิน และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

สว.กิตติศักดิ์ ย้ำว่า ที่วิจารณ์ตรงนี้ ไม่ได้ไปก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาล แต่ในเมื่อ สส. รวมเสียงกันได้ไม่ถึง 375 เสียง อำนาจจึงมาถึง สว. ตามมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญ ซึ่ง สว. ก็พิจารณาผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง เหมือนพิจารณาบุคคลที่แต่งตั้งในองค์กรอิสระ
-------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4bSLMZdaiu0