เลือกตั้งและการเมือง

'อดิศร' เชื่อโหวตนายกฯม้วนเดียวจบ เผย 2 ทางเลือกตั้งรัฐบาล อัด 'ก้าวไกล' อย่าโยนปัญหาให้เพื่อน

โดย nattachat_c

31 ก.ค. 2566

351 views

วานนี้ (30 ก.ค. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดประชุม 8 พรรคร่วม ภายหลังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภารัฐสภา นัดประชุมรัฐสภา เพื่อเสนอชื่อบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 สิงหาคม ว่า


เบื้องต้น ยังไม่กำหนดวันจะนัดประชุม 8 พรรคร่วม เนื่องจากแกนนำพรรคเพื่อไทยจะต้องมีการประชุมหารือกันก่อน เพื่อสรุปประเด็นที่ได้จากการไปพูดคุยเพื่อขอเสียงสนับสนุน จากทั้ง สว.และพรรคการเมืองอื่น หลังจากนั้น ถึงจะนำไปรายงานต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วม ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป


เมื่อทางพรรคเพื่อไทยได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะมีการนัดหารือกับ 8 พรรคร่วม อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะนัดหารือก่อนวันที่จะมีการโหวตเลือกนายก หนึ่งถึงสองวัน เพื่อให้เป็นมติและทิศทางของ 8 พรรคร่วม ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 4 สิงหาคม นี้

-------------

วานนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวความคืบหน้า เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 ส.ค. 66 โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 ส.ค.นี้ พรรคเพื่อไทย จะส่งชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติจะพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่


ซึ่งดูแนวโน้มแล้ว ทิศทางเป็นบวกที่จะได้เสียงเกินครึ่ง จะลงมติจบในวันเดียว ไม่ยืดเยื้อ เท่าที่ฟังเสียงจากภาคธุรกิจ ก็อยากให้มีรัฐบาลมาแก้ปัญหาประเทศโดยเร็วที่สุด จะให้รอไปโหวตเลือกนายกฯอีก 10 เดือน คงรอไม่ไหว


นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเสียงโหวตจะได้เพิ่มจากฝ่ายใดบ้าง ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้อยู่ร่วมทีมเจรจา แต่เท่าที่ฟังจากผู้ใหญ่ในพรรคบอกว่า มีทิศทางในทางที่ดี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง


หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนโหวตนายกฯ ก็ต้องมาดูเรื่องการฟอร์มทีมจัดตั้ง จะต้องมาพิจารณาว่า พรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล มีเคมีตรงกันด้หรือไม่ ถ้าเอาพรรคที่มีเคมีอุดมการณ์ไม่ตรงกันมาร่วมงาน คงโดนประชาชนด่า ปัจจัยเหล่านี้ ต้องนำมาพิจารณาในการตั้งรัฐบาล


“ยอมรับว่า เราก็มีความหนักใจอยู่ คงจำเป็นต้องแยกแยะกันระหว่างเสียงที่โหวตให้เป็นนายกฯ กับพรรคที่จะมาเป็นรัฐบาลร่วมกัน ต้องให้ตัวนายกฯคนใหม่พิจารณาด้วยว่า จะทำงานร่วมกับฝ่ายใดบ้าง” นายวิสุทธิ์ กล่าว

-------------
วานนี้ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ว่า


เชื่อว่า จะโหวตนายกรัฐมนตรีได้ม้วนเดียวจบ น่าจะมีเสียง สส.สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. ถึง 376 เสียงได้ คาดว่าเสียงที่มาเติมให้ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงจาก สส.


เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท.ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ นายอดิศร กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพรรคเหล่านี้จะโหวตให้หรือไม่ แต่เชื่อว่าทุกพรรคอยากแก้ปัญหาให้ประเทศเดินต่อไปได้


นายอดิศร กล่าวต่อว่า ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลขั้วเดิม ยังตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมรัฐบาลด้วย จะไม่โหวตสนับสนุนให้นั้น คงต้องมีการคุยกันเพื่อหาทางออก


ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะลงเอยแบบไหน แต่ดูแนวโน้มแล้ว โฉมหน้ารัฐบาลใหม่จะเป็นรัฐบาลผสมแน่นอน เพราะไม่มีใครได้เสียงเกินครึ่ง ไม่อยากให้แยกแยะว่า ใครเป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรืออนุรักษ์นิยม เพราะทุกพรรคมาจากการเลือกตั้ง และมาจากรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน สามารถทำงานร่วมกันได้


“ถ้าจะตั้งรัฐบาลแบบโลกสวยก็ต้องเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด จะมีความสุขมากที่สุด แต่ต้องมีเสียง สว.มาช่วย และ สว.เองก็จะไม่ถูกทัวร์ลง แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ จึงอาจต้องตั้งรัฐบาลแบบโลกไม่สวย มีความขรุขระ ใช้ 312 เสียงเดิม บวก สส.พรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรค 2 ลุง เพราะถ้ามีพรรค 2 ลุงมา จะทำร้ายจิตใจประชาชนมากเกินไป แนวทางนี้เป็นการแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างในการตั้งรัฐบาลที่ต้องยึดหลักนี้ ต่างฝ่ายอาจจะต้องลดจุดยืนตัวเองลงบ้าง และเอาจุดต่างมาคุยกัน ถ้าไม่เอาจุดต่างมาคุยกันก็ไปต่อไม่ได้ หรือถ้าจะเอาพรรค 2 ลุง มาร่วมรัฐบาลจริงๆ ก็ต้องเป็นมติของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องหาเหตุผลมาตอบประชาชนให้ได้” นายอดิศรกล่าว


นายอดิศร กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาขณะนี้ดูเหมือนพรรค พท.จะไปแก้ปัญหาให้พรรค ก.ก. ทั้งที่พรรค พท.หาเสียงจะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมให้ประชาชน ไม่ได้มาแก้ปัญหาให้พรรค ก.ก. แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ละพรรคต้องไปแก้ไขปัญหาของตัวเอง ซึ่งพรรค ก.ก.ต้องไปตัดสินใจแก้ปัญหาตัวเอง อย่าโยนปัญหาให้คนอื่น เช่น กรณีการแก้ไขมาตรา 112 ต้องไปหาวิธีจะแก้ปัญหาของตัวเองอย่างไร อย่าเป็นปัญหาให้เพื่อน

------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HFxHOdJ47Nk


คุณอาจสนใจ

Related News