เลือกตั้งและการเมือง

‘ชัยธวัช’ ไม่เห็นด้วย ‘ชลน่าน’ เปิดทางเลือก พรรคอันดับ 3 แกนนำตั้ง รบ. โยน 'เพื่อไทย' ตัดสินใจเลือกขั้ว

โดย petchpawee_k

25 ก.ค. 2566

18 views

‘ชัยธวัช’ ไม่เห็นด้วย ‘ชลน่าน’ เปิดทางเลือกใหม่ ‘พรรคอันดับ 3’ เป็นแกนนำตั้ง รัฐบาล จี้เพื่อไทย ตัดสินใจเลือกเลย อุดมการณ์ตรงกับขั้วไหน เชื่อหาก 8 พรรคร่วมยังจับมือกันแน่น แรงกดดันโหวตนายกฯ จะส่งถึง สว.


เมื่อวาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์คุณสุรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าการเชิญพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิมมาหารือ ไม่ใช่การเชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่ยอมรับว่าแนวโน้มอุดมการณ์ไม่ตรงกัน และ ติดเงื่อนไข มาตรา 112


ช่วงหนึ่งคุณสรยุทธ์ ถามว่า ถ้า 8 พรรค ไม่ได้เสียงจากส.ว. 63 เสียง จะทำให้มี 2 ทางเลือกคือ ก้าวไกล ยอมเสียสละออกไป จะได้เสียงจาก ส.ส. และส.ว. จัดตั้งรัฐบาล หรือ 8 พรรค ยืนหยัด แล้วรอจังหวะเวลาให้ ส.ว.หมดอำนาจ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นแนวทางน่าจะเป็น แต่อาจมีแนวทางอื่น เช่น หากพรรคอันดับ 2 จัดไม่ได้ อาจส่งต่อให้พรรคอันดับ 3 ทั้งนี้ต้องรอประชุม 8 พรรคร่วม เพื่อหาข้อสรุปในวันนี้ (25 ก.ค.)


ส่วนข้อเสนอให้รอ 10 เดือน เพื่อให้ สว.หมดอำนาจ นพ.ชลน่าน มองว่าปัญหาประเทศไม่สามารถร้างรารัฐบาลได้ ในมุมเพื่อไทย ข้อเสนอนี้ไม่ควรเกิด เนื่องจากรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัด


และถ้าวัดจากคะแนนเลือกตั้ง อีกฝ่ายเป็นเสียงข้างมาก เพราะ 10 พรรคคือกลุ่มเดียวกัน มี 188 เป็นอันดับ 1 ในสภา ส่วนก้าวไกล เป็นอันดับ 2 มี 151 เสียง เพื่อไทย เป็นอันดับ 3 มี 141 เมื่อไม่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาด จึงมีความลำบาก


เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกล ยืนยันให้จับแน่นเป็น 8 พรรค เพื่อไทยจะจับด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าข้อเสนอแบบนั้น ก็ต้องมาทำงานกันว่าจะเป็นรัฐบาลได้อย่างไร


ต่อมานายแพทย์ชลน่าน ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงกรณีที่หากพรรคอัน 1 และอันดับ 2 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หากหมดปัญญาจะส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ 3 ว่า ตนไม่อยากขยายความเดี๋ยวจะตีความผิดอีก เนื่องจากมีการเสนอในหลายทางเลือก ตนเพียงแค่บอกว่าเป็นทางเลือกหนึ่งเท่านั้น ส่วนจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นเราไม่รู้ และตนก็บอกชัดว่าจะเป็นการมอบอำนาจให้เสียงข้างน้อย


เมื่อถามต่อว่า ต้องให้จบที่พรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เราจะพยายาม ในฐานะแกนนำภายใต้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนกระแสในทวิตเตอร์มีการย้อนคำพูดต่างๆ ที่เคยพูดได้กลับประชาชน แล้วนำกลับมาโจมตีพรรคเพื่อไทยนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา อะไรเป็นความจริงที่เกิดขึ้น ปัจจุบันก็ยังอยู่ และเป็นเรื่องควาทชอบธรรมที่จะถูกทวงถาม และเราเองก็มีหน้าที่ตอบคำถาม แต่ต้องดูจังหวะเวลาและโอกาสที่เกิดขึ้น จะตอบเป็นจังหวะๆ ไป

-------------------------------------------------------------

‘ชัยธวัช’ เชื่อหาก 8 พรรคร่วมยังจับมือกันแน่น แรงกดดันโหวตนายกฯ จะส่งถึง สว. ยืดเยื้อไม่ถึง 10 เดือน ตั้งรัฐบาลได้

ในวันเดียวกัน  นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์โทรศัพท์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคการเมืองอีกฝ่ายมาพูดคุยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศในการจัดตั้งรัฐบาล และมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวร่วมกันว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดว่าเชิญพรรคการเมืองอีกฝ่ายมาพูดคุยกัน ยังไม่ได้เจรจาร่วมรัฐบาล


นายชัยธวัช กล่าวว่า จริง ๆ พอจะเห็นแนวทาง ก็คงสรุปไม่ได้ว่าวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย จะนัดประชุมจะมีข้อเสนออะไรบ้าง สิ่งที่อาจประเมินได้ลำบากคือเสียง สว. เพราะ สว.คงไม่ใช่ลักษณะเหมือนมีตัวแทนพรรคการเมืองมานั่งคุยแล้วสามารถสรุปได้ เพราะไม่มีความเป็นเอกภาพขนาดนั้น


เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มันยากลำบาก ก็เหมือนปี 62 ก็ยากลำบาก ในปีนั้นพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 พรรคอนาคตใหม่เป็นอันดับ 3 พรรคพลังประชารัฐเป็นอันดับ 2 /พรรคอันดับ 1 ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชิงนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นปัญหาจากระบบรัฐธรรมนูญที่วางไว้ ปฏิเสธไม่ได้ปัยจัยสำคัญคือตอนนั้นพรรคพลังประชารัฐ สามารถที่จะรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง


ตอนนั้นพรรคอันดับ 1 ก็ยากลำบากไม่สามรารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มาปีนี้ ปี 66 เรายังอยู่ในระบบเดิม มีความยากลำบากเพราะมีเสียง สว. เดิมปี 62 สว. เคยบอกว่า สส.รวมกันได้เกินกึ่งหนึ่งก็จะโหวตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์  /ปี 66 ไม่พูดเหมือนเดิม


นายชัยธวัช ย้ำว่า “สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม ไม่ต้องนับความไม่พอใจของคนในสังคมแต่ผลการเลือกตั้งมันชัด พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ต้องการเห็นเพื่อไทย ก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลใหม่เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม เฉพาะ 2 พรรครวมเสียงกัน 292 เสียง ฉะนั้นแม้ว่าฝั่งที่ชนะการเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลลำบาก แต่การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้เลย อยู่ที่ สว. จะเอาอย่างไร”


“อย่าเอาความกดดันแรงกดดันหรือปัญหามาโยนให้กับพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ว่าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ผมคิดว่าประชาชนไม่ได้มองอย่างนั้น เชื่อว่าถ้า 8 พรรคการเมือง โดยเฉพาะเพื่อไทยและก้าวไกลจับมือกันแน่น จะไม่สามารถพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเดินต่อไปยังเลือกนายกฯไม่ได้อีกสังคมจะตั้งคำถามกับ สว. และกลุ่มพรรคการเมืองที่พยายามจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย”


นายชัยธวัช ระบุอีกว่า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีความสำคัญ ตนคิดว่าถ้าเราจับมือกันให้มั่นคงไม่ต้องรอไปถึง 9 เดือน 10 เดือน อย่างที่หลายคนบอกให้รอ ปฏิสธไม่ได้ว่าตอนนี้ทางเพื่อไทยก็กังวลเรื่องการปิดล็อค การตีความข้อบังคับว่าจะให้โหวตแคนดิเดตได้คนเดียวในครั้งเดียว ล็อคนี้อาจถูกปลดไปก็ได้


ทราบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งไปยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าตีความได้เร็วเกิดการปลดล็อคนี้ก็จะดี หากไม่มีการยืดเยื้อ เรื่องเลื่อนยังไม่มีการคุยกัน ก็มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอให้เลื่อนด้วยเหตุผลไม่มั่นใจในการรวมเสียงหรือกังวลเรื่องการตีความข้อบังคับ ซึ่งก็เป็นไปได้ สังคมคงไม่ได้ตำหนิอะไรน่าจะเข้าใจสถานการณ์


เมื่อถามจะอธิบายจุดยืนของพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า “ยกตัวอย่างรอจัดตั้งรัฐบาล 10 เดือน อาจจะสุดขั้วไปดูน่ากลัวไป คิดว่า หาก 8 พรรคจับมือกันแน่น ๆ คงจะไม่ยาวไปขนาดนั้น ซึ่งในเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน และขณะนี้มีหลายเรื่องต้องทำ ทั้งความพยายามในการหาเสียง สว.ให้มากที่สุด หรือการปลดล็อกข้อบังคับการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำ”


ส่วนการพูดคุยกันของพรรคการเมือง เมื่อเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว ไปคุยกับใครมา มีแนวทางอย่างไรก็มานำเสนอในที่ประชุม  และเมื่อถูกถามว่า 10 เดือน ถือเป็น worst case scenario ใช่ไหม ก็อาจจะพูดเช่นนี้ได้ แต่ต้องยอมรับว่านานไปจริง ๆ ถ้ามันต้องยืดเยื้อไปขนาดนั้น บ้านเมืองเกิดปัญหาเพราะพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ตนคิดว่าอันนี้โจทย์น่าจะผิด


ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่มองว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้งเป็นตัวปัญหา ต้องตั้งหลักกันให้มั่น ตอนนี้ประชาชนรอดูเงียบ ๆ และเริ่มส่งเสียงออกมาว่าไม่อยากเห็นพรรคการเมืองที่เขาเลือกและชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 ทำให้เขาผิดหวัง


เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล ไม่กลัวเหรอถ้าหากยันเอาไว้ระหว่างนี้มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วดูดงูเห่าไป  นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ง่ายขนาดนั้น งูเห่า 60-70 คน ไม่ได้เป็นเรื่องง่าย แต่ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ตนมมั่นใจว่าก้าวไกล เอาลูกพรรคอยู่ แต่จิตใจคนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ ไม่มีอะไรแน่นอน ตนยังเชื่อการพยายามดูดงูเห่า


นักการเมือง สส.คนหนุ่มสาวได้เห็นแล้ว เมื่อไหร่ถ้าเป็นงูเห่าอนาคตทางการเมืองหายไปทันที ถ้าเป็นไปได้ง่ายคงเห็นภาพ พล.อ.ประวิตร เสนอเป็นแคนดิเดตชิงนายกฯ ไปแล้ว ถามว่าหากอีกขั้วตั้งรัฐบาลจริง ๆ จะทำอย่างไร  นายชัยธวัช ไม่เชื่อว่ารัฐบาลแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะมันสามารถที่ล้มได้ภายใน 1 เดือนด้วยซ้ำ


ปรากฎการณ์ความที่พยายามตีความข้อบังคับข้อ 41 เพียงแค่ต้องการไม่ให้โหวตชื่อนายพิธา ซ้ำ เป็นการแสดงออกชัดเจนว่าการโหวตซ้ำไปเรื่อย ๆ  มีแรงกดดันต่อ สว. จริง ๆ ไม่งั้นก็ปล่อยให้มีการโหวตครั้งที่ 2 ไปแล้ว เพราะนายพิธา ประกาศชัดเจนถ้าได้เสียงไม่มากพอจริง ๆ ก็พร้อมจะเปิดทางให้เพื่อไทย / การประชุมสภาครั้งที่แล้วหาก สว. ยังโหวตให้นายพิธา น้อย รวมแล้วไม่ถึง 50 คน  นายพิธา ก็พร้อมจะเปิดทาง ทุกการโหวตมีแรงกดดันต่อ สว.มากขึ้น  ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้โหวตหลายครั้ง


นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า “เมื่อประชาชนฟังการแถลงข่าวและรูปแบบวิธีการพูดคุยกัน ทำให้เข้าใจว่ากำลังชวนเข้าร่วมรัฐบาล และอาจมองว่าเป็นการยืมปากพรรคการเมืองอื่นเพื่อผลักพรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ส่วนตัวก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าการแถลงข่าวแบบนั้นเพื่ออะไร ซึ่งเนื้อหาที่มีการเตรียมไว้อยู่แล้ว ทั้งนี้ไม่รู้สึกถูกตบหน้า เพราะเราก็เฝ้าดูว่าการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร ย้ำก้าวไกลไม่ถอย”


“จุดยืนเดิมคือในเมื่อขึ้นมาเป็นนายกฯ เองไม่ได้ ก็อยากเห็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม นำโดยก้าวไกล เพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน ยุติการสืบทอดอำนาจขั้วรัฐบาลเดิม ซึ่งจะเป็นจริงได้ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานการจับมือกันให้แน่นของ 8 พรรคการเมือง ซึ่งไม่ง่ายจะจัดตั้งรัฐบาลภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ยากที่จะเปลี่ยนไปเป็นขั้วอื่น”


นายชัยธวัช “เพื่อไทยเป็นเจ้าภาพต้องตัดสินใจ หากตัดสินใจสลาย 8 พรรคร่วมและ MOU ที่ทำร่วมกันคงห้ามเพื่อไทยไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าอุดมการณ์และการทำงานทางการเมืองไม่ตรงกับก้าวไกล เพื่อไทยคงต้องเลือกว่าอุดมการณ์และการทำงานทางการเมืองตรงกับใคร ก้าวไกลยืนอยู่บนแนวทางเดิม เราอยากเห็นเป้าหมายสุดท้าย เราไม่ได้เป็นนายกฯ เราอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นขั้วรัฐบาลใหม่


ยุติการอำนาจขั้วเดิม ถ้าเพื่อไทยบอกเป็นไปไม่ได้จะไม่เลือกทางนี้แล้วก็เป็นสิทธิ์ของเพื่อไทยที่จะตัดสินใจ ก้าวไกลพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อทำให้การจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงค์บรรลุคือเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่ ย้ำก้าวไกลรักษาสัจจะ”


กรณีที่ นพ.ชลน่าน ระบุว่าหากพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อาจยกให้พรรคอันดับ 3 จัดตั้งรัฐบาล  นายชัยธวัช ให้ความเห็นว่า “ก้าวไกลคงไม่ได้ตัดสินใจที่จะยกให้และเราคงไม่เห็นด้วย เชื่อว่าแม้จะอยู่ในกติกาเดิม ปี 62 กับปี 66  แต่สถานการณ์ความเป็นจริงและผลการเลือกตั้งต่างออกไปมาก ความเป็นไปได้ที่ทำให้พรรคอันดับ 3 ขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นไม้ได้เลย ถ้าพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 จับกันแน่น ตนเชื่อแบบนั้น”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OPZg4iT6Tas

คุณอาจสนใจ

Related News