เลือกตั้งและการเมือง

‘แสนดี’ โพสต์ขอโทษ-ลบภาพเกลี้ยงไอจี หลังโดนทัวร์ลง ปมวิจารณ์เดือด ‘ก้าวไกล’

โดย petchpawee_k

18 ก.ค. 2566

2.5K views

วันที่ 17 ก.ค. 2566 นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือแสนดี บุตรชายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ลงใน ไอจีสตอรี่ ต่อสถานการณ์การเมืองความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย


โดยสตอรี่แรก ก็ได้ระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ถึงเวลาที่ส้มต้องเสียสละให้ฝั่งแดงแล้ว  คุณได้ไปแล้ว  ให้เราเพื่อไทย นำประเทศไทยไปสู่อนาคต เราให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจปากท้องมาตลอด 20 ปี ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นเสือตัวที่ 5 เราไม่อาจจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ถ้าหากคุณมัวแต่บ่นๆแต่เรื่องประเด็นสังคม และกฎหมาย เราต้องโฟกัสไปที่เศรษฐกิจ เราจะหาเงินเข้ากระเป๋าประชาชนอย่างไร อย่าให้เราต้องทำอะไรที่แย่ๆเลย (nefarious deed) ฟังผู้ใหญ่ดูบ้าง เพื่อไทย คือพรรคของประชาชน ก้าวไกลคือพรรคของการปลุกระดม และ ต่อต้านวัฒนธรรม”


สตอรี่ที่ 2 ก็ได้โพสต์รูปภาพสูตรการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีฝ่ารัฐบาลจำนวน 277 เสียง โยแกนนำการจัดตั้งคือพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย ขณะที่อีกขั้วคือฝ่ายค้านจำนวน 214 เสียง นำโดยพรรคก้าวไกล รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และชาติพัฒนากล้า ก่อนที่แสนดีจะระบุอีกแคปชั่นว่า “อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นหรือ  ใช่  ไม่ใช่  อาจจะ”


ขณะที่สตอรี่ที่สาม 
ก็ระบุอีกว่า “ผมคิดว่าก้าวไกล และเพื่อไทยกำลังก้าวผ่านจากช่วงฮันนีมูนอย่างช้าๆ เข้าไปสู่ระยะที่เป็นพิษ และไปสู่ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งพยายามจะเอาความสงสัย และความสับสนของตัวเองไปใส่ให้กับอีกฝ่าย (abusive gaslighting manipulative) เราจะต้องสื่อสาร และแสดงความรู้สึกกันก่อนที่จะถึงขั้นแตกหัก หรือ กลับมาปรองดองกัน”


ต่อมาสตอรี่ที่ 4 ซึ่งแสนดีโพสต์ยาวซึ่งระบุว่า “ถึง ทีมพรรคก้าวไกล ผมขอพูดตรงๆ ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและคนฝ่ายเดียวกันครับ


1. ไม่มีทางแก้ม. 272 ได้  

2. ไม่มีทางแก้กฎหมายที่หลายคนเห็นต่างกันได้

3. พิธาไม่ได้เป็นนายกฯ หรอก ไม่มีวัน

4. ตราบใดที่ก้าวไกลยังฝืนส่งแคนดิเดตนายก คุณไม่มีทางชนะ

5. คุณไม่ได้ชนะแลนสไลด์ เสียงส้มกับแดงต่างกันแค่ 10 เสียง รอบของคุณจบแล้ว คุณหมดสิทธิเลือกก่อนแล้ว

6. ส.ว. กับคนทั่วไปไม่ได้แคร์การประท้วงของคุณหรอก ยังไงส.ว.ก็มีอำนาจอีก 1 ปี รอบหน้าก็ชนะให้ได้เกิน 65% เหมือนพรรคไทยรักไทยปี 48 นะ แล้วถึงตอนนั้นผมจะพิจารณาจุดยืนของผมใหม่

7. คุณไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้จริงเลย กลุ่มทุนผูกขาดและบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ต้องการคุณ เกษตรกรต้องการนโยบายปากท้อง ไม่ใช่เรื่องเพศ (gender ideology) หรือ การปลุกกระแสไร้สาระอะไรนั่น  

8. โดยสรุป ไม่มีใครอยากให้คุณได้อำนาจ มีแต่เด็กเกเรเอาแต่ใจที่สนับสนุนคุณเท่านั้นแหละ 

9. พรรคคุณอายุแค่ 2 ปี ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาคุณทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ฟ้องร้องนู่นนี่ ผู้ก่อตั้ง ทั้งสามคนก็โดนตัดสิทธิ และ พิธาก็อาจโดนตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ”


ส่วนสตอรี่ที่ 5
ระบุอีกว่า  “เอาให้ชัดๆ ผมคิดว่านโยบายของก้าวไกลก็ใช้ได้จริง เกิดการเปลี่ยนแปลง  มีการริเริ่ม ผมแค่ไม่ชอบผู้นำ และพวกที่เกี่ยวข้องกับขบวนการประท้วง ปี 2563 ผมยังสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย และผมไม่ต้องการให้เพื่อไทย จับมือกับประวิตร- อนุทิน-รวมไทยสร้างชาติ เอาล่ะ เห็นด้วยก็ได้ๆ  (ใช้คำว่า Let's just agree to disagree เป็นสำนวนแปลว่า "ไม่เห็นด้วย  แต่เห็นด้วยไปก็ได้ จะได้จบๆ  ไม่อยากเถียงต่อ" )  เราต่างมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันสำหรับประเทศไทย”


ขณะที่สตอรี่ที่ 6 ระบุอีกว่า “เหมือนว่า ผมจะกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ไปละ” ก่อนจะลงต่อในสตอรี่ที่ 7 ว่า  “คงจะไม่มีใครรับโทรศัพท์ผม หรือจ้างผมเป็นผู้จัดการพีอาร์แน่ เพราะผมพูดความจริงที่ฟังแล้วอาจจะไม่สบายใจ”


ภายหลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ต่อมา นายแสนดี ได้โพสต์ข้อความแสดงความข้อโทษระบุว่า 


"ถึงทุกคน ผมเขียนข้อความนี้เพื่อขออภัยอย่างจริงใจต่อการแสดงความคิดเห็นต่อพรรคการเมืองและบุคคลต่างๆ ผมขอแสดงความเสียใจต่อความรู้สึกที่กระทบกระเทือนต่อสาธารณชน ผมเสียใจกับการกระทำของผม และขออธิบายว่าผมแค่พยายามแสดงความคิดเห็นของผม ผมไม่ได้แสดงความเกลียดชังต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลใด อีกครั้ง ผมขอโทษจากใจจริงที่ทำให้เกิดความรู้สึกลำบากใจ ก้าวต่อไป ผมยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเรียนรู้จากทุกคน ขอโทษอย่างจริงใจ"


นอกจากนี้แสนดียังได้ลงแถลงขอโทษเป็นภาษาอังกฤษผ่านสตอรีไอจีของตนอีกด้วย โดยระบุว่า


“ผมเขียนมาเพื่อแสดงความขอโทษอย่างจริงใจ สำหรับการแสดงความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับพรรคการเมืองและปัจเจกบุคคลหลายฝ่าย ผมอยากจะขอโทษเช่นกัน สำหรับความขุ่นข้องหมองใจที่สิ่งนี้ได้อาจสร้างให้กับคนทั่วไป


“ผมเสียใจกับการกระทำของผม และอยากจะอธิบายว่าผมเพียงแค่พยายามจะแสดงความคิดเห็นของผมเท่านั้น ผมไม่ได้มีความเกลียดชังใดๆ ต่อพรรคการเมืองหรือปัจเจกบุคคลใด อีกครั้ง ผมขอแสดงความขอโทษอย่างจริงใจสำหรับความขุ่นข้องหมองใจที่เกิดขึ้น” แสนดีระบุต่อมา


“ต่อไปนี้จะรับฟังความเห็นและเรียนรู้จากคนอื่นๆ ให้มากขึ้น และจะใช้เวลาไตร่ตรองการกระทำของตนที่ได้สร้างความเจ็บปวดที่ไม่อาจเยียวยาได้ และจะเรียนรู้เพื่อเติบโตต่อไปในฐานะปัจเจกบุคคลที่จะช่วยประเทศอย่างสุดความสามารถ พร้อมทั้งยอมรับว่าตัวเองอ่อนประสบการณ์ และจะหาอ่านความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยให้มากขึ้น”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WlhLMmPdeXg

คุณอาจสนใจ

Related News