เลือกตั้งและการเมือง

กกต.ยังไม่ส่งเรื่อง 'พิธา' ให้ศาลวินิจฉัย - 'พิธา' ย้ำไม่ได้ปลุกมวลชนมาเป็นกำแพง

โดย nattachat_c

11 ก.ค. 2566

694 views

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่าในการประชุม กกต. วานนี้ ( 10 ก.ค.) ที่ประชุมยังไม่ได้มีการลงมติ เรื่องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือครองหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญและเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง เพียงแต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุม กกต.รับทราบ เท่านั้น


นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า เรื่องจะต้องเชิญนายพิธามาชี้แจงต่อ กกต.หรือไม่ เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการการสืบสวนแล้ว คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนกรณีมาตรา 151 หรือคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการลงสมัครรับเลือกตั้ง จะเชิญบุคคลใดมาชี้แจง เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะนั้นๆ


เมื่อถามว่า กรณีการยื่นเรื่องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วันนี้ที่ยังไม่มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยังต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มและประชุมต่อพรุ่งนี้ใช่หรือไม่


นายอิทธิพร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องนี้จะพิจารณา เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มี แต่วันนี้ (11 ก.ค.) อาจมีเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุมอีกครั้งเป็นไปได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาเสร็จแล้วก็อาจขอนำเข้าที่ประชุม กกต.วันไหนก็ได้ แต่ถ้าที่ประชุม กกต.เห็นว่าไม่พอเพียง ก็สามารถขอให้ทำเพิ่มเติมได้ ซึ่งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงยังทำงานไม่เสร็จ


เมื่อถามต่อว่า กกต.นัดประชุมในวันที่ 13 ก.ค.นั้นเป็นนัดพิเศษอะไรหรือไม่ เพราะปกติมีการประชุมเพียงวันจันทร์ และอังคาร


ประธาน กกต. กล่าวว่า ไม่ใช่นัดพิเศษอะไรเลย


ส่วน กกต.จำเป็นต้องมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนวันที่ 13 ก.ค.หรือ 19 ก.ค. หรือไม่


ประธาน กกต. กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน
--------------
วันที่ 10 กรกฎาคม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรค ก.ก.ได้ส่งหนังสือด่วนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อคัดค้านการที่ กกต.จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยกรณีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก. เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนที่ระเบียบ กกต.ระบุไว้เอง มีความเร่งรัดเกินกว่าเหตุ จนน่าสงสัยในเจตนาของ กกต. ว่ากระทำโดยความเป็นกลางหรือไม่


นายชัยธวัชกล่าวว่า ตามระเบียบของ กกต. เมื่อมีการร้องเรียนผู้สมัครคนใดเกี่ยวกับการกระทำหรือการขาดคุณสมบัติ คณะกรรมการต้องไต่สวน สืบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง จากนั้นให้แจ้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ผู้ถูกร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องเข้าไปชี้แจง จากนั้นจึงดำเนินการต่อไปในการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย


แต่ในกรณีนี้ เมื่อมีการไต่สวนรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว ยังไม่มีการแจ้งข้อเท็จจริงให้พิธาทราบ และยังไม่มีการเรียกเจ้าตัวไปชี้แจงด้วย แต่กลับจะมีการเร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับ กกต. กำลังทำผิดระเบียบของตนเองอยู่


“ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ อีกเพียง 4 วัน ก็จะถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี การที่จู่ๆ กกต.จะเร่งรัด ทำข้ามขั้นตอน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที อาจทำให้สังคมตั้งคำถามได้ว่าองค์กรอิสระทำหน้าที่อย่างไม่เป็นกลาง มีเป้าประสงค์ทางการเมืองหรือไม่


ผมเชื่อว่าประชาชนเฝ้ารอการโหวตนายกรัฐมนตรีกันทั้งประเทศ จึงไม่ควรมีการกระทำใดๆ ที่จะขัดขวางการตั้งรัฐบาลตามครรลองประชาธิปไตย” นายชัยธวัชกล่าว

--------------

วานนี้ (10 ก.ค. 66) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เดินทางมายื่นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยขอให้ กตต. ดำเนินการนำเรื่องการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีครอบครองและถือหุ้นไอทีวีในการลงรับสมัค รส.ส.ในนามพรรคก้าวไกล ระบบบัญชีรายชื่อ และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ทำการโอนหุ้นให้บุคคลอื่นหลังวันเลือกตั้ง ว่า


เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) หรือไม่ ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาโดยทันที เพื่อความปรากฏเมื่อเห็นและรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว


ทั้งนี้ เนื้อความในเอกสาร ยังระบุด้วยว่า หากความได้ปรากฏหรือเมื่อเห็นก็สามารถตั้งกรรมการรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำแต่อย่างใด ตามที่ กกต.ได้ชี้แจงผ่านสื่อ

--------------

วานนี้ (10 ก.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ส.ส.ปทุมธานี ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี ก่อนที่จะถึงวันที่รัฐสภาโหวตนายกฯในวันที่ 13 ก.ค. 66


ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีประชุมส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิธา ขาดคุณสมบัติหรือไม่ จากกรณีการถือครองหุ้นสื่อ iTV จำนวน 42,000 หุ้น นายพิธา กล่าว่า จนถึงตอนนี้ กกต. ยังไม่มีการส่งหนังสือมาทั้งที่บ้านและที่พรรค ถ้าหากมีเอกสารเรียกชี้แจง ก็พร้อมเข้าไปชี้แจง  ยืนยันว่า ยังไม่มีการเรียกไปชี้แจงแบบฉับพลัน


เมื่อถามว่ามองว่าเป็นธรรมหรือไม่ที่ กกต. ไม่เรียกไปชี้แจง นายพิธา ระบุว่า จริงๆ มองว่ามันขัดกับระเบียบของ กกต.อย่างชัดเจน ตอนนี้ เหมือนกับว่าเร่งรัดเข้ามาเหมือนกับที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลได้ให้สัมภาษณ์ไป ซึ่งถือได้ว่าต้องมีเรื่องที่ต้องเรียกร้องความเป็นธรรมและความเป็นกลางจาก กกต.พอสมควร


เมื่อถามว่าในวันที่ 13 ก.ค.โชคชะตาฟ้าดินทำให้ผ่านไปได้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่โชคชะตาฟ้าดิน เพราะเป็นเรื่อง สำคัญของประชาชน เพราะการที่จะมีผู้นำประเทศในช่วงที่ปัญหากำลังถาโถมเข้ามาโดยเร็ว ในการแก้ปัญหาที่ได้รับความชอบธรรม จากประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญ และแน่นอนว่าเราก็ต้องสู้กับฟ้ากับฝน ต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝน เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน ก็เพิ่งทวิตเตอร์ถึงความหนักหนาเรื่องนี้ไป  ส่วนพรุ่งนี้ตนก็จะไปคุยกับจิสด้า GISTDA ซึ่ง เป็นงานที่ใช้ดาวเทียมในการแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ปัญหาของประชาชนรอไม่ได้


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การที่ลงพื้นที่ช่วงนี้ ปฏิเสธใช่หรือไม่ว่าไม่ใช่การเอาประชาชนมาเป็นกำแพง หรือกดดัน ส.ว. หรือ ส.ส.โหวตนายกฯ นายพิธา ระบุว่า “ตอบให้ชัดเลยว่าประชาชนไม่ได้มีหน้าที่มาปกป้องผม แต่ผมมีหน้าที่ปกป้องทุกคะแนนและความไว้วางใจที่ประชาชนให้มา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ประชาชนให้มา เรายังยืนยันในความมั่นใจว่ามีความคืบหน้าในการเจรจา เราสามารถที่จะผ่านหลายๆด้านมาได้แล้ว” ดังนั้น คนที่เป็นผู้นำที่ดี ก็จะต้องสื่อสารให้กับประชาชนสบายใจได้


ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงในวันที่ 13 ก.ค. จะมีกลุ่มมาติดตามการโหวตนายกฯที่รัฐภา ประมาณ 14 กลุ่ม

ประเด็นนี้นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีความกังวลเรื่องนี้ เพราะให้ดูสิ่งที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ บริหารจัดการให้รัฐภารับรอพี่น้องได้เป็นหมื่นๆ คน ในการจัดห้องน้ำ และดูแลหากมีฝนตก และเท่าที่พูดคุยกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่1 คิดว่ามีการบริหารจัดการตามครรลองของประชาธิปไตยทั่วไป ก็คิดว่าน่าจะราบรื่นและสงบเป็นไปได้ด้วยดี เพื่อให้ประชาชนได้ออกมาควบคุมวาระทางสังคมที่พวกเขาสนใจและลุ้นไปด้วยกัน


เราก็ต้องเข้าใจหัวอกประชาชนตรงนี้ด้วย และคิดว่าทางสภา และฝ่ายความมั่นคงก็คงดูแลไม่ให้มีการสร้างสถานการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ เพราะส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยคือการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่การเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติก็เป็นสิ่งสำคัญ

--------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FiysJwuT6Ys

คุณอาจสนใจ

Related News