เลือกตั้งและการเมือง

'เรืองไกร' จ่อยื่น กกต.เพิ่ม สอบ 'พิธา' ปมหุ้นไอทีวี - 'ชัยธวัช' มั่นใจสู้คดี ปัดตอบโอน-ขาย ก่อนลงสมัครหรือไม่

โดย petchpawee_k

6 มิ.ย. 2566

16 views

"เรืองไกร" จ่อยื่น กกต.เพิ่มสอบ "พิธา" ขายหุ้นไอทีวีแล้วหรือไม่ พร้อมยื่นหลักฐานเพิ่ม คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ปม สปน.บอกเลิกร่วมงานไอทีวี ยังมีผลอยู่หรือไม่


วานนี้ 5 มิถุนายน 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 มิ.ย. 66 ประมาณ 10 โมง จะไปยื่นหนังสือที่ กกต. เพื่อแสดงหลักฐานบางส่วนจากคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่อาจทำให้เห็นได้ว่า คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ว่า สปน. บอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับไอทีวี โดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลปกครองกลาง เห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงจะขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า สัญญาเข้าร่วมงาน ยังควรถือว่ามีผลอยู่หรือไม่  และนายเรืองไกร กล่าวด้วยว่าจะขอให้ กกต. ตรวจสอบอีกว่า นายพิธา ขายหุ้น ITV ออกไปแล้วหรือไม่

------------------------------------------------------

“พิธา” ไม่ตอบปมขายหุ้นITV แล้วหรือไม่ โยนเลขาธิการพรรคชี้แจงไปแล้ว

วานนี้ 5 มิถุนายน 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีและ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางออกจากที่ทำการพักหลังประชุมร่วมกับแกนนำพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. ถึงเวลา14.00 น. 


โดยนายพิธาปฏิเสธที่จะตอบคำถามหลังสื่อมวลชนพยายามที่จะสอบถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการขายหุ้น ITV ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง นายพิธา ตอบเพียงสั้น ๆว่านายชัยธวัช ตุลาธนเลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงรายละเอียดไปแล้ว จากนั้นนายพิธาได้เดินทางออกจากพรรคทันที

------------------------------------------------------

"ชัยธวัช" ยังคงมั่นใจต่อสู้คดี "พิธา" ถือหุ้น ITV ไม่ตอบโอน-ขายก่อนลงสมัครใช่หรือไม่

วานนี้ 5 มิถุนายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคดีการถือหุ้น ITV ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า ยังคงมั่นใจจะชี้แจงและต่อสู้ในคดีได้ ตอนนี้รอแค่ กกต.จะประสานงานมายังคุณพิธาและพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่


ส่วนที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ออกมาระบุว่า ข้อกล่าวหาคุณพิธา เข้าข่ายขัดกฎหมาย ใน 4 มาตรา ขาดคุณสมบัติทั้ง ส.ส.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ วันปิดรับสมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 4-7 เมษายน ที่ผ่านมานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นรายละเอียดที่เราก็เตรียมต่อสู้ในคดี


ขณะที่นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ออกแสดงความคิดเห็นว่า ได้มีการเขียนคุณสมบัติของสมาชิกพรรค ล้อมาจากคุณสมบัติของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เท่ากับว่าหากนายพิธาขาดคุณสมบัติ ถือหุ้นสื่อมวลชนก็จะส่งผลกระทบต่อการรับรองส.สเขตและสสบัญชีรายชื่อด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า มันน่าจะเป็นการตีความที่ไกลเกินไป ยอมรับข้อบังคับพรรคมีการเขียนคุณสมบัติไว้ตามกฎหมาย แต่วันนี้เรายังไม่ไปไกลขนาดนั้น เพราะก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น เราต้องพิจารณาก่อนว่าคุณพิธามีความผิดถือหุ้นสื่อจริงหรือไม่


เมื่อถามว่า มีกระแสว่านายพิธา ขายหุ้นหรือโอนหุ้นแล้ว ก่อนลงสมัคร นายชัยธวัช ขอให้รอดูในรายละเอียด แต่ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องของการตีความกฎหมายและบรรทัดฐานการวินิจฉัยมีหลายกรณีที่สามารถเทียบเคียงได้ก่อนหน้านี้หลายกรณี จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร


และตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจกับ ส.ว. เพราะเรื่องของการถือหุ้นสื่อของนายพิธา คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนคือการเลือกนายกรัฐมนตรี เราจึงโฟกัสเรื่องของการประสานงานกับทาง ส.ว.ก่อน ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่า มีความคืบหน้าไปพอสมควร กำแพงที่เคยมีระหว่างกันลดลง หลังจากได้มีการพูดคุยกันแล้ว

--------------------------------------------------

“ชัยธวัช” ห่วงเสียงโหวตเลือกนายกหลังกกต.เตรียมสอย ว่าที่ส.ส.20 คน เชื่อไม่ทำก้าวไกลตกอันดับ 2 

วานนี้ 5 มิถุนายน 2566  นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่าการรับรอง ส.ส.ของ กกต. ช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้มีปัญหาคำร้องกว่าซึ่งอาจจะมีการให้ใบเหลือง ใบแดงกับว่าที่ ส.ส.กว่า 20 คน ว่าในส่วนของพรรคก้าวไกลไม่กังวล แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลเข้าข่ายหรือไม่ และยังไม่ได้สอบถามไปยังพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน


นายชัยธวัช ยอมรับว่ากระทบแน่นอนกับการโหวตเลือกนายกฯ หากจำนวน 20 คนนี้ อยู่ในฝั่งของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะมีผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่มีการคิดล่วงหน้าไว้แล้วเช่นกัน หากรับรองเพียงแค่ 95% ก็จะต้องไปดูฐานของพรรคที่มาร่วมรัฐบาลว่าได้เท่าไหร่ กลางเดือนนี้น่าจะทราบผล


นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ติด หากจะมี ส.ส.พรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลมาโหวตให้ เพราะเราจะได้ออกกับความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ในส่วนของพรรค คงไม่เหมาะสมที่จะไปแสดงความคิดเห็น และคงไม่มีการไปเจรจาพูดคุยกับพรรคการเมือง ขอให้เป็นเรื่องของแต่ละพรรคตัดสินใจ หรืออาจมีการพูดคุยเป็นรายบุคคล เพราะอาจจะมีคนที่อยากจะโหวตให้ เพื่อรักษาระบบและเจตจำนงของประชาชนไว้


เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าคำร้อง ส.ส.จะทำให้พรรคก้าวไกลลดจำนวนลงเป็นพรรคอันดับ 2 นายชัยธวัช กล่าวว่า คงไม่มีผล เพราะพรรคก้าวไกลมั่นใจว่า ที่ส.ส.ของเราชนะการเลือกตั้งมาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เราไม่ได้กังวลเรื่องนี้ แต่ว่าในภาพรวมต้องคิดไว้ ว่า ถ้าเกิดจำนวน ส.ส.พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลลดลงในวันที่จะโหวตนายกรัฐมนตรี ก็คงที่จะต้องเตรียมการไว้ ว่า จะต้องใช้เสียง ส.ว.มากขึ้น



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-l8YOkpyvps

คุณอาจสนใจ

Related News