เลือกตั้งและการเมือง

‘ส.ว.โอสถ’ ยังไม่ตัดสินใจหลัง ‘ก้าวไกล’ ขอเสียงโหวต – ‘ส.ว.สมชาย’ โพสต์ ‘อาจารย์’ ชี้นำพรรค อาจเสี่ยงถูกยุบ

โดย petchpawee_k

26 พ.ค. 2566

25 views

‘ส.ว.โอสถ’ ยอมรับ ‘พิจารณ์’ ก้าวไกล มาคุยขอเสียงหนุนโหวต ‘พิธา’ แล้ว แต่ยังไม่ยืนยันโหวตให้ ขอรอฟังอภิปรายวันโหวตก่อนตัดสินใจยอมรับ ปม ม.112 ยังเป็นปัจจัย แม้ไม่อยู่ใน MOU  ส.ว.สมชาย ลั่นหายนะแล้ว ก้าวไกลส่อถูกยุบ ชี้มีอาจารย์ครอบงำพรรค 


เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) พลตรีโอสถ ภาวิไล สมาชิกวุฒิสภา ยอมรับว่า นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ติดต่อขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้โหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยส่วนตัว ขอรอฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อนตัดสินใจ และรอดูว่าจะเดินหน้า ม.112 หรือไม่ เพราะหากทำ ก็ลำบากใจ ซึ่งทางนายพิจารณ์ ได้ยืนยันว่า การเซ็น MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 แต่เป็นพรรคก้าวไกล จะเสนอเข้าสภาเพียงพรรคเดียว 


ซึ่งในวันแถลงนโยบาย จะมีรายละเอียดชี้แจงอย่างชัดเจนอีกครั้ง ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ เชื่อว่า สว.ทุกคนต้องตัดสินใจเอง ทั้งนี้ ส่วนตัว จึงขอรอฟังก่อน หากเป็นไปได้ ตนก็ไม่มีปัญหาที่จะโหวตสนับสนุนให้ แต่หากเกิดการกระทบกระเทือนมาก ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ


นอกจากนี้ ยอมรับว่า สว.เสียงแตก แล้วแต่ความคิดแต่ละคน ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีใครมากำชับให้โหวตไปในทิศทางเดียวกัน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา หรือกลุ่มไหน ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องทิศทางการโหวต แต่ให้เป็นดุลยพินิจของ สว. แต่ละคน


ด้าน ส.ว.ไกรสิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากเห็น MOU แล้วตนยังคงมาเป็นกลางอยู่ แต่ยังคงอยากเห็นกระบวนการของประชาธิปไตยเคลื่อนต่อไป ใช้หลักการรัฐสภาเป็นเป็นที่ตั้ง แต่ว่าปัจจุบันตนยังไม่ตัดสินใจ จะโหวตหนุนหรือไม่ หรืองดออกเสียง เนื่องจากต้องรอดูไปก่อนอย่างมีสติ


เมื่อถามว่าเมื่อเห็น MOU แล้วรู้สึกอย่างไร ส.ว.ไกรสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่เห็นแล้วมี MOU ถือว่าเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยขึ้นอีกขั้น และทำให้มีวุฒิภาวะทางด้านการเมืองดีขึ้น แต่หากสังเกต จะเห็นได้ว่าเรื่องการตอบโต้กันไปมาเปรียบเสมือนว่าความฉลาดทางอารมณ์ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ถึงได้บอกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ต้องทำทุกอย่างด้วยสติ และให้กระบวนการทุกอย่างเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ


ส่วนกรณีที่ ส.ว.หลายท่านอาจกังวลเรื่องของการแก้ไข ม.112 และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำหรับการโหวตหนุน ส.ว.ไกรสิทธิ์ ระบุว่า ตนมองว่าใน MOU ไม่ได้มีการกล่าวถึง ก็ต้องตัดกังวลเรื่องนี้ไปแล้วกระบวนการเสนอกฎหมายนั้น ก็เป็นสิทธิของกฎหมายพรรคการเมืองรวมกลุ่มเสนอ แต่จะผ่านหรือไม่ก็ต้องผ่านการพูดคุยกันในสภา


ทั้งนี้ ส.ว.ไกรสิทธิ์ ยังยอมรับว่า ก่อนหน้าจะเห็น MOU ก็ยอมรับว่ากังวลค่อนข้างมาก ตอนนี้แม้จะคลายกังวลก็สังเกตุการณ์ต่อด้วยสติ


ส.ว.ไกรสิทธิ์  ยังยืนยันว่า จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่มีพรรคก้าวไกล หรือตัวแทนของพรรคแกนนำเข้ามาพูดคุย ไม่มีใครสามารถมาชี้นำได้อย่างแน่นอน


อีกประเด็นนอกจากติดตามสถานการณ์ต่ออย่างมีสติแล้ว อีกปัจจัยที่ตนต้องดูจากนี้ด้วย คือ วุฒิภาวะทางด้านอารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่าย ซี่งหมายความว่า อยากให้กระบวนการประชาธิปไตยพัฒนาแบบธรรมชาติ และทุกคนต้องรับฟัง พูดคุยกันด้วยสติ

---------------------------------------------------------------------

ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า #เค้าลางหายนะ #ครอบงำยุบพรรค #กกตรู้หรือยัง การเก็บอาการไม่อยู่ของอาจารย์ท่านผู้นำพรรคตัวจริง น่าจะส่อเค้าลางถึงขั้นอาจถูกยุบพรรค #หายนะแล้ว!!!


พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง ระบุชัดเจนว่า มาตรา 28 ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลที่มิใช่สมาชิก กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม และมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็น การควบคุมครอบงำชี้นำทั้งทางตรงและทางอ้อมเช่นกัน


การสั่งการหลายเรื่องราวต่อเนื่องทัังในที่ลับและที่แจ้งแบบเก็บอาการไม่อยู่ ของอาจารย์ท่านผู้นำพรรคนั้น ทำให้เห็นการควบคุม ครอบงำและชี้นำพรรคการเมืองหนึ่งอย่างชัดเจนมาก


ปรากฏเค้าลางหายนะดังนี้


1)  พฤติกรรมและแชทหลุดไลน์ในการสั่งการในกลุ่มสสของพรรคต่างกรรมต่างวาระมากมาย ทั้งการสั่งให้ สส.ไปประกันตัวผู้ต้องหา 112 การสั่งการให้ สส.เสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เข้าสภาหรือการชี้นำไม่พอใจเรื่อง MOU หรือสั่งการให้ยึดเก้าอี้ประธานสภาไว้ให้ได้ฯลฯ


2)  ตรวจสอบยืนยันแล้วอาจารย์ท่านผู้นำพรรคนั้นถูกตัดสิทธิการเมือง จึงไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค การควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรคดังกล่าว เข้าข่าย ความผิดมีโทษจำคุกตามมาตรา 108 คือจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี มีโทษปรับตั้งแต่ 1 แสน – 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งด้วย


3) พรรคการเมืองที่ยินยอมให้ควบคุมครอบงำ ชี้นำ ตามมาตรา 28 มีความผิดตามมาตรา 92 (3) ถ้ากรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งกรณีนี้คือ(3) กระทำการฝ่าฝืนตามมาตรา 28 ให้คณะกรรมการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคการเมืองนั้น

คุณอาจสนใจ

Related News