เลือกตั้งและการเมือง

‘ก้าวไกล’ ยก 3 วาระ จำเป็นต้องใช้เก้าอี้ 'ประธานสภาฯ' - 'อดิศร' ลั่น ไม่ได้เกิน 250 เสียง อย่ากินรวบ

โดย petchpawee_k

25 พ.ค. 2566

586 views

"อดิศร" ชี้ เพื่อไทยเหมาะนั่งตำแหน่งประธานมากกว่า มองหากอยากนั่งทุกตำแหน่งต้องได้เสียง 377 เสียงเหมือนยุค “ไทยรักไทย” สอนมวย “ปิยบุตร”จะกินรวบทุกตำแหน่งไม่ได้  ด้าน ‘ก้าวไกล’ ยกเหตุ 3 วาระ จำเป็นต้องใช้ ‘ประธานสภาผู้แทนฯ’ ผลักดัน บอกต้องการอำนาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงรัฐสภาไทย


วันที่ 24 พ.ค.2566 นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์คลิปในติ๊กต๊อกพร้อมแคปชั่นว่า “ประธานสภาผู้แทน ก้าวไกลอย่ากินรวบ”


 นายอดิศรระบุว่า MOU ที่ได้เซ็นไป ข่าวที่ออกมาพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจะรวบทุกตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีก็จะเอา ประธานสภาก็จะเอา ผมฟังข่าวจากอาจารย์ปิยบุตร (แสงกนกกุล) พูดพรรคก้าวไกลได้พรรคเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดเหมือนพรรคไทยรักไทย 377 เสียงในอดีต จะชี้เป็นชี้ตาย ชี้เอาทุกตำแหน่งได้


“คุณได้บริหารไป ประธานสภาควรอยู่กับพรรคเพื่อไทย”


นายอดิศร ยังระบุอีกว่า ดูบุคลากรทั้ง 2 พรรคแล้ว เทียบปอนด์ต่อปอนด์ พรรคเพื่อไทยสมควรจะขึ้นไปสู่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พูดติ๊กต๊อกวันนี้ไม่ใช่มาแย่งชิง แต่อยากเตือนสติทางพรรคก้าวไกลอย่ากินรวบ เพราะคุณไม่ได้เกิน 250 เสียง


“คุณมีศักดิ์ศรีเท่ากับพรรคการเมืองอื่น ๆ จึงเป็นรัฐบาลผสม รัฐบาลผสมก็เป็นอุปสรรคแก่พรรคก้าวไกล ยกตัวอย่าง 450 บาทค่าแรง ไปประชุมกับสภาอุตสาหกรรม ก็ออกมาบอกว่ามันอาจจะกระชากเกินไป 450 บาท อาจเป็นไปไม่ได้”


 “สลากกินรวบไม่ดีแน่นอนครับ ต้องกินแบ่ง รัฐบาลผสมกัน คุณได้บริหารไป คุณชนะไข่เป็ดไข่ไก่ คุณจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการเป็นไปไม่ได้ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร”


ต่อมา นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เคารพการแสดงความเห็นของนายปิยบุตร ที่จะกินรวบทุกตำแหน่งโดยเข้าใจว่าตัวเองมีเสียงข้างมาก แต่ความจริง 152 เสียง ยังเป็นเสียงที่ไม่ได้เกินครึ่ง ถ้าอยากได้ทุกตำแหน่งต้องทำให้ได้เหมือนพรรคไทยรักไทย 377 เสียงที่จะชี้เป็นชี้ตายเอาตำแหน่งไหนก็ได้


นายอดิศร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี "แต่เมื่อพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคที่ได้ไข่เป็ดไข่ไก่ ไม่ใช่ว่าได้ฝ่ายบริหารแล้วจะไม่ให้พรรคอื่นไปดำรงตำแหน่งฝ่ายนิติบัญญัติ"

-----------------------------------------------------------


'รังสิมันต์' ย้ำ 'ก้าวไกล' ไม่ปล่อยตำแหน่ง 'ประธานสภาฯ' แน่ ยังไม่ได้เลือกใครเหมาะสม



นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเตือน ก้าวไกลอย่าเสียตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร”


เป็นอันขาดว่า อันที่จริงก็เหมือนกับที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า เรื่องของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกล อยากรักษาประเพณีที่เคยทำกันมา ซึ่งในอดีตหากไม่นับรวมเมื่อปี 2562 จะพบว่า พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ พรรคก้าวไกลยืนยันว่า ตำแหน่งดังกล่าว ทางพรรคก้าวไกลต้องขอเอาไว้เอง

---------------------------------------------------

ด้านหมอ ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องของตำแหน่งต่างๆ เพราะเป้าหมายแรกคือ เราต้องเลือกนายกฯให้ได้ก่อน


ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯต้องเป็นของพรรคเสียงข้างมากหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่การตกลงพูดคุยกัน ดูเรื่องของความเหมาะสม ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่เหมือนกัน และยกตัวอย่างสมัยประธาน อุทัย พิมพ์ใจชน มี 3 เสียงยังได้เป็นประธานสภาฯ


เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยมีบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นประธานสภาฯใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน บอก เราเป็นพรรคการเมืองที่อยู่มานานกว่า 20 ปี มีบุคลากรที่ผ่านการทำงานมาเยอะ แต่ไม่ขอบอกว่า เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่ามีบุคลากรที่พร้อม

-----------------------------------------------

‘ก้าวไกล’ ยกเหตุ 3 วาระ จำเป็นต้องใช้ ‘ประธานสภาผู้แทนฯ’ ผลักดัน บอกต้องการอำนาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงรัฐสภาไทย

วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พรรคก้าวไกล - Move Forward Party" โดยเนื้อหาระบุว่า  3 วาระที่พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันในฐานะ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร”


พรรคก้าวไกลเดินทางบนเส้นทางการเมืองไม่ใช่เพื่อตำแหน่งหรืออำนาจ แต่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง มี 3 วาระที่สำคัญมากของพรรคก้าวไกลที่เราจำเป็นต้องใช้สถานะ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ในการผลักดัน


วาระแรก: เพื่อผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า


วาระที่สอง: เพื่อผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเดินหน้าอย่างราบรื่น


วาระที่สาม: ก้าวไกลจะผลักดันหลักการ “รัฐสภาโปร่งใส” และ “ประชาชนมีส่วนร่วม” ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย


3.1 ถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการทุกคณะ ให้พี่น้องประชาชนติดตามได้


 3.2 ส่งเสริมการทำงานของสำนักงบประมาณรัฐสภา (Parliamentary Budget Office หรือ PBO) ในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้งบประมาณแผ่นดินของหน่วยงานองค์กรต่างๆ เพื่อให้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์นั้นจะถูกใช้ไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน


3.3 ตั้งสภาเยาวชน หรือ Youth Parliament (ซึ่งอาจต่อยอดจากสภาเด็กและเยาวชนที่มีอยู่) ที่ขึ้นตรงกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร


พรรคก้าวไกลต้องการให้ผู้แทนราษฎรของเราดำรงตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่เราต้องการอำนาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงรัฐสภาไทยให้สามารถออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ สามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้จริง และเป็นรัฐสภาที่เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง

#รัฐบาลก้าวไกล #ประชุมสภา”


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sI85zRJmD0o

คุณอาจสนใจ

Related News