เลือกตั้งและการเมือง
'พิธา' นำทัพ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แถลง MOU 23 ข้อ ย้ำทุกภารกิจต้องไม่กระทบสถาบันฯ
โดย petchpawee_k
23 พ.ค. 2566
265 views
'พิธา' นำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แถลงผลการลงนาม MOU ย้ำทุกภารกิจต้องไม่กระทบสถาบันฯ ตอบปมนิรโทษกรรม-แก้ ม.112 ยัน 'ก้าวไกล' ลุยแน่ แต่เป็นวาระเฉพาะ ชงเข้าสภาฯดำเนินการ
เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำ 8 พรรคการเมือง แถลงข่าวบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเลือกวันที่ 22 พ.ค. 2556 ซึ่งตรงกับวันรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557
นายพิธา กล่าวในช่วงต้นว่า เป็นนิมิตหมายอันดีที่ประเทศได้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และการแถลงข่าวผลการเจรจาบันทึกข้อตกลงร่วม ถือเป็นการรวบรวมวาระต่างๆ ที่เห็นตรงกันและพร้อมผลักดันผ่านกลไกของรัฐสภาและรัฐบาล โดยรายละเอียดของ MOU ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล
บันทึกความเข้าใจร่วมนี้ทำเพื่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลทุกพรรคที่จะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์ โดยมีด้วยกัน 23 ข้อ
ในการแถลงข่าว มีการเปลี่ยนแปลงจากคำว่า ข้อตกลงร่วม มาเป็น บันทึกความเข้าใจ ขณะที่ภาษาอังกฤษยังใช้คำว่า Memorandum of Understanding หรือ MOU เช่นเดิม
---------------------------------------------
'พิธา' ตอบปมนิรโทษกรรม-แก้ ม.112 'ก้าวไกล' ลุยแน่ แต่เป็นวาระเฉพาะ ชงเข้าสภาฯดำเนินการ ไม่กังวลโดนร้องหุ้น ITV ขณะที่พรรคร่วมเห็นต่างขอดูร่างฯ ของก้าวไกล
นายพิธาได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีการยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยืนยันจะทำอยู่หรือไม่ ว่า พรรคก้าวไกลยืนยันยังทำอยู่ และเมื่อเดือน ก.พ.ปี64 ได้ยื่นต่อสภาแต่ยังไม่มีการบรรจุในวาระ ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยการดำเนินการของพรรคก้าวไกล และตอนนี้บรรยากาศก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ยกตัวอย่างได้อย่างได้จาก สื่อมวลชนที่กล้าพูดเรื่องนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ และมีวุฒิภาวะ อย่างไรก็ดีครั้งนี้คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จ ลุล่วงด้วยดี โดยเป็นการดำเนินการของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า หากใช้สภาฯในการแก้ไขมาตรา 112 จะส่งผลกระทบต่อเสียงที่จะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่คิดว่าอย่างนั้น เพราะพรรคก้าวไกลมีทีมเจรจา มีกรอบในการเจรจาเพื่อคลายความกังวลใจจากวุฒิสภาหลายเรื่อง โดยเจตจำนง เนื้อหากฎหมาย ตั้งใจทำให้มาตรา 112 ไม่โจมตีทางการเมือง คำอธิบายที่ยื่นไปแล้ว หรือเทียบกับความเป็นสากลก็ดี หรือ MOU เขียนชัดเจนว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันละเมิดมิได้ จะทำให้วุฒิสภาสบายใจมากขึ้น รวมถึงประชาชนจำนวนมาก ยืนยันว่ามาตรา 112 เป็น 1 ใน 45 กฎหมายที่พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นเข้าสภาฯ เพื่อพูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะ ในมุมกลับจึงไม่สร้างความกังวลใจ เมื่อพูดคุยกันได้รับฟังข้อมูล เป็นแนวทางที่ดี นี่คือสิ่งที่ได้รับรายงานจากทีมเจรจาของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า หากผลักดันมาตรา 112 เข้าสภาฯ ท่าทีของอีก 7 พรรคร่วมที่เหลือเป็นอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ย้ำว่าทุกพรรคมี MOU ตรงกัน หากพูดคุยถึงวาระร่วมของเรา การผลักดันนโยบายร่วมมีทั้ง วาระร่วม และวาระเฉพาะของแต่ละพรรคอยู่ แต่ละพรรคมีโอกาสที่จะผลักดันนโยบายเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ขัดแย้งจาก MOU ฉบับนี้ โดยผ่านกลไกของรัฐมนตรีในฝ่ายบริหาร และผลักดันผ่าน ส.ส.ในฝ่ายนิติบัญญัติ สิ่งที่พูดตั้งแต่แรกของ MOU และตอนท้ายของ MOU เขียนไว้ชัดเจน
ส่วนกรณีการไม่บรรจุประเด็นการอำนวยความยุติธรรม หรือนิรโทษกรรมใน MOU ไว้ แสดงว่าจะผลักดันเป็นวาระเฉพาะใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การนิรโทษกรรมมีความพยายามที่จะพูดคุยกัน อย่างไรก็ดีเราตัดสินใจว่าจะเป็นวาระเฉพาะแต่ละพรรค โดยก้าวไกลยืนยันจะดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เป็นวาระเฉพาะของก้าวไกล
เมื่อถามว่าปิดดีลเจรจา 8 พรรค โดยไม่มีพรรคอื่นมาร่วมแล้ว และในคาดหวังว่าพรรคอื่นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลวันนี้ จะมายกมือโหวตหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ใช่และใช่ ซึ่งตัวเลข 313 เป็นตัวเลขที่เหมาะสม หมายถึงอำนาจและเสถียรภาพในการเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการผ่านกฎหมายบริหารจัดการสร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งคิดว่าทั้งหมดมันเหมาะสม และตนเชื่อว่าพรรคการเมืองอื่น รวมถึง ส.ว. จะโหวตให้กับรัฐบาลของพวกเรา ไม่จำเป็นว่าจะต้องเห็นด้วยกับพิธา หรือคนในที่นี้ แต่เป็นการประคับประคองให้ประเทศไทย กลับสู่ปกติในระบอบประชาธิปไตยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
---------------------------------------------------------
'สุดารัตน์' ชี้ ก้าวไกล เสนอแก้ ม.112 ไม่เป็นเงื่อนไขถอนตัวร่วมรัฐบาล ย้ำ ไม่เห็นด้วยแก้ไข-ยกเลิก มอง เป็นเรื่องแต่ละพรรคเสนอเข้าสภาฯ
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็น ม.112 ขณะที่เดินทางมาถึงห้องแถลงว่า การที่ 112 ไม่ได้อยู่ในเอ็มโอยูแปลว่าไม่ได้มีเงื่อนไขแล้วต้องทำ ดังนั้น สิ่งที่อยู่ในเอ็มโอยูคือสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้น คือไม่มีแก้มาตรา 112 ฉะนั้น เรื่องมาตรา 112 จะเป็นนโยบายแต่ละพรรคที่จะไปผลักดันในสภาฯ ไม่เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล
ถามย้ำว่า หากพรรคก้าวไกล แก้ไขมาตรา 112 ในสภาจะไม่เป็นเงื่อนไขในการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน หากเป็นกฎหมายที่พรรคใดพรรคหนึ่งอยากผลักดัน ก็สามารถที่จะเสนอได้ แต่รัฐสภาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั้น ตนไม่ทราบ ทั้งนี้จุดของพรรคเราชัดเจนตั้งแต่แรก และย้ำว่าจุดยืนของเราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/uyvxJBHP3a4