'ประธาน กกต.' ไม่กังวลถูกเป็นเป้าถล่ม ดีใจ ปชช.ช่วยตรวจสอบ พร้อมสู้คดีหากถูกฟ้อง

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 ที่ลานคนเมือง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังกิจกรรมรณรงค์หาเสียง Big Day รณรงค์เชิญชวนคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง


โดย นายอิทธิพร กล่าวถึง การรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งมาก คาดหวังว่าประชาชนไปใช้สิทธิมากน้อยอย่างไรบ้าง ว่า การรณรงค์ครั้งนี้ ตั้งเป้าว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 80% ตนอยากให้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุด ซึ่งวันนี้กิจกรรมเป็นการเปิดตัวรณรงค์อีกครั้งหนึ่ง และหวังว่าประชาชนจะพร้อมใจออกไปใช้สิทธิ และศึกษากติกาเลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบัตรเสีย กกต. ตั้งเป้าไม่ให้มีบัตรเสียมากกว่า 2%


เมื่อถามว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอย นายอิทธิพร กล่าวว่า ทุกครั้งที่จัดการเลือกตั้งและเกิดปัญหา จะต้องมีการตรวจสอบสาเหตุและหาวิธีการแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิของผู้ที่ใช้สิทธิไปแล้ว ซึ่งเป็นเป้าหมายของ กกต. ที่ไม่อยากให้มีการทำงานผิดพลาด แต่หากมีข้อผิดพลาดต้องแก้ไขทันที


สิ่งที่ปฏิบัติทุกครั้ง เมื่อพบข้อผิดพลาดในประเด็นใด จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก และจากสิ่งที่ผิดพลาดในวันที่ 7 พ.ค. ตนจะพยายามกำชับและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน ระมัดระวังการทำหน้าที่ไม่ให้เกิดความผิดพลาด


เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ กกต. กำลังถูกตกเป็นเป้า นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกว่าถูกตกเป็นเป้าและโดนถล่ม แต่รู้สึกดีใจที่การทำงานของ กกต. มีการตรวจสอบจากประชาชน ถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นงานที่ กกต. ต้องชักชวนหรือจูงใจให้ประชาชนมีส่วนในการตรวจสอบการเลือกตั้ง เมื่อพบปัญหาก็สามารถทำให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที ถ้าไม่มีการตรวจสอบจากภาคประชาชนและสื่อมวลชน การทำงานอาจจะไม่สมบูรณ์ 100%


ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าว่า จากที่ได้รับรายงานมีน้อยมากจากผู้ใช้สิทธิกว่า 2 ล้านคน แต่ก็ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง คือกรอกเขตเลือกตั้งผิด ไม่ใช่กรอกรหัสไปรษณีย์ผิด แต่หลังจากที่บัตรถูกหย่อนลงหีบแล้วปิดหีบในเวลา 17.00 น. ก็จะมีการเปิดหีบมาตรวจสอบความถูกต้องของการจ่าหน้าซอง และทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย


ด้าน นายแสวง กล่าวเสริมว่า จากการคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเกือบครบแล้ว และเมื่อเกิดปัญหาในวันเลือกตั้งล่วงหน้า สำนักงาน กกต. ได้แจ้งไปยัง ผอ.กกต.จังหวัดทั่วประเทศ ว่าก่อนมอบบัตรให้ทางไปรษณีย์ให้ตรวจสอบหน้าซองว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ จากนั้นเมื่อบัตรถูกส่งไปยังไปรษณีย์ ก็ให้นับจำนวนบัตร และตรวจสอบว่ามีการกรอกข้อมูลครบหรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการส่งจดหมาย โดยยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่มีปัญหาเรื่องไม่จ่าหน้าซอง


"ณ วันนี้ เรื่องการจ่าหน้าซอง ไม่มี กรอกผิดเขต ผิดอะไร ต้องมีคณะกรรมการวินิจฉัย" นายแสวง กล่าว


นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จนทำให้จะมีผู้ไปฟ้องร้องเอาผิด กกต. ตามมาตรา 157 และห่วงเรื่องการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ว่า เป็นความเห็นของประชาชนต่อการทำงานของ กกต. ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชน ที่จะดำเนินการ แต่ยืนยันว่า กกต. ปฏิบัติตามกฎหมาย และหากมีการฟ้องร้อง ก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ในการสู้คดี ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความสุจริต และขณะนี้ไม่มีปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต. จะมุ่งหน้าจัดการเลือกตั้งให้ดีที่สุดในวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นการเลือกตั้งใหญ่


ขณะเดียวกันก็กล่าวถึงปัญหาคำร้องต่าง ๆ ในวันเลือกตั้งล่วงหน้าว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงเรื่องคำร้องการซื้อเสียงที่เขตคลองสามวา หากมีการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงหรือมีมูล ก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ล่าสุดตนได้รับรายงานเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งมี 101 เรื่อง โดย 38 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการซื้อเสียง อีก 34 เรื่อง เป็นเรื่องการหลอกลวงใส่ร้าย หากมีข่าวเรื่องการร้องเรียน กกต.จะตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงว่าหากมีเหตุเชื่อได้ว่ามีการทุจริต กกต. จะรับเป็นคำร้องและดำเนินการตามระเบียบ หากเป็นคำร้องแล้ว กรณีการซื้อเสียง ถือว่าผิดตามมาตรา 73(1) เป็นคดีอาญาหรือใบส้มหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ประธาน กกต. ยังกล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ (11 พ.ค.) กกต.จะพิจารณาเรื่องที่ ครม. จะใช้งบกลางสำหรับการลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชนกว่า 1 หมื่นล้านบาท

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Wa3GXUe9Vx4