'มดดำ' ถาม 'อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา' ตอบ จับมือกับใครได้บ้าง - มาตรา 112 - เลือกเพื่อความชัวร์

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับ มดดำ คชาภา ตันเจริญ ในติ๊กต๊อกไลฟ์ ช่วงหนึ่งตอบคำถาม ว่า

แม้พรรคเพื่อไทยจะยืนยันไม่จับมือกับ 3ป. แต่ก็ยังมีคำถามอยู่ตลอดในเรื่องนี้

ซึ่งนายเศรษฐากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยึดโยงประชาชน ไม่เอารัฐประหาร ไม่จับมือ 3 ป.แน่นอน ส่วนนางสาวแพทองธาร กล่าวเสริม ยืนยันว่าไม่จับมือแน่นอน ส่วนจะจับมือกับใครนั้น พรรคเพื่อไทยมีเกณฑ์อยู่แล้ว ว่าต้องเห็นด้วยกับนโยบาย นายกต้องมาจากเพื่อไทย และกระทรวงสำคัญต้องเป็นของเพื่อไทย ซึ่งระหว่างนั้นนายเศรษฐาได้พูดแซว นางสาวแพทองธาร ขึ้นมาว่าพูดฉะฉานเหมือนเป็นนายกแล้ว

ขณะที่นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นหนึ่งในกิจกรรมของการเมืองบนเส้นทางประชาธิปไตยเหมือนหาเรื่องดิสเครดิตกัน แม้เราจะตอบชัดเจนแค่ไหนแต่คนก็ยังพูดเรื่องเดิมอยู่ แสดงว่าไม่ใช่คำตอบที่เขามองหา อาจจะเป็นปฏิกริยาอื่นๆที่มองหา แต่ที่ไม่ตอบเรื่องนี้ในช่วงแรกๆเพราะคิดว่าจะต้องรอผลการเลือกตั้งก่อนและเป็นการเคารพสิทธิประชาชน แต่เมื่อถามกันมากก็ยืนยันว่าไม่มีการจับมือกับ 3 ป.

จากนั้นได้มีการถามถึงเรื่องวาทะกรรมทางการเมืองในโซเชียล และไอโอโจมตี ว่าเลือกพรรคเพื่อไทยแล้ว เพื่อไทยก็จะเล่นการเมือง อีกประชาชนไม่ได้อะไร

นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจโค้งสุดท้าย เป็นช่วงเวลาการแข่งขัน แต่พรรคก็ต้องงัดวิชาออกมา แต่เพื่อไทยไม่อยากไปอยู่ในวาทะกรรม ขอเน้นเรื่องนโยบาย

ส่วนการจับมือกับพรรคก้าวไกลนั้น

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเป็นพรรคฝ่ายค้านมาด้วยกันแต่สุดท้ายก็ต้องรอเสียงจากประชาชน ส่วนนโยบายนายเศรษฐากล่าวเสริมว่า ก็ต้องมาถกกันในเรื่องรายละเอียด เช่น มาตรา 112

ซึ่งมาตรา 112 นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ยกเลิก 112 แต่ต้องมาคุยในสภาเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากและเมื่อได้เป็นรัฐบาลจะขอความเมตตาจากศาลสำหรับช่วยเหลือน้องๆที่ถูกคุมขังอยู่ และกำหนดบทกฎหมายและโทษ เพราะมองว่าไม่ควรต้องดึงมาเป็นเกมการเมือง

ส่วนประเด็นที่มีการพูดกันในโซเชียลมีเดียว่า พรรคเพื่อไทยขายความกลัว

นายเศรษฐา ยืนยันว่าตนมีความชัดเจนที่สุดแล้ว ว่าเอาอะไรไม่เอาอะไร ตนไม่ได้ขายความกลัวแต่ขายความชัวร์ว่าเลือกเพื่อไทยแล้วจะได้อะไร เลือกอย่างเข้าใจเลือกอย่างมีเป้าหมายเลือกอย่างยุทธศาสตร์

สำหรับประเด็นที่ติ่งหรือแฟนคลับพรรคประชาธิปไตยด่ากันเองในโซเชียลมีเดีย

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นเส้นทางของประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นใครเชียร์พรรคไหนก็เต็มที่กับพรรคนั้น เพราะตนเองก็แบกพรรคเพื่อไทยเต็มที่เช่นกัน แต่ก็มองว่าไม่ควรมาทะเลาะกันเอง เพราะปัญหาของประเทศรออยู่ มากกว่าจะมาทะเลาะกันเอง

นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า ได้ยินมาบ้างแต่ก็ไม่ตอบโต้ ถ้าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทยและไม่มีสองลุงแน่นอน ถ้ามีสองลุงพรรคเพื่อไทยไม่มีที่ยืนในสังคมแน่นอน  

ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่า นางสาวแพทองธารได้เป็นแคนดินายกรัฐมนตรี เพราะนามสกุลชินวัตร

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ชินวัตรไม่ได้ซื้อมา ทั้งคุณพ่อ คุณอา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้จ่ายเงิน แต่เพราะประชาชนเลือก ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ซื้อขายกันได้ แต่เพราะประชาชนเลือกเท่านั้น ต่อให้นามสกุลชินวัตร ถ้าประชาชนไม่เลือก ก็ไม่มีสิทธิ์

อีกประเด็นที่ประชาชนสงสัยถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยแล้วใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยโดนอะไรมาเยอะ โดนยุบมา 2 รอบ ทำให้มีประสบการณ์มาเยอะ การเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนเดียวไม่ได้ ปัญหาประเทศมีเยอะต้องช่วยกันซ่อม ถ้าทั้งสามคนถ้าใครคนใดคนหนึ่งเป็น ที่เหลือก็ไม่หายไป

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่าเพื่อไทยเป็นเป้าและเคยประสบอุบัติเหตุทางการเมือง เป็นความสบายใจของพี่น้องประชาชนเรามีแคนดิเดตทั้งสามคนถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นก็จะมีตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามนางสาวแพทองธารว่า ที่บ้านโดนมรสุมทางการเมืองจนไม่กล้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ถ้ากลัวไม่เข้ามาการเมืองตั้งแต่แรก ก็หวังจะไม่มีการปฏิวัติล้มกระดานแบบนั้นอีกเพราะหากถามก็ไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ส่วนสาเหตุที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยไม่กล้าไปดีเบต

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความกล้าหรือไม่กล้า แต่เรามีวิธีการแสดงวิสัยทัศน์ต่างกันไป ตนเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ การออกไปพบปะประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อชี้แจงนโยบายที่มีความซับซ้อน เพื่ออธิบายให้ประชาชนเข้าใจ และไปรับฟังปัญหาของประชาชน  แต่ตนไม่จำเป็นจะต้องไปอธิบายให้กับแคนดิเดตพรรคอื่นบนเวทีดีเบต

------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/eEDTrVI-1lQ