เลือกตั้งและการเมือง

การเมืองเข้ม! "บิ๊กป้อม-อุ๊งอิ๊ง-พิธา" 3 พรรคใหญ่พาเหรดหาเสียง

โดย taweelap_b

4 มี.ค. 2566

27 views

อุ๊งอิ๊ง ควง โอ๊ค นำทัพครอบครัวเพื่อไทย ลุยเปิดเวทีปราศรัย 3 จุดในโคราช เริ่มที่ปักธงชัย เพื่อเอาฤกษ์ประกาศชัยชนะ ตั้งเป้าพื้นที่โคราชแลนด์สไลด์ทั้ง 16 เขต

อ่านข่าว :


เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 66 เวลา 08.30 น. พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจุดแรก พล.อ.ประวิตร ได้แวะพบปะประชาชนที่ร้านน้ำชา หมู่ที่ 2 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชน ส.ส.นครศรีธรรมราช และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช มารอรับจำนวนมาก


ทั้งนี้ จุดนี้เป็นจุดที่ประชาชนนั่งพักผ่อนกินน้ำชา และนั่งชมรวมแขวนนกกรงหัวจุกหรือนกหัวปรอทนับสิบตัว ล้วนแต่เป็นนกเสียงดีที่เคยได้รับรางวัลมาก่อน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวนครศรีธรรมราช และชาวภาคใต้ในการนั่งกินน้ำชาดูนกกรงหัวจุกหรือนกหัวปรอททุกเช้า


พล.ประวิตร ได้นั่งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ท สีขาว ทะเบียน กจ 8181 นครศรีธรรมราช เข้าบริเวณจอดหน้าร้าน ใส่เสื้อบาติกแขนยาวสีลายดอกไม้เขียว นุ่งกางเกงสแล็คสีน้ำตาล เดินทักทายประชาชนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆด้วยความคล่องแคล่ว จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้นั่งร่วมวงดื่มน้ำชา สั่งกาแฟดำมาดื่ม 1 แล้ว พร้อมกับโรตีมะตะบะจำนวน 1 ชิ้น จากนั้นได้นั่งดูการแสดงหนังตะลุงจากเยาวชนหนังตะลุง ซึ่งจะมีบรรดาเด็ก ๆ และประชาชนมาขอถ่ายรูปด้วยตลอดเวลา ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะลุกขึ้นเดินไปดูราวแขวนนกกรงหัวจุก หรือนกหัวปรอดด้วยความสนใจ ซึ่งมีนกกรงหัวจุกสีขาวเผือกตัวหนึ่ง ที่มีราคาสูงถึง 1 แสนบาทมาโชว์ให้ พล.อ.ประวิตรชมในครั้งนี้ด้วย


พล.ต.ประวิตร กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า จ.นครศรีธรรมราช มี ส.ส.จำนวน 10 คน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะกวาด ส.ส. ให้หมดทั้ง 10 คนเลย หรือถ้าไม่ได้ครบ 10 คน จะให้ได้ 8 คนก็ยังดี ก่อนพล.อ.ประวิตร จะเดินไปเปลี่ยนชุดขาว เพื่อเดินทางไปทำกิจกรรมแห่ห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องในสัปดาห์วันมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุของจ.นครศรธรรมราช


หลังจากนั้น คณะของ พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางต่อไปเยี่ยมพบปะประชาชนที่ตลาด 100 ปี อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นเดินทางเป็นประธานพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน ณ โรงเรียนปากพนัง ประธานในพิธีสักการะพ่อท่านม่วงก่อนเดินทางกลับมาไหว้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดนางพระยา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ


ในเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน ที่ถนนกลางเมือง หน้าตลาดบางลำพู ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และนายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ขอนแก่น เขต 1 ร่วมกันลงพื้นที่หาเสียงในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยการนั่งรถสาเล้ง หรือรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ขับหาเสียงรอบตลาดสด ไปตามถนนกลางเมือง เลี้ยวซ้ายถนนศรีจันทร์ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหน้าเมือง ซึ่งก็ได้รับควาสนใจจากประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาดได้เป็นอย่างมาก ชาวบ้านบางรายหิ้วถุงกับข้าววิ่งเข้าไปทักทายและขอถ่ายภาพร่วมกัน


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเมืองขณะนี้ได้ประเมินไว้ 2-3 อย่าง อย่างแรกในเรื่องของ ส.ส.เขต อยากได้มากกว่าบัญชีรายชื่อ อันต่อมาก็อยากจะได้ ส.ส.ให้ครบทุกเขต และอย่างที่ 3 ในเรื่องป๊อปปูล่าโหวตมากกว่าตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ และก็มั่นใจว่าเป็นไปได้ ในส่วนของความกังวลคงเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ คือการแบ่งเขตของ กกต. ต้องมีการประชุมกันใหม่ การไม่รายงานผลแบบเรียลไทม์ของ กกต. การใช้เวลาราชการมาหฟาเสียง การใช้ข้าราชการที่เพิ่งโยกย้ายมาให้เป็นประโยชน์ในการเลือกตั้ง ซึ่งในเรื่องนี้เราก็ไม่ประมาทแต่ในส่วนที่เราควบคุมได้อย่างการวางแผนลงพื้นที่หาเสียง วางแผนประกาศนโยบาย ประกาศว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งในเรื่องนี้เราก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ เราจะลงพื้นที่ไปหาพี่น้องประชาชน เพื่อบอกนโยบายต่างๆให้ประชาชนได้ทราบนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำให้ดีที่สุด


นายพิธา ยังกล่าวถึง กรณีที่พรรคใหญ่ๆอย่างเพื่อไทยเปิดตัวบิ๊กเนมมาโดยเฉพาะนายเศรษฐา ที่เพิ่งเปิดตัวมาเป็นทีมเศรษฐกิจว่า ในจุดนี้ก้าวไกลก็พร้อมที่จะแข่งขัน และพร้อมที่จะร่วมมือไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เพราะในสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมืองเราตอนนี้เราต้องแข่งขันกันทางนโยบาย ทางออกที่ดีสำหรับเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันคืออะไร ปัญหาต่างๆจะแก้ยังไง ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะกระทบเศรษฐกิจจะแก้อย่างไร เช่นน้ำท่วมน้ำแล้งที่ขอนแก่น เราจะแก้ปัญหาอย่างยังยืนอย่างไร แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาและมีโอกาสได้ร่วมมือกันก็ยินดีที่จะร่วมมือ


หากจะถามถึงฐานเสียงที่มีซึ่งใกล้เคียงกับฐานเสียงเพื่อไทยนั้น ในจุดนี้มองว่าเป็นเรื่องปกติของระบบประชาธิปไตย ก็ต้องมีพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน ตนเองเชื่อว่ามันขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะแสดงจุดร่วมสงวนจุดต่างในการทำงานร่วมกันได้ ตนเองเชื่อว่า ตั้งแต่ฝ่ายค้านร่วมกันมันคือส่วนผสมที่กลมกล่อม ต่างคนต่างมีจุดแข็งที่ต่างกันหากรวมกัน เป็น ครม.ก็จะมีส่วนผสมที่พอดี เพราะแต่ละพรรคมีดีทุกพรรคอยู่แล้ว


ในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ขึ้น โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีปราศรัยอย่างพร้อมหน้า อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคฯ, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย , นายสุทิน คลังแสง ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย , "โอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาทั้ง 16 เขต เป็นต้น โดยมีประชาชนจาก 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปักธงชัย อ.ครบุรี อ.เสิงสาง และ อ.วังน้ำเขียว ร่วมฟังการปราศรัยกว่า 8,000 คน


ในวันนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยวางแผนเดินสายเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งหมด 3 จุด โดยช่วงเช้า เวลา 10.30 น. ขึ้นปราศรัยที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย เพื่อเอาฤกษ์ประกาศปักธงชัยชนะในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะเดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่ อ.เมืองนครราชสีมา ในเวลา 12.30 น. และจะเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยที่ อ.คง หลังจากนั้นจึงเดินทางไปที่เวทีปราศรัยใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแถลงนโยบายต่างๆ เฉพาะเจาะจงให้กับชาวภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา มีทั้งหมด 16 เขตเลือกตั้ง โดยทางพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าไว้ว่า จะสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ กวาดที่นั่ง ส.ส.ทั้งหมด 16 เขต จึงได้มีการเดินสายเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 3 จุดพร้อมกันในวันนี้

คุณอาจสนใจ

Related News