เลือกตั้งและการเมือง

'ชูวิทย์' เดือด สธ.บุกตรวจร้านกัญชาในโรงแรม ยัวะถ่มน้ำลายรดภาพ 'เนวิน-อนุทิน' ยันเดินหน้าถล่ม 'ภูมิใจไทย'

โดย nattachat_c

28 ก.พ. 2566

62 views

ชูวิทย์ไลฟ์สด ถ่มน้ำลายรดภาพเนวิน อนุทิน หลังมี จนท.สธ.เข้าตรวจร้านกัญชา ที่เช่าในโรงแรมตน เชื่อถูกกลั่นแกล้งปมเปิดทุจริตรถไฟฟ้าส้ม ซัดแหลกกฎกระทรวง สธ.ทำอะไรได้บ้าง ยันไม่ได้รับคำสั่งใครมา เตรียมพาเด็ก 15 ปีตัดต้นกัญชาหน้ากระทรวงสาธารณสุข ลั่นภูมิใจไทยต้องไร้คะแนนเสียงใน กทม.


วานนี้ (27 ก.พ. 65) ที่โรงแรม เดอะเดวิส บางกอก ซอยสุขุมวิท 24 มีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 3 คน เข้ามาตรวจค้นร้านกัญชา ภายในโรงแรมของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์


เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายชูวิทย์ถึงกับอารมณ์เดือดทันที ก่อนจะเข้าไปสอบถามถึงเหตุผลว่า ทำไมถึงเพิ่งเข้ามาตรวจค้น หลังจากที่ตนพูดถึงเรื่องกัญชา ซึ่ง จนท.บอกว่า เพิ่งได้ข้อมูลมา


จากนั้น นายชูวิทย์ ยืนยันกับ จนท.ไปว่า ร้านที่มาตรวจนั้นเป็นพื้นที่ให้เช่า ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้เปิดตามกฎหมาย แล้วได้ถาม จนท.อีกว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สั่งให้มาตรวจสอบใช่หรือไม่ ก่อนจะบอกอีกว่าคนอยู่เบื้องหลังนายอนุทิน คือ นายเนวิน ชิดชอบ ใช่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตอบกลับว่า ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ที่มาตรวจเพราะทำตามหน้าที่


เมื่อนายชูวิทย์ ตั้งตำถามว่า ใช่หรือไม่ที่นายเนวินอยู่เบื้องหลังนายอนุทิน และอยากรู้ว่าใช่หรือไม่ ที่นายเนวินปลูกกัญชาที่บุรีรัมย์เป็นแสนไร่ และบอกอีกว่า คนที่ได้ผลประโยชน์ไม่ใช่ใคร แต่คือคนในรูป สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน ก็เดินทางกลับ เพราะนายชูวิทย์ไม่ได้ฟังการชี้แจงจาก จนท.


จากนั้นนายชูวิทย์เดือดต่อ เดินมายังหน้าเคาน์เตอร์ร้านคาเฟ่ผลิตภัณฑ์กัญชาของคนที่มาเช่าพื้นที่ พร้อมกับบอกว่า เชื่อว่าตนถูกกลั่นแกล้ง เพราะร้อยวันพันปีไม่เห็นมา แต่กลับมาวันที่พูดถึงเรื่องกัญชา และยืนยันว่า ตนจะยังคงพูดถึงเรื่องโทษของกัญชา ก่อนจะบอกอีกว่า ใครที่ได้ประโยชน์จากกัญชา ใครที่ได้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีส้มขอให้เกิดความฉิบหาย


นายชูวิทย์ ย้ำว่า ตนไม่เคยกลัวใคร พร้อมท้าให้มาชนกันตัวต่อตัว และจะเป็นคนถล่มพรรคภูมิใจไทยเอง ก่อนจะถุยน้ำลายใส่รูปภาพนายศักดิ์สยามและนายเนวิน แล้วบอกว่า “จะทำอะไรตนได้”


นายชูวิทย์เดือดต่อ ด้วยการเดินไปกวาดสินค้ากัญชาต่างๆ ที่วางบนเคาน์เตอร์ ปัดลงกับพื้น แล้วเหยียบโชว์ด้วยความโกรธว่าโดนกลั่นแกล้ง

-------------

จากนั้น นายชูวิทย์พาสื่อมวลชนเดินไปดูอีกอาคาร เพื่อดูร้าน 'ชูวีด บาร์' เพื่อยืนยันว่า ไม่มีการจำหน่ายกัญชา


ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างดุเดือดต่อ ว่า ไม่เคยกลัว ทุกเรื่องที่ออกมาเปิดเผยล้วนเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ไม่ใครกล้ามาเปิดหน้า ชีวิตผ่านคุกตารางมาแล้วหลายรอบ ไม่กลัวเรื่องการชนกับใคร


ยืนยัน ไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้เพื่อมาถล่มพรรคภูมิใจไทย ขออย่าโยงกับเรื่องการเมืองการเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่ทำคือการทักท้วงผลกระทบโทษของกัญชาที่มอมเมาเยาวชน แต่พรรคภูมิใจไทยกลับพูดถึงประโยชน์ ถ้ามีประโยชน์จริง ทำไม พ.ร.บ.ถึงตีตกจากสภา เป็นแค่กฎกระทรวง


นายชูวิทย์ยังท้านายอนุทินอีกว่า จะเปิดโปงเรื่องไหนให้ทำเลย เพราะตนไม่ได้มีผลประโยชน์กับใคร และชี้แจงว่า ร้านดังกล่าวเพิ่งมาเช่าเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ประมาณ 4 เดือน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ ก็เพิ่งมีวันนี้ ที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ตอนเช้า พอตกบ่ายก็ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจทันที หรือนายอนุทินถนัดใช้อำนาจการเมืองกลั่นแกล้งคนอื่น ใช่หรือไม่


นายชูวิทย์ ยังบอกว่า จริงๆ แล้วต้องยอมรับว่ากัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงโทษของมันเลย จนกระทั่งตนเห็นว่า เด็กอายุ 15-16 ปี ซึ่งยังเป็นเยาวชน เข้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน จึงอยากถามว่า กฎกระทรวงใช้ควบคุมอะไรได้บ้าง และมีการตรวจสอบหรือไม่ว่า ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์กี่เปอร์เซ็นต์  และใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการกี่เปอร์เซ็นต์


นายชูวิทย์ ยังคงย้ำว่า เบื้องหลังแท้จริงแล้วอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ที่มีการปลูกกัญชาเป็นแสนไร่ ที่จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล ส่งผลให้นายอนุทินจำเป็นต้องสนับสนุนเรื่องกัญชา 


และอยากฝากสื่อไปถามนายอนุทินด้วยว่า เคยลองกัญชาหรือไม่ เพราะเชื่อว่าตัวนายอนุทินเองก็เกลียดกัญชา แต่จำเป็นต้องสนับสนันเพราะอะไร เพราะใคร ให้ไปคิดกันดู


ส่วนประเด็นที่นายอนุทินบอกว่า ไม่ให้ค่าตนที่ออกมาแอคชั่นเรื่องนี้เรื่องนั้น นายชูวิทย์บอกว่า ตนก็ไม่ได้ให้ค่านายอนุทิน ส่วนเรื่องนายอนุทินบอกว่า ตนโทรหาเพื่อนัดทานข้าว ยืนยันไม่เคยโทรหา มีแต่นายอนุทินเองที่โทรมานัดทานข้าว เพื่อกล่อมให้ตนช่วยสนับสนุนคะแนนเสียงในกรุงเทพ พร้อมกับเสนอเงินให้อีก 50 ล้านบาท แต่ตนไม่ได้รับปากไป แต่นายอนุทินกลับไปบิดเบือนบอกสื่อว่าตนโทรไปหา


นายชูวิทย์ยังฝากทิ้งท้ายว่า หากยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชนและคนที่เห็นต่าง แต่มาขู่คนอย่างชูวิทย์ไม่ได้ ยืนยันจะไม่หยุดเปิดโปงเรื่องคอรัปชั่นและกัญชาเป็นซีรีส์ต่อไป พร้อมย้ำว่าตนไม่กลัวตาย ชีวิตทุกวันเหมือนแขวนบนเส้นด้าย สักวันตนเองก็ลงโลง


ซึ่งนายชูวิทย์ ยังประกาศชัดอีกว่า จากนี้ตนจะเดินหน้าถล่มพรรคภูมิใจไทย เพราะถือว่าเป็นศัตรูของชาติ เพราะมีเรื่องการทุจริตเกิดขึ้น ตนจึงจำเป็นต้องทำ
--------------

นายโบ้ เจ้าของร้านคาเฟ่ กัญชาที่เข้ามาเช่าพื้นที่ของนายชูวิทย์ บอกว่า ตนเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านคาเฟ่กัญชา โดยเช่าเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งร้านมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย มีสัญญาเช่าถูกต้องหมดและก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบมาก่อน  โดยวานนี้ (27 ก.พ. 66) เป็นครั้งแรก


โดยประเด็นนี้ เจ้าของร้านคาเฟ่กัญชา บอกว่า ไม่มีเยาวชนเข้ามาใช้บริการ ยืนยันว่า ถ้าตนอยู่ที่ร้านจะไม่อนุญาตให้เด็กใช้บริการแน่นอน แต่ถ้าหากเป็นวันที่ตนไม่ได้เข้าร้านไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบได้ หากผิดก็พร้อมจะปิดร้านทันที

--------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MhJnAjDp51g


คุณอาจสนใจ

Related News