เลือกตั้งและการเมือง

“อุ๊งอิ๊ง” ของขึ้น “ไตรรงค์” บอก “ชินวัตร” โกงทั้งตระกูล ลั่นเป็นแค่วาทกรรมใส่สีทางการเมือง

โดย paranee_s

29 ม.ค. 2566

565 views

วันนี้ (29 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปราศรัยบนเวทีที่จังหวัดชุมพร ว่าทำเพื่อประชาชนมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายเท่า และขอพลิกโฉมประเทศภายใน 2 ปี ว่า 8 ปีที่ผ่านมาก็พลิกประเทศเหมือนกัน ไม่รู้ว่า 2 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งก็อยู่ที่ประชาชนจะเลือก


เมื่อถามย้ำว่าพลเอกประยุทธ์ ระบุ ว่าเป็นคนที่ทำเพื่อประเทศชาติมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหลายเท่า นางสาวแพทองธารถึงกับหัวเราะ ก่อนจะระบุว่า เดดแอร์เลย


ทำให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ปราศรัยไม่ใช่การเกทับแต่เป็นการเก๊ทับมากกว่า เพราะสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ ประกาศกับสิ่งที่ปรากฏต่อชีวิตประชาชน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาสวนทางกัน หากพลเอกประยุทธ์สร้างประโยชน์ให้ประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรีจริง จะไม่มีพรรคการเมืองไหนที่สามารถประกาศตัวเป็นคู่แข่งได้เลย แต่ผลสำรวจความนิยมของพลเอกประยุทธ์ กลับอยู่ลำดับท้าย ๆ ดังนั้นการแสดงนโยบายเป็นสิทธิ์ของทุกพรรคแต่การตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของประชาชน


เมื่อถามว่าภาพการขึ้นเวทีปราศรัยของพลเอกประยุทธ์ถือเป็นนักการเมืองเต็มตัวหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่าพลเอกประยุทธ์เป็นนักการเมืองมาตลอดตั้งแต่อยู่ในกองทัพ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง เพียงแต่ฝังตัวในกลไกรัฐใช้อำนาจของกองทัพเล่นการเมือง การขึ้นเวทีเมื่อวานนี้จึงเป็นการปลดหน้ากากออกมาให้ประชาชนเห็นหน้าที่แท้จริง


เมื่อถามถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ระบุ บนเวทีปราศรัยว่านายทักษิณ ชินวัตรโกงทั้งตระกูล และหากมีระบอบทักษิณอยู่บ้านเมืองจะเหลือเพียงเสา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นเพียงวาระทางการเมือง ที่ มาตัดทอนกัน เพราะสมัยที่คุณพ่อเป็นนายกฯ ได้มีนโยบายมากมาย และทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ไม่ใช่เหลือแต่เสา และขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็หาเสียงเต็มที่โดยนำผลงานที่เคยทำได้จริงและทำสำเร็จมาแล้วมาตอกย้ำกับประชาชน แต่เขาไม่มีของจริงจึงต้องใช้วาทกรรมเป็นเรื่องปกติ และตนมองว่าเป็นเรื่องของการใส่สีทางการเมือง


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคกล่าวเสริมว่า หากมองมติทางการเมืองเป็นการปราศรัยที่ต้องระวังข้อกฎหมาย เพราะจะเป็นการใส่ร้ายกันทางการเมือง ซึ่งต้องพิสูจน์ระหว่างระบอบทักษิณที่พยายามปลุกผีขึ้นมากับระบอบประยุทธ์ เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ เพราะเมื่อพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจก็ทำลายทุกอย่างโดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยดังนั้นต้องพิสูจน์ว่าระบบไหนเป็นที่ยอมรับของประชาชนมากกว่า


การกล่าวหาว่าโกงทั้งตระกูลเป็นการใส่ร้ายแน่นอนแน่นอน จึงอยากฝากให้ระมัดระวังนายไตรรงค์เป็น พูดหลักผู้ใหญ่แล้ว สมองก็ควรมากตามอายุไปด้วย


ส่วนกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภาให้ความเห็นว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ แต่ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะรวมเสียงได้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นคอมเมนต์ที่แรงมาก และเป็นเรื่องน่าอายไม่ให้เกียรติประชาชน เพราะมองว่าในระบอบประชาธิปไตยไม่ควรให้ความเห็นแบบนี้ เหตุใดไม่เคารพเสียงประชาชน และว่าเป็นคอมเมนต์ที่ไม่ควรจะพูดในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะเห็นถึงแนวคิดของคนที่ไม่เคารพเสียงประชาชน


นายณัฐวุฒิกล่าวเสริมว่า แบบนี้ออกลูกอันธพาล ยิ่งกว่าการข่มขู่คุกคามเป็นการกดหัวของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นการเหยียบย่ำอำนาจอธิปไตยของประชาชน และ นี่คือเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยต้องเลนส์สไลด์ในการเลือกครั้งนี้ เพราะหากพรรคเพื่อไทยไม่ชนะขาด สิ่งที่เขาคิดจะเกิดขึ้นและจะยาวไปถึงการแก้วาระนายกฯ8ปีเพื่อให้สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ ตนไม่เชื่อว่าหากพรรคร่วมฝ่ายค้านได้คะแนนรวมกันเกิน 300 ที่นั่งจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้


ทั้งนี้ในระหว่างที่นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามเรื่องนายไตรรงค์ ระบุว่านายทักษิณการกล่าวหาว่าโกงทั้งตระกูล และเรื่องที่ นายวันชัย ให้ความเห็นว่า แม้เพื่อไทยซะเลนส์สไลด์แต่ก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ นางสาวแพทองธาร ถึงกับแสดงสีหน้าออกอาการไม่พอใจ ตอบคำถามด้วยอารมณ์เล็กน้อย

คุณอาจสนใจ

Related News