เลือกตั้งและการเมือง

'เพื่อไทย-ก้าวไกล' รุมหยัน 'บิ๊กตู่' เป็นแคนดิเดตนายกฯ - 'ธนกร' สวนกลับ "พูดแบบปากกล้า แต่ขาสั่น"

โดย nattachat_c

26 ธ.ค. 2565

12 views

วานนี้ (25 ธ.ค 65) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า ขอต้อนรับพลเอกประยุทธ์ ที่ประกาศว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะต้องได้รับเสียงส.ส. 25 คน ถึงจะเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคได้


ทั้งนี้หากถามว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับผลกระทบหรือกลัวพลเอกประยุทธ์หรือไม่ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติมีการลงพื้นที่ในเขตภาคอีสาน เช่น จ.อุดรธานี ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน เชื่อมั่นว่าภาคอีสานพรรคเพื่อไทยเลนส์สไลด์อย่างแน่นอ นและเชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ได้ ส.ส.เขตสักคน ในภาคอีสาน


เนื่องจากคนอีสานไม่เอาพลเอกประยุทธ์ เพราะได้รับความเดือดร้อน เช่น ปุ๋ยแพง ปีนี้ถุงละ 2 พัน แต่ข้าวในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ กิโลละ 11 บาท ดังนั้นประกาศเลยว่าพรคเพื่อไทยไม่กลัวพลเอกประยุทธ์ และพร้อมชน และเชื่อว่าจะแลนด์สไลน์อย่างแน่นอน แต่อาจจะไม่ทุกภาค


เมื่อถามว่า รวมไทยสร้างชาติตั้งเป้าจะได้ ส.ส. 100 คน นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ คงไม่มีใครเชื่อ ส่วนตัวนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด เพราะไปเอาฐานเสียงภาคใต้ รวมถึงดูด ส.ส. จากพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้าย 2 พรรคนี้จะแบ่งคะแนนกันเอง หรืออาจจะแพ้พรรคอื่นที่ส่ง ส.ส. ลงสมัครภาคใต้จะเข้าวิน


ขณะเดียวกันรวมไทยสร้างชาติตั้งแต่เปิดมา มีข่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จะมาเป็นแคนดิเดตฯ แต่ดูด ส.ส. เกรดเอเข้ามาน้อยมาก ยิ่งเช่น กลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ยิ่งนานยิ่งลดลงเรื่อยๆ เพราะพื้นที่ทับซ้อนกับคนที่เข้าไปก่อน


นอกจากนี้ ตัวเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติก็ยังมีปัญหา เพราะมีข่าวว่านายสุชาติจะไปเป็น แต่ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ ตนประเมินว่าได้ ส.ส. 40 คนก็เก่งแล้ว โดยในเขตจังหวัดอีสานตนมั่นใจว่าได้ส.ส. 0 คน ภาคเหนือและกทม. ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไหม สุดท้ายแบ่งกับประชาธิปัตย์ที่ภาคใต้ ส่วนตัวเลข ส.ส. 100 คน ตนไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหน

------------
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่าจะกระทบกับแลนด์สไลด์พรรคพท.หรือไม่ ว่า


ไม่กระทบ กลับมองว่าเป็นการส่งเสริมให้พรรค พท.มีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น ผลจากการบริหารงานมา 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนรู้แล้วว่าไม่สามารถแก้วิกฤตประเทศได้ ประกาศคืนความสุขให้ประชาชน แต่ 8 ปี ที่ผ่านมา กลับทำลายระบบประชาธิปไตย และโอกาสของของประชาชน


ถ้าประชาชนต้องการออกจากวิกฤติที่เป็นอยู่ ย่อมไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ การประกาศชัดเจนออกมา ก็ต้องขอขอบคุณ ประชาชนจะได้ตัดสินได้ง่ายขึ้นว่า จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ หรือเลือกพรรคการเมืองที่จะเข้ามาสร้างโอกาส

------------
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.ประเมินว่า รทสช.อาจได้ ส.ส.แตะ 100 ที่นั่งว่า ทุกพรรคพูดได้หมดว่า คาดหวังเท่าไหร่ คงไม่กล้าไปก้าวก่ายเขา อีกอย่างอยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ แต่สิ่งที่พูดได้คือมันเป็นหลักการสำหรับคนที่กล้าลงเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคใดพรรคหนึ่งต้องกล้าขึ้นเวทีดีเบตช่วงที่มีการเลือกตั้ง แล้วให้ประชาชนฟังก่อนจะตัดสินใจ ไม่กล้าอย่าริเป็นแคนดิเดตนายกฯ


เมื่อถามว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค รทสช.จริงจะกล้าขึ้นเวทีดีเบตหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ แค่โดนยิงคำถามเรื่องอยู่ต่ออีกได้แค่ 1-2 ปี หรือถ้าได้เก้าอี้เท่าไหร่แล้วจะจับมือกับพรรคใดตั้งรัฐบาลน่าสนใจว่าจะตอบอย่างไร มันอยู่ในสถานการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก


ความหมายคือถ้าขึ้นเวทีดีเบต พล.อ.ประยุทธ์ จะโดนยิงคำถามจนตอบลำบาก แต่ถ้าไม่ขึ้นเวทีดีเบตจะหนีไปถือว่า ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯที่เป็นกระบวนการประชาธิปไตย ที่ปกติเขาทำกัน ประชาชนน่าจะตัดสินได้

------------
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประกาศร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ง่ายขึ้น ว่า


ส่วนตัวมองว่าการจะพูดอะไรนั้นสามารถพูดได้ แต่คงต้องดูด้วยว่า การพูดแบบปากกล้า แต่ขานั้นกำลังสั่นอยู่หรือเปล่าด้วย เพราะเท่าที่ได้ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนมานั้น กระแสนิยมในตัวท่านนายกฯ ยังคงดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน อดีต ส.ส. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง ต่างแสดงความจำนงค์ว่าอยากมาร่วมงานการเมืองกับท่านนายกฯ เพราะมีความชัดเจน เด็ดขาดเรื่องการทำการเมือง โดยปราศจากการทุจริต ที่สำคัญคือปกป้องและเทิดทูนสถาบันที่เคารพของคนไทยไว้เหนือการเมือง


ดังนั้น เชื่อว่าคำพูดของ นพ.ชลน่านคงใช้ได้แค่หลอกตัวเอง แต่หลอกประชาชนไม่ได้ เพราะการบริหารงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของท่านนายกฯ เป็นที่ประจักษ์ว่า สร้างโอกาสให้ประเทศมากกว่าพวกพ้องตัวเอง

----------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/W9ivT0_lVT0

คุณอาจสนใจ

Related News