เลือกตั้งและการเมือง

ฝ่ายค้านมีหวัง หลังศาล รธน.สั่งสภาส่งหลักฐานเพิ่ม สะท้อนความเห็น 'มีชัย' ย้อนแย้งกัน

โดย petchpawee_k

9 ก.ย. 2565

11 views

'หมอชลน่าน' มั่นใจหลักฐานฝ่ายค้าน หลังศาลรัฐ รธน.สั่งสภาส่งหลักฐานเพิ่ม สะท้อนความเห็น 'มีชัย' ย้อนแย้งกัน


เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลขาสภาผู้แทนราษฎรส่งจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561  ให้ศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13 กันยายนนี้ 


แสดงว่าศาลรัฐธรรมนูญยังมีข้อสงสัย ในบันทึกการประชุมของ กรธ.ครั้งที่ 500 ที่ระบุว่าไม่มีการรับรองบันทึกการประชุม และที่มีความเห็นของกรธ.แต่ละคนในเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ในขณะนั้นด้วย


ซึ่งในบันทึกการประชุมกรธ.ครั้งที่ 501 ที่ฝ่ายค้าน ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมผ่าน ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้นได้รับแจ้งว่าจะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยมีหลักฐานชัด ว่าเป็นการรับรองการประชุมครั้งที่ 500 ที่อนุกรรมการได้พิจารณาตรวจสอบแล้วโดยไม่มีการแก้ไขในบันทึกการประชุมนั้นเลย เท่ากับว่าได้รับความเห็นชอบ จึงถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจน


และยิ่งศาลให้ทางสภาส่งหลักฐานในส่วนนี้ไป ก็จะยิ่งทำให้ฝ่ายค้านมีความหวังว่าศาลจะรับเอาพยานเอกสารหลักฐาน ของฝ่ายค้านที่ยื่นไปเข้าสู่การพิจารณาด้วย เพราะจะเป็นการหักล้างคำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่หลุดออกมาและระบุว่านับวาระ 8 ปี จาก 6 เมษายน 2560 หลัง รัฐธรรมนูญบังคับใช้ แล้วอ้างบันทึกการประชุมที่เคยบอกให้นับปี 57 นั้น ไม่ใช่เอกสารสมบูรณ์


นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านไม่ได้แย้งไปคือนายมีชัยให้ความเห็นในเรื่องนี้ในฐานะพยานบุคคล ซึ่งศาลได้สั่งให้นายมีชัย ให้ข้อมูลในฐานะเป็นประธานกรธ.


ดังนั้นต้องเอาความเห็นในขณะที่เป็นประธานในขณะนั้น ซึ่งมีบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วให้กับศาลรัฐธรรมนูญไป ซึ่งต้องตอบตามนั้น แต่ความเห็นที่นายมีชัยส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นความเห็นที่ย้อนแย้งกัน จึงเห็นว่าบันทึกของนายมีชัยที่หลุดออกมาในสังคมออนไลน์เป็นเรื่องที่เข้าทางฝ่ายค้าน และเป็นประโยชน์กับการพิจารณาในมุมของฝ่ายค้านเพราะไม่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ คือมีน้ำหนักไม่พอเพียงหรือขาดความน่าเชื่อถือ และยังเป็นการให้การต่อศาลเป็นเท็จด้วย

-----------------------------------------------------------------------------


ศาล รธน. ขอเอกสารเพิ่ม ปมความเห็น 'มีชัย' เคยชี้ นับวาระ 8 ปี จากปี 57 ได้


เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการประชุมพิจารณาปมวาระ8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณา เอกสารหลักฐาน และคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งความเห็น ของ อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ


โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว จึงมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 501เมื่อวันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 ซึ่งมีวาระรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข และให้จัดส่ง เอกสารดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 13 กันยายน และกำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันที่ 14 กันยายน นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 มีการบันทึกบทสนทนา ระหว่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เมื่อครั้งเป็น ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เมื่อครั้งเป็นรองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายมีชัย โดยตั้งคำถามต่อที่ประชุมกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ว่า นายกรัฐมนตรี ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 สามารถนับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้หรือไม่


โดย นายสุพจน์ ไข่มุกด์ แสดงความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งดังกล่าวรวมกับการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย


ขณะที่นายมีชัย ได้แสดงความเห็น ว่าเมื่อพิจารณาตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญมาตรา 264 วรรคหนึ่ง แล้ว การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ2560 บังคับใช้ ก็สามารถนับรวมระยะเวลา ดังกล่าวกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี


อย่างไรก็ตาม ตามเอกสารที่หลุดออกมาและ อ้างว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวาระ 8ปี การดำรงตำแหน่ง นายมีชัย กลับระบุว่า เอกสารบันทึกการประชุมดังกล่าวมีความไม่สมบูรณ์เนื่องจากเจ้าหน้าที่ บันทึกตามความเข้าใจของเจ้าหน้าที่เอง และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้ตรวจรับรองบันทึกการประชุม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fH2Iqn9M63c

คุณอาจสนใจ

Related News