หมอชลน่าน หัวเราะลั่นไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ เล่าฝันเห็นนายกฯ ลาออก

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปี 2565 ณ โรงแรม อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ประกอบด้วย 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญ

ทั้งนี้ ตามปกติ ศาลรัฐธรรมนูญมีประชุมทุกวันพุธ หากประธานรัฐสภายื่นเรื่องให้ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค. 65) คาดว่าจะเตรียมการธุรการเข้าวันพุธได้ จะมีการตั้งองค์คณะหรือบุคคลเข้ามาพิจารณาคำร้อง ซึ่งอาจเป็นเต็มองค์คณะตุลาการ และคาดว่าจะรู้ผลการรับคำร้องในวันนั้นได้

ส่วนการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น นพ.ชลน่าน มองว่า เป็นอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีเหตุสงสัยว่าจะเป็นผลร้ายต่อการทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน พรรคร่วมฝ่ายค้านร้องข้อนี้เพื่อเน้นย้ำในเรื่องนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำหน้าที่ต่อหลังวันที่ 24 ส.ค. ไม่ได้อีกตามบทบัญญัติ ถ้ายังอยู่ยาวต่อได้ สิ่งที่เรากลัวคือ เกิดการผูกขาดอำนาจทางการเมืองและวิกฤตทางการเมือง ข้อขัดแย้งทางการเมือง และกระแสการต่อต้านจะแรงขึ้น กติกาเลือกตั้งอาจร่างขึ้นเองในรูปแบบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นั้น ก็มีข้อถกเถียงว่ามีศักดิ์เทียบเท่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ไม่ใช่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) อย่างกฎหมายลูก

“ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ เย็นวันที่ 23 ส.ค. ออกแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี เท่สุด ขอประกาศว่า จะหมดวาระในวันนี้ 24.00 น. ไม่ใช่การลาออก แต่สิ้นสุดลงตามกฎหมาย นี่คือมโนธรรมสำนึก แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในใจพี่น้องประชาชน มันเป็นความจริง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แทบไม่ต้องตีความใด ฝ่ายค้านจะยื่นศาลก็อิหลักอิเหลื่อ แต่ก็ต้องยื่นเพราะกระแสจากประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังต่อการลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นพ.ชลน่าน ตอบย้ำว่า “ผมฝันจริง ๆ แล้วเป็นทางลงที่ดีที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ สำหรับประเทศ และสำหรับสถาบันที่เกี่ยวข้อง อย่างสถาบันตุลาการ”

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการยุบสภา นพ.ชลน่าน ตอบว่า หากยุบสภาช่วงนี้มีแต่โทษ ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศเลย แล้วข้ออ้างในการยุบสภาไม่สมเหตุสมผล ที่อ้างได้คือขัดแย้งกับฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร เช่น ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่ผ่านในวันที่ 23 ส.ค. 65 ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มีสิทธิ์ไม่ผ่านหรือไม่ นพ.ชลน่าน หัวเราะ พร้อมกับตอบว่า “ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้” เพราะงบประมาณอาศัยเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงขั้นตอนรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ว่าจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 159 และ 272 ถามว่าเพื่อไทยจะส่งแคนดิเดตสู้หรือไม่ โดยหลักเราต้องส่ง แต่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกันว่าจะเป็นใคร แต่ด้วยความชอบธรรม พรรคเพื่อไทยมีรายชื่อทั้งหมด 3 คน แต่เมื่ออีก 2 คนทำหน้าที่อื่นแล้ว ก็เหลือ นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ยังอยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ส่วนความเป็นไปได้ในการนำเสนอคนนอกบัญชีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นใครก็ได้นั้น เกิดขึ้นได้ เมื่อไม่สามารถเลือกแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีได้ ยอมรับพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าจะเสนอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่น่าจะเหมาะในสถานการณ์เช่นนี้ หรือจะเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ นพ.ชลน่าน หัวเราะและตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย