"บิ๊กน้อย" พร้อมนำพรรครวมแผ่นดิน ลุยเลือกตั้ง มั่นใจเกิน 25 เก้าอี้

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน แถลงภายหลังประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 ว่า เป้าหมายของพรรคมีอย่างเดียว คือไม่ได้เป็นพรรคขนาดใหญ่ และไม่ได้เป็นพรรคขนาดเล็ก แต่เป็นพรรคขนาดกลาง ตามที่เรามุ่งหวังไว้ว่าเราจะเป็นพรรคที่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราหวังได้ส.ส. 25 ที่นั่งขึ้นไป ซึ่งเราได้มาในพื้นที่ภาคกลาง แต่ยังไม่สามารถบอกจังหวัดได้ เพราะเดี๋ยวจะถูกหยิบตัวไป รวมถึงภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ ก็มีบางส่วน เพื่อจะได้ร่วมรัฐบาล เพราะถ้าไม่มีดี คงไม่มาตั้งพรรค หรอก เอาอย่างนี้ดีกว่า



เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตนและพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด แต่ในเรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่อไปในอนาคตอาจจะต้องมีคนที่ดีกว่าท่าน เราสนับสนุนคนที่ดี เพื่อให้ประเทศอยู่รอดและไปได้ ซึ่งยังไม่ได้มีการทาบทามใครทั้งสิ้น เป็นเพียงเริ่มต้นพรรค เพื่อทำให้ประชาชนมีความศรัทธาในตัวเราให้มากที่สุด เราจะพยายามทำให้ประชาชนศรัทธาและทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐทุกวัน ตนก็ได้บอกว่าจะตั้งพรรค ซึ่งพล.อ.ประวิตรบอกว่าก็เอาดิ ลองไปทำดู ส่วนตัวถ้ามีอะไรจากไปปรึกษา พล.อ.ประวิตร เพราะเคารพเหมือนพ่อ ดูแลกันมาตั้งแต่เป็นทหารอยู่ที่จ.สระแก้ว



เมื่อถามว่าจากที่เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทยมาก่อน จะนำอะไรมาใช้ในการทำพรรคครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวยอมรับว่าตนเป็นคนใหม่ในการเมือง อาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างบ้าง แต่กลับมาใหม่คราวนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะเราคิดถึงสมาชิกที่ดึงจากพรรคพลังประชารัฐ ไปพรรคเศรษฐกิจไทย จากนั้นเราก็ทิ้งเขาไป ตนคิดว่าตนทำไม่ถูก จึงรู้สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบจึงหันกลับมาใหม่ ยืนยันว่าพรรคเราเป็นพรรคของประชาชนเอาประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ตนไม่คิดที่จะดึงส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจไทย และตนไม่เคยทำ ถ้าคนจะมาอยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องไปดึง หรือไปทำอะไรให้เขามาเอง ตนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เราไม่เคยทำอย่างนั้น และไม่คิดจะทำด้วย ตนขอคนที่สมัครใจที่อยากจะมาอยู่ด้วย เพื่อมาทำงานให้กับบ้านเมือง ส่วนการส่งผู้สมัครเพียงบางจะส่งเพียงบางเขตที่คิดว่ามีสิทธิ์ โดยจะเน้นในพื้นที่ภาคกลาง



พล.อ.วิชญ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนไม่เคยเป็นนั่งร้านให้พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร และไม่เคยสร้างนั่งร้านที่บ้านตนเอง ไม่เคยมี งทุกคนเข้าใจว่าตนอยู่ใกล้ชิดพล.อ.ประวิตรทำงานมาตั้งแต่สมัยเป็นทหารด้วยกัน ยืนยันว่าตนยังไม่คิดถึงว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯเอง ต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพิจารณา ส่วนการลงสมัครส.ส.นั้น ตนจะไม่ลง เพราะไม่ถนัดงานสภาฯปล่อยให้คนอื่นทำดีกว่า อย่าไปรวมเองทุกอย่าง



ส่วน เห็นด้วยกับสูตรเลือกตั้ง กลับหาร 100 หรือ 500 บัตรใบเดียว หรือบัตรสองใบ ว่าทางพรรค ไม่ได้มองไปถึงเรื่อง พรป.เลือกตั้ง เป็นเรื่องของสภาฯ ไม่ขอไปก้าวล่วง และจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่พรรคเราก็จะลงเลือกตั้ง และทำให้ประชาชนมีสุข