ฝ่ายค้านซัด ‘กัญชาเสรี’ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ‘อนุทิน’ แจงคลิปหาเสียงพี้กัญชา ขอโทษใช้คำไม่เหมาะสม

ฝ่ายค้านซัด ‘กัญชาเสรี’ มีประโยชน์ทับซ้อน พรรคภูมิใจไทยและนายกรัฐมนตรี ด้าน ‘อนุทิน’ แจงปมคลิปพี้กัญชาตอนหาเสียง ลั่น ขอให้ดูยาวๆเพราะคลิปตัดต่อได้ ขอโทษหากใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม 


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าทั้ง 2 คน จัดทำนโยบายกัญชาโดยไม่สุจริตใจ ทำให้เกิดการละเมิดกติกาโลก เนื่องจากไทยได้ไปลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 ขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN แถมยังละเมิดรัฐธรรมนูญไทย ละเมิดมติรัฐสภาไทย แล้วยังละเลยไม่ควบคุมกัญชา ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและประเทศ


โดยเนื้อหาการอภิปราย นายสุทิน ได้เปิดคลิปเนื้อหาการปราศรัยช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 62 โดยเนื้อหาใจความส่วนหนึ่งในคลิปนายอนุทิน ระบุว่า "กัญชาเป็นยาพารวย เป็นยารักษาโรค และนำมาพี้สูบกันเองได้" นายสุทินกล่าวต่อว่า การ ประกาศนโยบายดังกล่าวเป็นการติดกระดุมผิดเพราะการพูดขณะนั้นผิดกฎหมายโลกและกฎหมายไทยทุกข้อ และที่สะเทือนใจและผิดมากคือ "สามารถนำไปพี้และสูบได้ทุกคน"


ต่อมานโยบายดังกล่าวถูกนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองในการร่วมรัฐบาลซึ่งนายกฯ ต้องจำยอม และกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลทันที ซึ่งภายหลังปลดล็อคมีการวางขายกัญชาแบบเสรีอย่างชัดเจน ทำให้หลายหน่วยงานออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย และมีเสียงคัดค้านกับการเปิดกัญชาเสรี แม้มีกฎหมายควบคุมกันชงกัญชาออกมา แต่สรรพคุณยาเสพติดก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปด้วย


แล้ววันนี้ถ้ามาเทียบกับสิ่งที่จะได้ เรื่องเศรษฐกิจก็ไม่คุ้ม เรื่องสังคมก็จะเละ การที่ทำแบบนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะประโยชน์ทางการเมืองที่จำเป็นต้องทำเมื่อประกาศออกมาแล้วก็ต้องทำเพื่อให้ได้คะแนนเสียงทางการเมือง นายกรัฐมนตรีก็ได้ประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจและมีพรรคร่วมรัฐบาล


นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าบริษัท STPI เครือชิโนไทยเดินหน้าธุรกิจกัญชงเต็มตัว เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศรับซื้อไม่อั้น จึงเกิดกระบวนการปลดล็อคกัญชา เปรียบเสมือนการนำประเทศทั้งประเทศไปค้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่อนุญาตให้ทำเรื่องนี้คงไม่สำเร็จ

-------------------------------------------------------------------------------

ขณะที่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยเริ่มต้นด้วยการเปิดคลิปปราศรัยของ นายอนุทิน ที่เคยหาเสียงนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งเนื้อหาในคลิป ระบุว่า “กัญชาไม่ใช่เสพติด แต่เป็นยาพารวย ปลูกได้ทุกบ้าน และรับจะรับซื้อกิโลกรัมละ 7 หมื่นบาท ไม่รวยตอนนี้จะรวยตอนไหน นำมาผสมอาหารก็ได้ หรือให้พี่ก็ได้เพิ่มเสียงหัวเราะให้ประชาชน”  


ซึ่ง นพ.วาโย ระบุว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย “แทนที่จะสร้างเสียงหัวเราะประชาชนด้วยนโยบายเศรษฐกิจ แต่กลับมาสร้างเสียงหัวเราะด้วยกัญชา” อีกทั้งยังได้โฆษณาชวนเชื่อกับประชาชนว่า ทุกคนจะปลูกกัญชาได้จนร่ำรวย สามารถนำกัญชาไปผสมอาหารหรือเสพได้ ซึ่งเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกัญชาทางการแพทย์เลย


นพ.วาโย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นายอนุทิน จงใจสร้างสุญญากาศทางกฎหมาย เพราะในระหว่างที่ปลดล็อกกัญชากัน กลับเพิ่งมีการยื่น ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง เข้าสภาในวันที่ 26 มกราคม 2565 เมื่อเป็นร่าง ฯ เกี่ยวด้วยการเงินก็ต้องส่งให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่รัฐมนตรีประกาศปลดกัญชาออกจากยาเสพติด เมื่อนายกรัฐมนตรีอนุมัติและส่งกลับมาก็ปิดสมัยประชุมไป 3 เดือน เพิ่งจะได้บรรจุเข้าวาระปลายเดือนพฤษภาคม และรัฐสภาพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณากฎหมายในวันที่ 8 มิถุนายน 2565 หรือเพียง 1 วันก่อนครบกำหนด 120 วันที่จะถอดกัญชาออกจากยาเสพติดฯ


นอกจากนี้ การปล่อยให้ไม่มีการควบคุมกัญชาจนร้านค้านำไปผสมอาหารโดยไม่แจ้งผู้บริโภค จนทำให้เกิดความหวาดกลัวผลข้างเคียงของกัญชา ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวไทยก็กลัวว่าหากกินอาหารที่ผสมกัญชาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวก็อาจเกิดปัญหากับประเทศต้นทาง จนอาจกระทบกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยอย่างมากด้วย


นพ.วาโย ย้ำว่า สิ่งที่ทำไม่ได้สนับสนุนเชิงการแพทย์ เสี่ยงต่อเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว สุขภาพ และ การทูต จึงไม่สามารถไว้วางใจนายอนุทินได้

-------------------------------------------------------------

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. ยืนยันว่า กัญชา-กัญชง เพื่อการสันทนาการ นันทนาการ หรือใช้ผิดประเภทไม่มีทางเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ และมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดไหนทำ ซึ่งก่อนที่จะมีการประกาศยกเลิกกัญชาเป็นยาเสพติด ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายและข้อตกลงนานาชาติ ซึ่งใช้ในเรื่องของสุขภาพทางการแพทย์ ไปผลิตเป็นสินค้าที่ไม่มีอันตรายต่อร่างกายก็ไม่ผิดหลักการข้อตกลงที่ผูกมัดกับไทยเอาไว้


และถึงแม้จะไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไปก็ยังต้องใช้กัญชาอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของที่เยาวชนและกลุ่มเปราะบางเข้าถึง และการสันทนาการและการประกอบอาหาร ตนมั่นใจว่าในพ.ร.บ. ที่กำลังร่างนี้จะครอบคลุมและควบคุมกิจการเหล่านี้ได้


ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอต้องดูทั้งคลิป จะดูสั้นๆ ไม่ได้ เพราะมีการตัดต่อได้ ซึ่งตนได้พูดชัดเจนในคลิปว่าให้สูบอยู่ในบ้านซึ่งในร่างพ.ร.บ. พรรคก้าวไกล ก็เขียนไว้ชัดเจนว่าหากจะสูบหรือเสพให้อยู่ในพื้นที่รั้วรอบขอบชิด ซึ่งตรงกับเจตนารมย์ของตน โดยยอมรับว่าการพูดกับชาวบ้านอาจมีการพูดติดตลกบ้าง ในอนาคตต้องมีความระมัดระวังในการใช้คำพูด และสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมต้องกราบขออภัยด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KYU1-KOun9I