นร.ยันเอาผิดแน่! ถ่ายคลิปแฉตำรวจ กระทำเกินกว่าเหตุไล่จับ-ด่าด้วยคำหยาบคาย

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 โพสต์คลิปวิดิโอขณะที่เป็นภาพนักเรียนกำลังวิ่งหนีตำรวจ และมีจนท.วิ่งตามล่าพร้อมพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่? หลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ออกไปพบว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ตำรวจถูกมองไปทางภาพลบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบน้องนักเรียนทั้งสองคน ที่บ้านพักและนายชำนาญ คุณพ่อน้องนนท์(นามสมมติ) น้องนักศึกษาเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ใน จ.อยุธยา  และน้องบอล (นามสมมติ) นักศึกษาสถาบันเดียวกัน และเป็นคนถ่ายคลิปที่โพสต์ วันเกิดเหตุเช้าวันที่ 18 กรกฏาคม 65 บริเวณท่ารถประจำทางหน้าตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ริมถนนพหลโยธิน ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

น้องนักเรียนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังในวันเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าของวันที่ 18 กรกฏาคม 65 ที่ผ่านมาบริเวณท่ารถประจำทางหน้าตลา่ดประตูน้ำพระอินทร์ ริมถนนพหลโยธิน น้องทั้งสองคนกับเพื่อนๆ นักเรียนสถาบันเดียวกันประมาณ 10 คน กำลังรอขึ้นรถไปโรงเรียน ไปพบกลุ่มนักเรียนต่างสถาบันจะเข้ามาทำร้ายแล้วตะโกนให้ของลับใส่ไป และเป็นจังหวะเดียวกับตำรวจชุดสืบสวนของโรงพักพระอินทร์ราชา ชุดนอกเครื่องแบบตะเวนอำนวยความปลอดภัยหลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีจะมีเด็กนักเรียนตีกันบริเวณท่ารถ กลุ่มตำรวจจึงวิ่งเข้าจับกุมน้องนนท์ไว้ได้ ล็อกตัวไปทางสถานีอนามัยข้างทางกลายเป็นภาพปราฏกตามคลิป ซึ่งน้องนนท์ ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นตำรวจเพาะไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่ได้ให้ของลับใส่ตำรวจด้วย แต่ตำรวจล๊อคตัวจับกุมรุ่นแรง ข่มขู่



นอกจากนายชำนาญ พ่อของน้องนนท์ แล้วพบว่ามีญาติพี่น้องและเพื่อนนักเรียนร่วมสถาบันเดินทางมารวมตัวอยู่ที่บ้านของนายชำนาญอีกด้วย แต่ละคนอยู่ในอาการไม่พอใจการทำงานของตำรวจประตูน้ำพระอินทร์ เป็นอย่างมากที่มีพฤติกรรมกระทำความรุ่นแรงต่อลูกหลานตามคลิป



ทุกคนบอกว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนกระทำรุนแรงกับลูกหลาน เลือกปฏิบัติเข้ามาจับลูกที่กำลังเรียนหนังสือ อายุยังน้อย เพียง 13-14 ปี เท่านั้น ลูกไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเพิ่งเรียนได้ปี 1 เท่านั้น ที่มีเรื่องกันส่วนใหญ่เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันไม่ใช่กลุ่มของลูกหลานไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทตีกัน



หลังจากดูคลิปทั้งนายชำนาญ พ่อของน้องนนท์ ที่ถ่ายปรากฏเสียงอยุ่ในคลิป และนางธัญรัศม์ บุญญรัตน์ธนกูล คุณแม่ของน้องบอลใส่เสื้อสีน้ำเงินลายขีดขาว ที่เป็นคนถ่ายคลิป ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับตำรวจ ทั้งหมดจำนวน 5 นาย เป็นชุดสืบสวนของตำรวจโรงพักพระอินทร์ราชา และหนึ่งในนั้นมีรองผู้กำกับสืบของโรงพักพระอินทร์ราชารวมอยู่ด้วยตามเสียงในคลิป ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เด็กเยาวชน



ส่วนด้านป้าของน้องนนท์ บอกรับไม่ได้กับพฤติกรรมของตำรวจพระอินทร์ราชา ไม่รู้ทำไมไม่ชอบกลุ่มนักเรียนที่เป็นลูกหลานของตนมีปัญหากันมาตลอด ตอนนี้ต้องการให้ตำรวจออกมายอมรับในการกระทำที่เกินกว่าเหตุในการจับกุมลูกหลานตนเอง

หากลูกหลานผิดก็ไม่ว่าอะไรนี่ลูกหลานไม่ได้ทำอะไรเลยมาจับ หลังเกิดเหตุเรียกผู้ปกครองไปพบก็ไม่เคยที่จะเอยคำขอโทษสักคำ ไม่มีความรับผิดชอบแต่กลับพูดในลักษณะไม่เป็นมิตรทำให้หมดความนับถือตำรวจทันที ถึงขนาดตำรวจอย่างนี้หรือที่จะฝากอนาคตลูกหลานให้ดูแลไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ตอนไปแจ้งความตำรวจยังพูดไม่ดี ถามรองผู้กำกับสืบต้นเหตุก็ไม่ยอมมาพบ ตอนไปแจ้งความเจ้าหน้าที่เอาแต่ปกป้องกันเถียงเอาชนะประชาชน ตามคลิปที่ถ่ายบันทึกไว้ ป้าของน้องนนท์กล่าว



ในคร้้งแรกนายชำนาญและญาติๆ ทั้งหมดรวมทั้งน้องๆ ร่วมสถาบันกับลูกชาย พากันมารวมตัวอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อจะเดินทางไปร้องเรียนต่อนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ต้องยุติยกเลิกหลังพันตำรวจเอก มนัส อัดโดดดร ผู้กำกับโรงพักพระอินทร์ราชา ได้เชิญนายชำนาญ กลุ่มญาติและน้องนักเรียน มาทำความเข้าใจแก้ไขปัญหาดังกล่าว มาพูดคุยที่โรงพัก

บรรยากาศก็ยังคงเป็นไปอย่างเคร่งเครียดทั้งกลุ่มตำรวจ และกลุ่มของนายชำนาญ แต่ทางตำรวจดูจะเสียเปรียบจากคลิปที่ปรากฏ พันตำรวจเอกมนัส ได้กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แทนรองผู้กำกับสืบ ที่กันตัวไว้ยังไม่ให้มาพบกับกลุ่มของนายชำนาญ โดยได้สั่งให้รองผุ้กำกับสืบหยุดปฏิบัติงานไปจนกว่าเรื่องจะยุติ และให้ต้้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้สร้างความพอใจให้กับกลุ่มนายชำนาญและญาติในระดับหนึ่ง

น้องที่ถ่ายคลิปเสื้อดำ ยืนยันแจ้งความเอาผิด ตร. จะไม่รับยอมความ และโดยเฉพาะนายชำนาญ บอกว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น