ชัชชาติ ปลื้มกระแสคนตอบรับเทศกาล “กรุงเทพกลางแปลง”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวระหว่างร่วมเปิดเทศกาลกรุงเทพกลางแปลง ว่า ต้องขอบคุณสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์และสมาคมหนังกลางแปลงชมรมกรุงเทพน่าอยู่กว่าเดิม แม้ทางกทม.ไม่มีงบประมาณให้มาก แต่ร่วมมือกันทำให้งานครั้งนี้เกิดขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นสร้างความสุขให้คนกทม. ได้เห็นความคึกคัก และร้านค้าต่างๆ ที่มีรายได้ด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่า “จริงๆ ความสุขมีหลายอย่าง เพียงแต่ถ้าเราคิดและเดินให้ช้าลงก็จะเห็นความสุข


นายชัชชาติ กล่าวว่า การฉายหนังกลางแปลง ทำให้เรารำลึกถึงบรรยากาศเมื่อหลายสิบปีก่อน และน่าจะเหมาะกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพราะมาฉายในสถานที่โล่ง อากาศปลอดโปร่ง พร้อมระบุว่า ตอนนี้มีข่าวดีจะมาแจ้งเพิ่มมาอีก 1 อย่าง หลังผู้ว่าฯการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้แจ้งอนุญาตให้ใช้สถานีรถไฟหัวลำโพงฉายหนังกลางแปลง ซึ่งทางกทม.และผู้จัดเทศกาลกรุงเทพกลางแปลง จะนำหนังเรื่องคู่กรรม ที่เป็นหนังม้วนฟิล์ม ไปฉาย เพื่อชวนให้คิดถึงบรรยากาศแท้จริงของหนังกลางแปลง


ทั้งนี้บรรยากาศในช่วงที่ นายชัชชาติ เดินมาถึงที่ลานคนเมืองก่อนเปิดงาน ได้พูดหยอกล้อกับผู้สื่อข่าว ว่า มาดูหนังกลางแปลงต้องมีอ้อยควั่น เพื่อจะได้บรรยากาศ ระหว่างที่นายชัชชาติไม่ทันพูดจบ ก็ปรากฏมีผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่ง ฝ่าวงล้อมผู้สื่อข่าว นำอ้อยควั่นมายื่นให้ โดยนายชัชชาติ ได้อุทานว่า “โอ้ว และบอกว่าไม่ได้กินมานาน พร้อมสอบถามว่ากี่บาท ให้ทีมไปจ่ายด้วย” จากนั้น ก็ได้ชิมอ้อยควั่น ต่อหน้าผู้สื่อข่าว และบอกว่า “กินเสร็จก็จะมีเศษอ้อยแบบนี้”


นายนิมิตร สัตยากุล ผู้ก่อตั้งสมาคมหนังกลางแปลง ผู้มีส่วนสำคัญกับเทศกาล “กรุงเทพกลางแปลง” เปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้กลับมาฉายหนังกลางแปลง อีกครั้งในรอบ 25ปี ซึ่งบรรยากาศการฉายหนังครั้งนี้เหมือนได้กลับมาฉายหนังในยุค 90 อีกครั้ง เป็นบรรยากาศที่หลายคนรอคอย และเป็นภาพที่คนแทบลืมเลือนแล้ว ได้กลับมานั่งชมหนังกลางแปลงกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคู่รัก พร้อมเลือกซื้ออาหารคาวหวานมานั่งกิน เช่น ลูกชิ้นปิ้ง ขนมจีน ผลไม้ ชมหนังกลางแปลงอย่างสนุกสนาน


สำหรับเทคนิคการฉายหนัง ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย มีทั้งฉายในระบบฟิล์ม และระบบดิจิทัล โดยในวันนี้ จะนำภาพยนตร์เรื่อง 2499 อันธพาลของเมือง มาฉายในระบบดิจิทัล ซึ่งจะได้ฉายภาพความเป็นกรุงเทพฯในยุคนั้นให้รับชม


ทั้งนี้ อุตสาหกรรมหนังกลางแปลง ซบเซาลงตั้งแต่มีหนังแผ่น CD วางขาย จนเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่ภาพยนตร์หาเลือกชมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น กระทั่ง กทม.ฟื้นหนังกลางแปลงขึ้นมา ในเทศกาลกรุงเทพกลางแปลง ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะทำให้หนังการแปลงได้กลับมารับความนิยมอีกครั้งทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด