โอ๊ย! “ชัชชาติ” ร้องเสียงสูง ถูกถามปมมัดมือคลุมหัว ยืนยันพร้อมทำงานใกล้ชิดรัฐบาล

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังพบนายกรัฐมนตรี และนายกฯนำชมตึกภักดีบดินทร์ ว่านายกฯได้แสดงความยินดีกับตนและนายกฯพัทยา หลังได้รับตำแหน่งใหม่ทั้งคู่ และเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่มีอะไร ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีนำชมตึกภักดีบดินทร์เพราะเป็นตึกที่เพิ่งทำใหม่ ตนไม่เคยเห็น นายกรัฐมนตรีจึงชวนตนและนายปรเมศวร์ไปชม ซึ่งมีการคุยกันว่าในอนาคตต้องช่วยกันทำงาน


การเจอนายกรัฐมนตรีครั้งแรกก็ดี เพราะเคยเจอมานานแล้ว “ถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตา เน้นเรื่องงานเป็นหลัก ซึ่งต้องประสานงานกัน และกทม.ต้องทำงานกับรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย”


ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ เปิดเผยด้วยว่า การพูดคุยกันวันนี้ (17 มิ.ย.) ยังไม่ได้คุยเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนการหารือกับกระทรวงคมนาคม วันนี้ปลัด กทม. ไปหารือกับกระทรวงคมนาคมในเรื่องตัวเลขที่เหมาะสม ซึ่งมีการหารือกันมานานแล้ว


ในส่วน กทม.จะหารือกันในสภากทม. ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมกันหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะใช้เวลาไม่นาน ต้องรีบแล้ว เพราะกำหนดไว้ 1 เดือน ต้องมีความคืบหน้ามารายงานให้ประชาชนทราบ ซึ่งมีหลายสัญญา ตั้งแต่สัมปทานเดิม ปี 2572 สัญญาจ้างเดินรถ 2572-2585 หากมีการรือจะต้องดูว่าสัญญาที่ทำไปแล้วจะทำอย่างไร การจะนำเข้าเสนอครม.จะต้องคุยกันก่อนเพื่อเสนอข้อเท็จจริง


แต่ยืนยันจะพยายามเร่งเพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียด ทั้งนี้หากครม.ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง กทม. นายชัชชาติบอกว่าไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายครม.ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจอยู่แล้ว กทม.เพียงแต่เสนอความเห็น อาจจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งซึ่งทุกคนก็ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ได้มีอะไร จะต้องร่วมหารือกับกระทรวงมหาดไทยก่อนด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเสนอเข้าครม. โดยเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง


ส่วนคดีรถดับเพลิง ก็ค่อยๆ สะสางไปเพราะถ้าฟ้องแล้วอยู่ในกระบวนการศาลเราก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ศาลสั่ง กทม.มีหลายเรื่องที่จะต้องทำ ทั้งเรื่องการนำสายไฟลงดิน หรือโรงกำจัดขยะ


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับนายกหรือไม่ เรื่อง สมัยทำรัฐประหารที่ถูกควบคุมตัว มัดมือ มัดเท้า ใช้ผ้าคลุมหัว นายชัชชาติร้องตะโกนเสียงสูงว่า “โอ๊ยย!! ไม่มีครับ ผมไม่ได้คิด ผมเองมองอนาคตการทำงานร่วมกัน เพราะกทม.อยู่ใต้กระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว เราก็ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ถ้าเราร่วมมือกันได้ดี สุดท้ายประโยชน์ก็จะตกกับประชาชน”


และได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ว่า ถ้าเราร่วมมือกันได้กทม.กับรัฐบาล ทั้งการประหยัดพลังงาน หรือการกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดถนนคนเดิน อาจจะมีความร่วมมือกับรัฐบาล ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ก็สนใจ โดยให้เอาโครงการมาคุยกันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนอะไรได้บ้าง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วเราในฐานะท้องถิ่น ร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ประโยชน์ก็จะตกกับประชาชน


นายชัชชาติ ยอมรับกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันบอกว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นตนและนายกลงพื้นที่ร่วมกัน พร้อมชี้แจงกรณีเปิดเดินเรือที่ไม่ได้ไปร่วมว่าได้บอกนายกรัฐมนตรีว่าไม่ทราบจริงๆ และบอกกับนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่าจากนี้ไปให้ประสานได้ พร้อมที่จะลงพื้นที่เพื่อชี้แจงปัญหาในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องดีเมื่อลงพื้นที่ก็จะเป็นปัญหาร่วมกันและเข้าใจประชาชนได้ดีขึ้น ตนพร้อมไปต้อนรับเพราะอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว


อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวที่คุ้นเคยสมัยนายชัชชาติ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ถามว่าคิดถึงทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่าไม่ใช่บ้านตน แต่ก็เห็นว่าทำเนียบเปลี่ยนไปและสวยดี