สภาไฟลุก! 'บิ๊กตู่' มีอารมณ์ ลุกโต้ฝ่ายค้านเดือด ซัดพรรคการเมืองใหม่ อย่าใช้โอกาสนี้หาเสียง

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงินกว่า 3.18 ล้านล้านบาท ซึ่งการพิจารณาจะเสร็จสิ้นในวันที่ 2 มิถุนายน และโหวตรับหลักการวาระแรกว่าจะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ ซึ่งตามกฎหมายหากจะรับหลักการต้องใช้เสียงของส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เกินกึ่งหนึ่ง ปัจจุบันมีเสียงส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 477 เสียง เกินกึ่งหนึ่งคือ 239 เสียง นั้น

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เดิมมีการให้ข่าวว่าจะรับหลักการ แต่ตอนนี้เสียงแตก จึงให้ทิศทางว่าต้องหารือกันว่าจะทำอะไร จะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ ต้องไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 18 เสียงของกลุ่ม 16 และ 16 เสียงของพรรค ศท. ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะจับมือกันการทำงานในสภาว่าให้ไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้พรรค ศท.ระบุว่า จะโหวตผ่านให้รัฐบาล ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอดูสาระสำคัญก่อน ถ้ามีสาระสำคัญที่เกิดประโยชน์กับประชาชน งบประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท ก็ผ่าน

----------

วานนี้ (1 มิ.ย. 65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วันที่ 2 ว่า ตนได้นั่งฟังมาตลอดตั้งแต่เมื่อวาน (31 พ.ค.) จนถึงวันนี้ (1 มิ.ย.) ขอบคุณในคำอภิปรายของบรรดาสมาชิกทั้งหลาย ตนเข้าใจดีและคิดว่าทุกคนมีความมุ่งหวังให้ประเทศเจริญก้าวหน้าเจริญเติมโต แต่นั่งฟังไปก็งงๆ อยู่เหมือนกันว่าวันนี้เราพิจารณางบประมาณประจำปี 2566 หรือไปพิจารณางบประมาณของพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งยังไม่ได้เป็นรัฐบาลในเวลานี้ อย่าใช้โอกาสนี้ในการหาเสียง เพราะผิดเวที

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ที่นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.พรรคเพื่อไทย บอกว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย และไม่ให้ความสำคัญงบปี 66 นั้น รู้หรือไม่ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญงบการลงทุนต่างๆ อย่างไรบ้าง พร้อมทำโครงสร้างต่างๆ หลายปีที่ผ่านมาจนสำเร็จถึงวันนี้ รวมทั้งต้องทำกฎหมายใหม่อะไรต่างๆ ไม่ใช่นึกจะทำและทำได้หมดทุกอย่าง

เราต้องอยู่ด้วยระเบียบ ข้อบังคับ กฎกติกาและกฎหมายที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ในการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของสภาในการพิจารณา ดังนั้นกฎหมายอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินและประชาชนก็ขอให้ช่วยกันให้ผ่านให้เร็วๆ อย่ามัวแต่ขัดแย้งกันอยู่ นอกจากนี้หลายอย่างรัฐบาลต้องวางโครงสร้างพื้นฐานไว้ให้พร้อม ไม่ใช่ปีเดียวแล้วจะเสร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มมาตั้งแต่ตนเข้ามาปีแรกจนถึงวันนี้และได้แบบนี้ออกมา

"ถ้าท่านบอกเพียงว่าจ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้ คูณตัวเลขมาสิเท่าไหร่ ท่านหาเงินได้หรือยังตอนนี้ ขณะเดียวกันก็บอกว่า รัฐบาลไม่มีทางอื่นนอกจากรีดภาษี ผมรีดใครแล้วยัง”

-----------

ภายหลังนายกรัฐมนตรีชี้แจงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นขอให้ถูกพาดพิง ที่นายกฯ ระบุว่าส.ส.พรรคฝ่ายค้านใหม่ที่ยังไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาลใช้เวทีสภาหาเสียงนั้น ว่า สภาคือเวทีพิทักษ์ภาษีของประชาชน ถ้าติอย่างเดียวแล้วไม่มีอะไรมานำเสนอก็หาว่าเป็นเรื่องการเมือง ส.ส.จึงพยายามหาอะไรใหม่ใหม่รวมถึงการเปรียบเทียบวิธีหารายได้จากต่างประเทศมานำเสนอ จึงขอให้นายกฯเข้าใจไว้ด้วย และไม่ต้องกลัวเพราะเมื่อถึงเวลาของพวกตนเมื่อไหร่ทำแน่

จากนั้นนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิงต่อ โดยระบุว่าฟังคำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรีแล้วยังเป็นการกล่าวหา ให้ร้าย ป้ายสีสภาอยู่ ให้สภาเสียหาย จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ

อยากบอกนายกฯไม่ควรโยนความผิดให้คนอื่น เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพราะแม้กระทั่งหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัตินายกฯยังล่วงเกินเลย พร้อมนายกฯไปบอกคนเขียนสคริปให้ทางด้านหลังด้วยเวลาเขียนโพยอย่าใส่อารมณ์มาด้วย ทำให้นายกฯมีอารมณ์

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/oOAAZq4FoCY