เลือกตั้งและการเมือง

"บิ๊กตู่" ต้อนรับ "นายกฯสปป.ลาว" ลงนาม MOU 3 ฉบับ เร่งฟื้นฟูคุณภาพชีวิตปชช.ทั้ง 2 ประเทศ

โดย paranee_s

1 มิ.ย. 2565

1.6K views

เมื่อเวลา 17.00 นาฬิกา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 1-2 มิ.ย. 2565 ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี ของนายพันคำ


พร้อมทั้งมีพิธีเดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ได้ลงนามในสมุดเยี่ยม ชมของที่ระลึก ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และหารือข้าราชการแบบเต็มคณะ โดยรัฐบาลไทยได้มอบการสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์พัฒนาสังคมมิตรภาพไทย – ลาว เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แบบครบวงจร ที่เมืองชัยธานี นครหลวงเวียงจันทน์


จากนั้นร่วมลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน 3 ฉบับ ได้แก่

1.แผนปฏิบัติการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย - สปป. ลาว เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 - 2569)
2.บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป. ลาว ฉบับปี ค.ศ. 2022
3.บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย - ลาว


ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมแถลงข่าวร่วมกันอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย ว่า เป็นเกียรติที่ได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีสปป.ลาวในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมชื่นชมบทบาทที่โดดเด่นในการวางรากฐานการศึกษาใน สปป. ลาวสะท้อน ให้เห็นถึงความเข้าใจลึกซึ้งในการสร้างและพัฒนาประเทศ ตลอดจนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ที่ไทยและสปป.ลาวให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเยือนครั้งนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีรัฐมนตรีและนักธุรกิจเดินทางร่วมคณะในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก และมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างกัน ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาอย่างคึกคัก โดยไทยเชื่อมั่นว่าการเดินทางมายื่นครั้งนี้จะเกิดประโยชน์อย่างรอบด้าน


ซึ่งการหารือในครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นมุมมองในหลายเรื่องในทุกมิติต่อความสัมพันธ์ไทยกับลาวโดยมีผลลัพธ์สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ


ด้านเศรษฐกิจจะเดินหน้าฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศและสถานการณ์แนวชายแดนให้กลับมาได้โดยเร็ว ภายหลังสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ได้เปิดจุดผ่านแดนชายแดนระหว่างของทั้งสองประเทศทุกจุดแล้ว


พร้อมเร่งรัดฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งจัดทำเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และเพื่อการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย ตนได้แสดงความประสงค์จะสนับสนุนการสร้างสะพาน เร่งรัดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ด้วยการสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย โดยทั้งสองประเทศจะเร่งหารือข้อสรุปรูปแบบของสะพานให้ได้โดยเร็วในปีนี้ และจะใช้ประโยชน์จากรถไฟลาวจีนให้ได้ประโยชน์อย่างที่สุดแบบ win-win


นอกจากนี้จะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาระบบดิจิทัล และเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดร่วมกัน รวมไปถึงเพิ่มความเข้มข้นในการสำรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ พร้อมเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ในระดับประชาชนทั้งสองฝ่ายร่วมกัน นอกจากนี้ยังกระชับความสัมพันธ์ด้านสาธารณสุข และด้านการเกษตรด้วย


ขณะเดียวกันกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของไทยจะมอบทุนการศึกษาจำนวน 700 ทุนเพื่อให้ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ ให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในด้านสื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีของประชาชนทั้งสองฝ่าย


ด้านนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ระบุว่า การเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และจริงจัง ในฐานะบ้านใกล้เรือนเคียง สปป.ลาว มีความภาคภูมิใจ ที่ทั้งสองฝ่ายได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เป็นคู่ยุทธศาสตร์ เพื่อการเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน และถือเป็นศักราชใหม่ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน


โดยทางด้านความมั่นคง จะเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การป้องกัน และปราบปรามการยาเสพติดและการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นมรดกให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ


ขณะที่ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดเอกภาพ ทั้งการพัฒนาระบบคมนาคม การสัญจร การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการลงทุนด้านการเชื่อมโยงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคม การท่องเที่ยว และการสาธารณสุข รวมไปถึงภาคเกษตรกรรม ซึ่งภาคเอกชนไทยได้พบปะ หารือถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือ ระหว่างกัน ถือเป็นข้อริเริ่มที่ดี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะอำนวยความสะดวก การค้าตามแนวชายแดนระหว่างกัน ตามพันธสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายเป็นคู่ภาคี บนพื้นฐานการพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยจะมีการพัฒนาโครงการร่วมกัน 53 โครงการ เพื่อเป็นการสร้างงานให้กับประชาชนให้ทำมาหากิน และตอบสนองประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงเสนอการใช้เงินตรา 2 ประเทศ ทั้งเงินกีบและเงินบาท เพื่อชำระหนี้


ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีได้หันกล่าวกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ถึงข้อความที่พูดกับตนเอง ที่แสดงถึงความ สัมพันธ์ของสองประเทศ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวจะหันมากล่าวกับสื่อว่า "กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ" และเยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ก่อนในเวลา 19.00 น.นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ด้วย


คุณอาจสนใจ

Related News