สังคม
'ธนาธร' ผุดไอเดีย "1 ครอบครัว 1 ผู้สมัคร สว." ชวน ปชช. ลงสมัคร หวังทำลายวงจร 'ประยุทธ์'
โดย nut_p
5 เม.ย. 2567
228 views
'ธนาธร' ผุดไอเดีย 1 ครอบครัว 1 ผู้สมัคร สว. หลังสงกรานต์มาแน่ เดินสายชวน ปชช. ลงสมัครอิสระ เอาให้ชนะแก๊งจัดตั้ง หวังทำลายวงจร 'ประยุทธ์' มองเป็นปัญหา 'งูกินหาง' จุดตายอยู่ที่นายอำเภอ หากทำข้อมูลรั่วอีกฝั่งเข้าวินทันที ชี้ อยู่ที่คอนเนคชัน คนจริง-ดี-เด่น-ดัง แต่ ไม่มีเพื่อน รอบแรกก็ไม่ผ่านแล้ว
5 เม.ย.2567 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงการเลือกตั้ง สว . ช่วงหนึ่ง ว่า การจะทำให้เลือกตั้ง สว. สุจริต มีจิตใจรับใช้ประชาชน ให้เสียงอิสระมากกว่าเสียงจัดตั้ง ดังนั้น จะต้องเรียกร้องให้สมัครกันเข้าไป อย่างน้อยก็เข้าไปเลือก ซึ่งทุกคนก็คงจะงง ตนจึงบอกว่ามันไม่มีทางอื่น ต้องทำให้เสียงอิสระเยอะกว่าเสียงที่ไปเกณฑ์กันมา
ส่วนถ้าแก้รัฐธรรมนูญจะง่ายกว่าหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ต้องไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องนี้จะดีกว่า เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะแก้เร็วหรือช้า ซึ่งท้ายที่สุดกลับมาก็จะเป็นงูกินหาง ถึง สว.สายประชาธิปไตยเข้าไปในรอบนี้ ก็ยังแก้ไม่ได้อยู่ดี
“ถ้าประชาชนไม่ขยับแล้วฝ่ายที่จะรักษาระบบประยุทธ์ คุณประยุทธ์ไม่อยู่แล้ว แต่ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ ถ้าเขาอยากจะรักษาระบอบไว้ เขาเอาคนไปลงสมัครเยอะ ๆ พอถึงวันที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขาก็ยกมือโหวตไม่เห็นด้วย รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็จะอยู่กับเราตลอดไป หมายความว่ากระบวนการแต่งตั้ง สว.แบบนี้ก็จะอยู่กับเราตลอดไป องค์กรอิสระแบบนี้ก็จะอยู่กับเราตลอดไป เป็นงูกินหางไปหมด” นายธนาธร กล่าว
เป็นเพราะกฎเกณฑ์แก้รัฐธรรมนูญที่ต้องมีเสียง สว. 1 ใน 3 ต่อให้พรรคเพื่อไทยอยากแก้รัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเสียง สว. ไม่ถึง 1 ใน 3 ก็ยังแกไม่ได้อยู่ดี ตนถึงกลับมาเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ช่วงหลังสงกรานต์ คณะก้าวหน้าคงจะรณรงค์อย่างจริงจัง
เมื่อถามว่าแต่มันจะสุ่มเสี่ยงหรือไม่ เพราะคณะก้าวหน้าก็ใกล้ชิดกับพรรคก้าวไกล นายธนาธร กล่าวว่า ก็เพื่อนของตนทั้งนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก็เพื่อนของตน ต่อให้ใกล้ชิดก็ไม่มีปัญหา เพราะตนเชิญชวนให้คนลงสมัคร สว. ถือว่าไม่ผิด ไม่ได้บอกให้เลือกใคร แค่เชิญชวนว่าถ้าอยากทำลายวงจรนี้ ต้องเริ่มจากตัวคุณ ขอให้ไปสมัคร สว. กัน ตนอยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญ ออกแรงกันในเรื่องนี้
ถ้าเราไม่มี สว. ไม่มีจิตใจที่อยากสร้างฟื้นฟูประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญที่ก้าวหน้ามาก จะถูกปัดตกทันที ถ้าอยากผ่าน สว. อาจจะต้องลดทอนความเป็นประชาธิปไตยของรัฐธรรมนูญลง เป็นการต่อรอง
“มันงูกินหางไปหมด นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกประชาชน ดังนั้นหลังสงกรานต์ ผมคงจะใช้บทบาททางสังคมที่พอมีสถานะอยู่บ้าง รณรงค์เดินสาย … ชวนปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าอยู่ครับ ไม่รู้จะมาร่วมหรือไม่ …. อยากจะเชิญชวนทุกคนในคณะก้าวหน้า ให้ออกมายืดเส้นยืดสาย ขยับกันหน่อย” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการหาเสียง แต่อยากบอกประชาชนว่าถ้ามีศักยภาพอยู่บ้าง ให้ออกมากัน ตนเชื่อว่าจะมีการระดมคนไปสมัครในรอบแรก แล้วจะเข้าไปขายเสียงข้างในเป็นแพ็กเกจ อาจจะขาย 300,000-500,000 บาท บางแพ็กเกจอาจจะขายเป็นล้านบาท ถ้าไปถึงระดับประเทศ ตนเห็นร่องรอย ตนคิดว่าไม่มีใครหาเครือข่ายได้ 900 กว่าอำเภอในประเทศไทย ดังนั้น ในอำเภอ ในวิชาชีพที่ไม่มี ก็ไปซื้อแพ็กเกจคนอื่น หรือว่าแลกกัน
“สมมติผมมีแพ็กอาชีพ ก. คุณมีแพ็กอาชีพ ข. พอถึงรอบไขว้ เราไขว้กันพอดี เราแลกกัน คะแนนกลุ่มผม ยกให้คนของกลุ่มคุณ คะแนนของกลุ่มคุณมอบให้กลุ่มผม แลกกันแบบนี้มันไม่ได้คนดีเข้าไป มันไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติแล้ว มันเป็นเรื่องของจำนวนพวกแล้ว ดังนั้น มันมีโอกาสที่จะขายยกแพ็ก” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า ถ้ามีคนอิสระเข้าไปสมัครเป็นจำนวนมากการซื้อขายตำแหน่ง สว. จะมีคนจับจ้อง เพราะจะมีการกระซิบกระซาบกัน อาจจะไปล่อซื้อยังได้ เลือกตั้งรอบนี้งงที่สุดในโลก เพราะคนภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์ไม่ได้ เอามือถือเข้าไปไม่ได้ด้วย
กกต. พยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามยาก ๆ แบบนี้มาโดยตลอด นอกจากนี้ ประชาชนต้องช่วยชี้เป็นชี้ตาย ในบทบาทของนายอำเภอ เลือกตั้ง สว. รอบนี้คนจัดการเลือกตั้งเป็นนายอำเภอ ตนคิดว่ามีจุดตายอยู่ 2 เรื่อง คือผู้สมัคร ถ้ามีผู้สมัครเข้าไปแล้วนายอำเภอรู้ แล้วนำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น จะทำให้รู้เลยว่าต้องเอาคนไปใส่ที่ไหนบ้าง ดังนั้น ฐานข้อมูลนี้ชี้เป็นชี้ตาย
จุดตายที่ 2 คือถ้าการไขว้สายมีการล็อกกันล่วงหน้า เกมจบทันที เพราะคุณจะรู้ว่าสายแต่ละสายจะไปไขว้กับใคร ดังนั้น คนที่จะลงสมัคร สว. ต้องไปดูเรื่องการจัดไขว้ ในระดับอำเภอ จังหวัด ถ้ารู้ล่วงหน้า ใครได้ข้อมูลก่อนชนะทันที
ส่วนจะเป็นการมองในแง่ร้ายหรือไม่ ตนไม่รู้ ถ้านายอำเภอข้อมูลก่อนล่วงหน้า 2 วัน ไปให้นักการเมืองท้องถิ่นหรือใครในอำเภอรู้ คนกลุ่มนั้นชนะทันที โดยเฉพาะหากรู้ว่าการไขว้สายเป็นอย่างไร ดังนั้น เรื่องนี้ควรส่งคนไปสอดส่องดูแล
นายธนาธร ยังสงสัยถึงการตรวจสอบข้อมูลผู้สมัคร เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นชาวนาจริง ตนปลูกต้นกล้วยไว้หลังบ้าน เป็นชาวสวนได้หรือไม่ การเลือกตั้งรอบนี้นอกจากงง ยังมีช่องโหว่เยอะไปหมดเลย
นายธนาธร ย้ำว่า ถ้าไปดูกลุ่มไลน์ ตอนนี้มีการตั้ง มีการเตรียมตัวกันเต็มหมดแล้ว เขากะเกณฑ์ พูดคุยกันหมดแล้ว โจทย์อย่างเดียวคือเสียงอิสระมากกว่าจัดตั้ง จะทำให้เราได้ สว.ประชาชนจริงๆ สว.ชุดปัจจุบันหมดวาระ 11 พ.ค. กระบวนการรับสมัครน่าจะอยู่ที่ปลายเดือน เลือกรอบแรกระดับอำเภออยู่ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย. ถัดจากนั้น อย่างละ 1 สัปดาห์จะเลือกระดับจังหวัดและประเทศ ถือว่ามีเวลารณรงค์น้อยมาก แต่หลังพระราชกฤษฎีกาออกมาคงพูดได้ไม่เต็มที่ แต่จะพยายามทำให้คนเข้าใจมากที่สุด
นายธนาธร ยังออกไอเดีย 1 ครอบครัว 1 ผู้สมัคร สว. สามารถเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุด ทำให้คนที่ตั้งใจไปซื้อเสียงในรอบไขว้หวั่นเกรง และการเจรจาเป็นไปได้ยาก การจัดตั้งก็จะยากขึ้น จะกระจัดกระจายขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะมันยากมาก ตนยังมองไม่เห็นทางว่าจะฟื้นฟูประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรถ้าไม่ออกแรง เราอยากให้เห็นถึงอนาคตลูกหลานมากๆ เราอยู่ในวังวนของความขัดแย้งมา 20 ปีแล้ว ถ้าเราไม่ลงมือทำอะไรเลย เราจะตอบลูกหลานไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ตนมีทางเลือก จะนั่งอยู่บ้านไม่ต้องเปลืองตัวก็ได้ แต่จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป สว.มีความคิดแบบไหนไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่มาตามกระบวนการ ดีด้วยซ้ำที่ สว. มีหลากหลายความคิด การโหวตตามใบสั่งต่างหากที่น่ากังวล
นายธนาธร ย้ำว่า ต้องนำตัวระดับ Decision Maker อย่างประธาน กกต.มานั่งคุยให้ชัดเจน จะได้เห็นว่ากระบวนการเป็นอย่างไร ให้เห็นถึงรายละเอียดย่อยๆ เช่น ค่าสมัคร คนสังเกตการณ์ ยืนยันว่าแม้จะไม่เห็นด้วย แม้จะไม่เป็นคุณ แต่กฎกติกามันเป็นแบบนี้ จึงต้องแก้ไข
“ในอุดมคติของเรา ครูที่ดีที่สุด 10 คน ตำรวจที่เก่งที่สุด 10 คน ควรจะได้เป็น สว. นี่คืออุดมคติ แต่ไม่ความเป็นจริง ดี เด่น ดัง ไม่มีเพื่อน รอบแรกก็ไม่ผ่านแล้วครับ” นายธนาธร กล่าว
ประเทศไทยเราสู้มาตั้งนาน เพื่อให้ สว.มาจากการเลือกตั้ง เราเคยทำได้มาแล้ว 1 ครั้ง ที่ สว.มาจากการเลือกตั้งทางตรง แต่ตอนนี้มาจากการแต่งตั้ง ถดถอยลงมา พอเราไม่ปกป้องคุณค่าประชาธิปไตย มันก็จะถูกทำลายลงทุกเมื่อ