เลือกตั้งและการเมือง

นายกเผย ครม ออก 10 มาตรการ ช่วยลดภาระค่าครองชีพ ปชช.

โดย onjira_n

22 มี.ค. 2565

429 views

  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีง่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า วันนี้ถือโอกาสรับประทานอาหารร่วมกันกับครม. ซึ่งไม่ได้รับประทานร่วมกันนานแล้วเพราะสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งวันนี้เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข มีการแยกชุดอาหาร รวมทั้งตรวจ ATK ซึ่งตนตรวจเมื่อวานนึ้ บางวันก็ตรวจ 2 รอบ พร้อมบอกประชาชนว่าอะไรที่เตือนให้ไปฉีดวัคซีนก็ให้ไปดำเนินการ ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ดีกว่าไปรักษาทีหลัง



นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่าในช่วงสงกรานต์ จะมีมาตรการผ่อนคลาย สามารถมีประเพณีสงกรานต์ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุม ซึ่งรัฐบาลก็จะมีการทำบุญในช่วงสงกรานต์เพื่อรวมพลังสู่ปีใหม่ไทยให้ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ในการประชุม ครม.ได้มีการพิจารณาออกมาตรการ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย- ยูเครน โดยเฉพาะความผันผวนพลังงาน ทำให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต การขนส่งสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ซึ่งตนและรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตระหนักดีถึงความลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย และผู้ใช้แรงงาน



จากการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ข้อสรุปว่าสถานการณ์ระหว่างยูเครน-รัสเซีย อาจจะไม่จบลงโดยเร็ว จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมความคิดเพื่อหามาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เพิ่มเติมจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้ อย่างน้อย 10 มาตรการ ดังนี้



1. การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท/เดือน



2. ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค่าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน



3. ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการ



4. คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม



5. แท๊กซี่มิเตอร์โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม



6. ลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.



7. ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565จากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง



8. กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายน โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป



9. ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1%



10. ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน



นอกจากนี้ สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มากที่สุด ก่อนจะเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูก โดยเน้นการใช้วัตถุดิบในประเทศ และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับประเทศต่างๆจัดหาปัจจัยการผลิตที่จำเป็นเข้าประเทศ โดยเฉพาะเรื่องปุ๋ย อาหารสัตว์ ที่เราพึ่งพาต่างประเทศ ว่าในระยะยาวจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยผลิตปุ๋ยในประเทศได้ ซึ่งเรามีแม่ปุ๋ยอยู่แต่ใช้ไม่ได้เพราะประชาชนไม่เห็นชอบ ทำให้ขาดความเข้มแข็ง



พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่าขณะนี้รัฐบาลทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานกำลังทำงานหนักช่วยเหลือประชาชนให้พ้นวิกฤติซ้อนวิกฤติให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาเจอสถานการณ์โควิดแล้วยังต้องมาเจอสถานการณ์สงครามอีก เหมือนเจอสองเด้ง



ขณะเดียวกันวันนี้ในที่ประชุมครม. มีการหารือเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน ปัญหาหลักของไทยขณะนี้คือความเหลื่อมล้ำเรื่องรายได้ ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอในการเลี้ยงชีพ



พลเอกประยุทธ์ยังกล่าวถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ ที่ทำให้คนรวยขึ้นมากจากเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี่ และสกุลเงินต่างๆ ก็ต้องระวัง ซึ่งรัฐบาลสนับสนุน แต่ก็ต้องมีมาตรการเพื่อป่องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นในระยะยาวด้วย ใครที่สนใจขอให้ไปศึกษาเพราะยังใหม่สำหรับประเทศไทย ขอให้ระมัดระวังอย่างที่สุด ซึ่งวันนี้สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือการสร้างการรับรู้ของประชาชน ไม่ให้ถูกหลอกจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาข่มขู่ ขออย่ารับสาย เพราะหากมีคดีจริงเจ้าหน้าที่จะมาหาเอง ขอให้บันทึกหลักฐานแล้วไปแจ้งความ



คุณอาจสนใจ

Related News