‘ผู้การเต่า’ ยัน ‘อธิบดีกรมการข้าว’ ยังไม่จ่ายเงิน ‘ศรีสุวรรณ’ ก่อนล่อซื้อ จ่อออกหมายจับผู้ร่วมตบทรัพย์เพิ่ม

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยันอธิบดีกรมการข้าว ไม่เคยจ่ายเงินให้ศรีสุวรรณ วันที่ 28 พ.ย. อย่างที่ที่ปรึกษากฎหมายให้สัมภาษณ์ จับตาภายใน 2 วันนี้ จ่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการตบทรัพย์เพิ่มอีก

เมื่อวานนี้ (30 ม.ค. 2567) นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจครั้งแรก หลังมีการรวบรวมหลักฐาน แจ้งจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หลังร่วมกันข่มขู่รีดเงิน 1,500,000 บาท เพื่อไม่แลกกับการเปิดโปงการทุจริตงบประมาณ

อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจในหลายประเด็นสำคัญ เริ่มตั้งแต่การวางแผนจับกุมผู้ต้องหา ที่รวบรวมหลักฐานกับภรรยามานานแล้ว และไปแจ้งความดำเนินคดี โดยที่ทีมงานของรัฐมนตรีไม่มีใครรู้เรื่อง

และประเด็นสำคัญ คือเหตุการณ์ วันที่ 28 พ.ย. ที่นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกูล ที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว ให้สัมภาษณ์ว่าในวันดังกล่าว ตัวเขากับภรรยาไปกับนายสุธี พงษ์เพียรชอบ หรือ พี่หมู ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปหานายศรีสุวรรณที่บ้าน เพื่อไปเคลียร์เงินใหักับนายศรีสุวรรณหลักแสนบาทนั้นไม่เป็นความจริง แต่วันนั้นพวกเขาทั้ง 3 คน ไปบ้านนายศรีสุวรรณ เพื่อไปสอบถามว่าร้องเรียนเรื่องอะไร เพราะตนเองไม่ผิด และก็ไม่ได้จ่ายเงินหลักแสนตามที่นายดนุเดชพูด

ทั้งนี้เขาเป็นรุ่นพี่ของนายศรีสุวรรณ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่วนพี่หมูไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย ผมพูดความจริง ผมแขวนพระอยู่เต็มอก ผมพูดความจริงทุกอย่าง ไม่ได้โกหก ไม่ได้ไปเจรจาเรื่องการจ่ายเงินจ่ายทองอะไรทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกัน

ส่วนเหตุผลที่เดินหน้ารวบรวมหลักฐานเอาผิดนายศรีสุวรณ เพราะพวกนี้ไม่ยอมหยุด ประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ถ้ามีคนประเภทนี้ ผมจึงวางแผนกันเอง โดยที่ไม่ให้ทีมงานท่านรัฐมนตรีเดือดร้อน ผมจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ป.ป.ป. ตายเป็นตาย ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ชีวิตเกิดครั้งเดียว ถ้าไม่ผิดอย่ามาแกล้งกัน

อธิบดีกรมการข้าวยืนยันว่าไม่มีการจ่ายเงินในวันที่ 28 พฤศจิกายน แต่ไม่รู้ว่าที่ปรึกษากฎหมายที่ให้ข้อมูลก่อนหน้านี้พูดอะไร แต่ต้องฟังจากปากเขา ต้องเขียนแบบที่ตนเองพูด ห้ามบิดเบือน ถ้ามีการจ่ายเงินวันนั้น นายศรีสุวรรณจะร้องทำไม และขอย้ำว่าเจอกับนายศรีสุวรรณครั้งเดียวก่อนที่จะเกิดเรื่อง จากนั้นไม่ทราบ เพราะมอบหมายให้ภรรยาไป

ส่วนที่รู้สึกโกรธ คือ รับราชการ มีธุรกิจครอบครัว ทำด้วยความสุจริต ที่เจ็บใจมากที่สุดกว่าจะเลี้ยงได้แต่ละตัว แต่กลับบอกว่าภรรยาค้าตีนไก่ พูดเรื่อยเปื่อยได้อย่างไร สะท้อนแล้วว่าสังคมไทยเป็นเช่นนี้ ต้องจัดการ

ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับไป วันจันทร์ที่ 29 ม.ค. 2567 นายดนุเดช ที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว ให้สัมภาษณ์ เปิดประเด็นว่า อธิบดีกรมการข้าวพร้อมกับภรรยา และที่ปรึกษาของผู้บริหารกระทรวงเกษตร ไปพบนายศรีสุวรรณ ที่บ้านเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2567 และจ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณ ถึง 6 หลัก มากกว่า 1 แสนบาท แต่กลับกลายเป็นว่า อธิบดีกรมการข้าวปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณ อย่างที่นายดนุเดชพูด ซึ่งเป็นการย้อนแย้งกัน

ล่าสุดทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหานายดนุเดช เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยนายดนุเดชบอกเพียงสั้นๆ ว่ารู้เรื่องแล้ว แต่ยังไม่ขอให้ข้อมูลในเวลานี้

ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องที่อธิบดีกรมการข้าวออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้จ่ายเงินให้กับนายศรีสุวรรณ ในวันที่ 28 พ.ย.ว่า เรื่องนี้ตำรวจได้สอบปากคำภรรยาและอธิบดีกรมการข้าวไปแล้ว และทั้งสองคนก็ยืนยันว่า ไม่ได้จ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณ แต่ไปพบกับนายศรีสุวรรณจริง พร้อมกับนายสุธี เพื่อไปพูดคุยเจรจาและสอบถามถึงเรื่องที่จะร้องเรียนเท่านั้น

ส่วนที่ปรึกษาทางกฎหมายไปให้สัมภาษณ์ว่าจ่ายเงินในวันดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกี่ยวกับเรื่องไทมไลน์การจ่ายเงิน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ภรรยาของอธิบดีกรมการข้าวได้วางแผนกับตำรวจ แล้วเริ่มจ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นการเก็บหลักฐาน

ส่วนนายสุธี พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกมาให้ข้อมูลอย่างแน่นอน เพราะเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และคาดว่าภายใน 1 ถึง 2 วันนี้ จะมีการเรียกบุคคลอื่น มาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามที่เคยบอกไว้ว่า คดีนี้ไม่ได้มีคนกระทำผิดแค่ 3 คน แต่ทำเป็นขบวนการใหญ่

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/Ru6u7vadUDA