‘พิธา’ ปิดจ็อบเจรจาจับขั้วตั้งรัฐบาล จับมือกัน 8 พรรค เตรียมแถลง MOU 22 พ.ค.นี้

การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งชัดเจนขึ้นอีกระดับ เช้านี้พิธาพร้อมแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีก 7 พรรค มาร่วมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ

เมื่อเวลา 10.20 น. แกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลทยอยเดินเข้ามายังห้องแถลงข่าว และเริ่มด้วยการจับมือกันร่วมกันเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ โดยเริ่มแถลงข่าวเวลา 10.29 น.

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 เริ่มแถลงด้วยการระบุว่า เป็นการแถลงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน ของ 8 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ซึ่งผลการเลือกตั้งไม่เป็นทางการ มี ส.ส.รวมกัน 313 คน

นายพิธา กล่าวว่า ขอบคุณทุกเสียงของประชาชนที่เลือก ซึ่งเป็นเสียงแห่งความหวัง ความเปลี่ยนแปลง และจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ต่อประชาชน และจะเป็นรัฐบาลของทุกคน

1.จะสนับสนุนให้หัวหน้าก้าวไกล พิธา เป็นนายกฯ คนที่ 30

2.ทุกพรรคจะร่วมทำข้อตกลงร่วม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค. นี้ เพื่อแก้วิกฤติ การเมืองและสังคม

3.ทุกพรรคจะตัดจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสานต่อรัฐบาลเดิม อย่างไร้รอยต่อ

จากนั้นเปิดให้สื่อมวลชนซักถาม ตั้งแต่เรื่องจุดยืนมาตรา 112 ซึ่งนายพิธา ระบุว่าที่ผ่านมาเคยไว้พูดชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจว่าสามารถรวบรวมเสียงได้เพียงพอ โดยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก เป็นคณะกรรมการพิจารณาเรื่อง MOU และอีกคณะเป็นคณะทำงานเจรจาเพื่อหาเสียงสนับสนุนให้เพียงพอ ซึ่งได้วางแผนไว้หลายรูปแบบ มีหลายฉากทัศน์ ลดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่กังวลอะไร ยืนยันว่าผ่าน เพราะมีโรดแม็ปและฉากทัศน์ที่ออกมาอย่างชัดเจน คณะกรรมการเจรจาซึ่งมาจากทุกพรรค เป็นทีมเวิร์ค หาเสียง พิจารณาจุดยืน และมีเสถียรภาพ

นายพิธา กล่าวอีกว่า 313 เสียง เป็นความปกติของระบอบประชาธิปไตยที่เพียงพอ การหาเสียงให้ได้ 376 ไม่จำเป็น แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง จะดำเนินการหาเสียงสนับสนุน พิจารณาตัวเลขที่เหมาะสม ที่ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยง แต่ก็ต้องดูนโยบายและจุดยืนที่ตรงกัน

ภายใต้การนำของพิธาและหัวหน้าพรรคทุกคน คราวนี้ไม่ใช่เรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นส่วนใหญ่ แต่เอาเรื่องปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง เพื่อให้สามารถทำงานแก้ปัญหาประชาชนร่วมกัน ยอมรับมีการพูดคุยกันเรื่องกระทรวง ซึ่งไม่เน้นกระทรวง แต่เน้นวาระที่เราหาเสียงไว้ นโยบายใกล้เคียงกัน สามารถแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง และวางตัวบุคคล สำหรับ ส.ว. บางท่านที่แสดงท่าทีสนับสนุน ขอขอบคุณ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของผม แต่เป็นเรื่องระบบประชาธิปไตย

จากนั้นหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคได้แสดงจุดยืนในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล เริ่มจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อสนับสนุนพิธาเป็นนายกฯคนที่ 30 เป็นรัฐบาลที่เป็นความหวัง ความฝันของประชาชน เรื่องทำ MOU ตอนนี้แต่ละพรรคจะไปพูดจากัน รวมถึงเรื่องมาตรา 112 ยืนยันจะร่วมกันผลักดันให้มีคะแนนในที่ประชุมรัฐสภาให้มี 376 คน ซึ่งทุกฝ่ายมีหน้าที่ร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะพรรคแกนนำ

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เงื่อนไขต่างๆ ในการร่วมรัฐบาล จะให้จบที่ MOU ที่คณะทำงานที่มีตัวแทนจากพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะดำเนินการร่วมกัน ถ้าไม่จบ ก็ต้องมีทางออก เช่น มาตรา 112 ที่มีความเห็นต่างกันมาก คือ เรื่องไหนที่ตกลงกันได้ ก็จบ ถ้าประเด็นไหนตกลงไม่ได้ ก็จะหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถร่วมมือกันในการทำงานเพื่อประชาชน

และต่อมา คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถ้าประเทศไม่มีหลัก จะสร้างความวุ่นวาย ส่วนข้อตกลงเรื่องนโยบายจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อทำนโยบายร่วมกันตามที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน ซึ่งสำคัญกว่าการแบ่งตำแหน่ง แบ่งกระทรวง

ส่วน เรื่อง ม.112 คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หน้าที่ของทุกพรรคการเมืองคือต้องรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การที่จะทำอะไรแล้วไปกระทบหรือทำให้สถาบันเสื่อมเสีย ทุกพรรคต้องปกป้อง แต่การที่มีผู้ใดใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือมากลั่นแกล้ง ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ก็ต้องดูแล

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ส่วนรายละเอียดเรื่องนโยบายจะต้องไปพูดคุยกันหลังจากนี้

เช่นเดียวกับ นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ก็ได้กล่าวว่า สนับสนุนนายพิธา ให้เป็นรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของ ประชาชนในประเทศนี้ ไม่เช่นนั้นจะติดกับดักปัญหาเดิมๆ ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ เพื่อก้าวข้ามวิกฤติต่างๆ เราจะชอบใครรักใครไม่ว่า แต่ต้องรักประชาชนก่อน ไม่เช่นนั้นปัญหาเดิมๆ จะกลับมา ขอขอบคุณประชาชนและให้กำลังใจพวกเราให้ทำงานรอดพ้นวิกฤต เราไม่อาจทำงานแค่ 5-6 พรรคนี้ได้ ประชาชนต้องอยู่เบื้องหลัง วันที่ 22 พ.ค.ท่านจะเห็นแสงของการก้าวไปข้างหน้า

สำหรับการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลวันนี้ นอกจากการแถลงข่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดูเหมือนนายพิธา จะเป็นผู้จัดการเวทีเองทุกอย่าง ทั้งการจัดลำดับให้สื่อมวลชน เพื่อให้สื่อได้ถามอย่างทั่วถึง ทั้งสื่อไทย สื่อต่างประเทศ

รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/12R8gifuZRg