เลือกตั้งและการเมือง

เลือก(สัก)ตั้ง Ep 37 : ขุนพล กทม.

โดย paweena_c

10 พ.ค. 2566

5 views

ส่องขุนพลของแต่ละพรรคที่จะนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งใน กทม. ใครเป็นใคร มีโอกาสแค่ไหน

ในประเทศไทย กทม. ถือเป็นจังหวัดที่มี ส.ส. มากที่สุดคือ 33 คน ซึ่งแต่ละพรรคต่างลุ้นที่จะปักธงในพื้นที่นี้ แต่ที่ผ่านมาพื้นที่ กทม.​เป็นพื้นที่ที่คาดเดายากและค่อนข้างแปรปรวนและมักจะยึดติดกับกระแสพรรคในช่วงนั้นๆ

ดังนั้นหลายๆพรรคจึงทุ่มสรรพกำลังเข้าสู้ศึกนี้ และวางแม่ทัพที่คิดว่าเข้มแข็งที่สุดเข้าสู้ศึก เราลองมาเปรียบเทียบกันดูว่าแม่ทัพของแต่ละพรรคเป็นใครและมีที่ไปที่มาอย่างไร

เริ่มด้วยพรรคเพื่อไทย ได้ “พวงเพ็ชร ขุนละเอียด” อดีต ส.ส.จากพรรคไทยรักไทย ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ก่อนจะมาร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ แม้ชื่อจะค่อนข้างโลว์โพรไฟล์ แต่จริงๆแล้ว เป็นสายตรงพรรคมาตั้งแต่ไทยรักไทย และถือเป็นมือขวาของ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์​รักตพศ์ไพศาล คนใกล้ชิดนายทักษิณ ที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ไทยรักไทย ถือเป็นตัวจริงเสียงจริงเพื่อไทย

พรรคพลังประชารัฐ นำทีมโดย “อ.แหม่ม”​ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เคยเป็น รมว. แรงงานในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต่อมามีปัญหากับเพื่อนร่วมพรรค และมาอยู่กลายเป็นหนึ่งในทีมงานของ “บิ๊กป้อม” และคราวนี้ก็มาดูแลพื้นที่ กทม. โดยพรรคนี้จะมี สกลธี ภัททิยกุล คอยช่วยเหลืออยู่ด้วย

ต่อมาคือพรรครวมไทยสร้างชาติ มาคราวนี้หัวหน้าพรรคอย่าง “พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” คุมทีมเอง โดยมี “เอกณัฏ พร้อมพันธุ์ บุตรชายของสุเทพ เทือกสุบรรณ คอยช่วยเหลือ และนี่ก็บอกได้ว่านี่คือตัวจริงเสียงจริงของ กปปส. เช่นกัน

ขณะที่ อีกหนึ่งทีมงาน กปปส.​ที่แยกออกไปคือ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์  คราวนี้มาแปลกมาในสีเสื้อภูมิใจไทย ที่อนุทิน ชาญวีรกูลหมายมั่นปั้นมือว่าจะปักธงให้ได้ หากเช็กดูแบบเร็วๆ เราจะเห็นว่า กปปส. ไปเป็นแม่ทัพ กทม.​ถึงสามพรรคคือ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทน

มาที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่คราวแล้วสูญพันธ์ใน กทม.​ ซึ่งคราวนี้ก็หมายมั่นปั้นมือที่จะกลับมายึดพื้นที่ แม้จะค่อนข้างยาก โดยแม่ทัพคือมือเก๋า และมือทำงานพรรคตั้งแต่ดั้งเดิมอย่าง “องอาจ คล้ามไพบูลย์” ต้องดูว่าคราวนี้พรรคประชาธิปัตย์จะกู้คือศรัทธาคนกรุงได้หรือไม่ หรือจะต้องสูญพันธ์อีกครั้ง

อีกพรรคที่ลืมไม่ได้คือก้าวไกล งานนี้มี พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ที่คราวนี้ไม่ลง ส.ส. และขอไปทำงานเบื้องหลัง โดยมีหัวหมู่ทะลวงฟันอย่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร คอยช่วยเหลือ งานนี้ต้องบอกว่า พรรคก้าวไกล ตัวบุคคลอาจจะแข่งพรรคอื่นลำบาก แต่หากกระแสพรรคก็ไม่เป็นรองใคร

สุดท้ายคือพรรคไทยสร้างไทยของ “สุดารัตน์ เกยุราพันธ์” ที่คราวนี้แยกตัวออกมาจากเพื่อไทย ต้องบอกว่า ที่ผ่านมาฐานเสียงของพรรคนี้อยู่ที่ กทม.​ฝั่งตะวันออก จึงประมาทไม่ได้ โดยคราวนี้ส่ง สุธา ชันแสง  อดีต ส.ส.กทม. ของพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ซึ่ง “สุธา” บอกได้ว่ารู้จัก กทม. เป๋นอย่างดีเพราะเป็นนักการเมืองที่ไต่เต้ามาจากท้องถิ่น อย่าง ส.ก. มาก่อน เรื่องพื้นที่ไม่เป็นรองใครแน่ๆ

งานนี้ต้องดูว่าที่สุดแล้ว กทม. จะมีพรรคใดที่สามารแย่งที่นั่งมาได้บ้าง หรือที่สุดจะมีพรรคไดพรรคหนึ่งกวาดที่นั่งแบบถล่มทลาย เพราะคน กทม. เคยทำให้เห็นมาแล้วสมัยเลือกตั้งผู้ว่าฯ หากมีฉันทมติที่ชัดเจน คน กทม. ก็พร้อมจะเทคะแนนอย่างถล่มทลาย


คุณอาจสนใจ

Related News