เลือกตั้งและการเมือง
‘พิธา’ สวมชุดเดิมเข้าสภา ยันเข้าครั้งนี้ไม่ออกแล้ว ครั้งหน้าไปทำเนียบอย่างเดียว
25 ม.ค. 2567
45 views
‘พิธา’ สีหน้าชื่นมื่น สวมชุดเดิมเข้าสภาในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย ขอให้สมาธิ-ทรัพยากรกับปัจจุบันเพื่อประชาชน ลั่นเน้นสาระเป็นหลัก สีสันเป็นรอง ยันเข้าสภาครั้งนี้ไม่ออกแล้ว ครั้งหน้าจะไปทำเนียบอย่างเดียว
วันนี้ (25 ม.ค. 2567) เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 กรณีถือหุ้นไอทีวี ก่อนจะมีคำวินิจฉัยไม่พ้นสภาพ สส.เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.2567) ซึ่งนายพิธาใส่เนคไทเส้นเดิมที่ใส่เมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่ เข้ามาด้วยสีหน้าชื่นมื่น โบกไม้โบกมือทักทายสื่อมวลชน โดยทันทีที่เดินทางมาถึง ได้มีกลุ่มแฟนคลับ สส.พรรคก้าวไกลประมาณ 10 คน มารอด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่นายพิธาจะเข้ามาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายพิธา กล่าวถึงความรู้สึกของก้าวแรกในสภาฯ ว่า เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 เป็น 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศอย่างนี้ ส่วนตั้งใจใส่เนคไทมาเป็นลูกเล่นใช่หรือไม่นั้น ไม่ใช่กิมมิค เมื่อเช้ารีบไปรายการ จึงเอาเนคไทเส้นที่มองซ้ายมองขวา และจำได้ว่าตอนที่เราชูกำปั้นเราใส่เนคไทเส้นนี้ เลยนึกสนุกขึ้นมา
“คงไม่ใช่กิมมิคอะไรพิเศษ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ออกไปด้วยแบบไหนก็กลับมาแบบนั้น คิดว่า เป็นดีทัวร์ เป็นการอ้อม แต่เป้าหมายในการเดินทางของเรายังต้องทำต่อ ถึงแม้ว่าจะหายไป 6 เดือนก็ตาม” นายพิธากล่าว
เมื่อถามว่าเสียดายเวลา 6 เดือนที่หายไปหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า เสียดายที่ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งคงไม่มีใครบอกได้ ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วดีขึ้น จะกลายเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่เราบริหารจัดการเวลาได้ ใช้เวลา 6 เดือนในการพบปะพี่น้องประชาชน ทำงานกับเพื่อน สส.ที่อยู่ข้างหลังในการลงพื้นที่ตอนถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการประชุมกับผู้นำท้องถิ่น มาอภิปรายในวันที่ 26 ม.ค.ที่จะถึงนี้ เรื่องปัญหาขยะล้นเมือง และการจัดการขยะ ใน จ.สมุทรปราการ และ จ.ภูเก็ต ในญัติติของพรรคภูมิใจไทย เพราะฉะนั้นไม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
เมื่อถามว่า ภารกิจแรกในการกลับมาเป็น สส.คืออะไร นายพิธา กล่าวว่า คุยกับเพื่อน สส. ทักทายกันให้หายคิดถึง อาจจะแวะไปพูดคุยกับนักศึกษาที่มาสภาในวันนี้ รอจังหวะที่ไม่รบกวน สส.ที่อภิปรายอยู่เดินเข้าห้องใหญ่ และเตรียมตัวอภิปราย แถลงแผนงานของพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ ว่าเป้าหมายและการทำงานในเชิงปฏิบัติของพรรคเราในปีนี้คืออะไร ประชาชน และสมาชิกจะได้มีส่วนร่วมในการทำงาน
ส่วนจะดำเนินคดีกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นผู้ร้องคดีข้างต้นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ตอนนี้จะใส่ใจกับปัจจุบัน ใช้สมาธิ ทรัพยากรเวลา กับการทำงานในปัจจุบัน และอนาคตที่จะถึง ตามแผนการดำเนินงานที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้
เมื่อถามว่าจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า คำตอบนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ คือการประชุมวิสามัญของพรรคช่วงเดือน เม.ย. 2567 ในส่วนที่สอง ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง นายชัยธวัชก็ทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก็แล้วแต่สมาชิกพรรค เขาและนายชัยธวัช ไม่มีใครยึดติดในตำแหน่ง ส่วนจะเลื่อนประชุมวิสามัญของพรรคหรือไม่นั้น ไม่มีเหตุจำเป็นอะไร เดือน เม.ย.เหมาะสมที่กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลทำงานครบ 4 ปีตามวาระ ก็จะต้องมีการเปลี่ยน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีของเขา
เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีนโยบายแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล มีความกังวลบ้างหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เหมือนตอนคดีความรู้สึกเหมือนตอนคดีไอทีวี เราแยกแยะได้ว่าอะไรควบคุมได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนที่เราควบคุมได้เราก็ได้ทำเต็มที่
นายพิธา กล่าวถึงความคาดหวังที่ให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถามสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อหากจะคาดหวังกับใครก็จะต้องเริ่มทำที่ตัวเราด้วย ซึ่งหากวันใดวันนึงที่เราเข้าเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องกลับเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตัวเองจึงหวังว่าถ้าเป็นมาตรฐานที่วางไว้ให้กับตัวเองก็เป็นบรรทัดฐานที่คาดหวังจากคนอื่นได้
นายพิธา กล่าวย้ำว่าการกลับมาทำงานในรัฐสภาครั้งนี้จะเน้นเรื่องสาระเป็นหลัก สีสันเป็นรอง หมดเวลา ทำงานการเมืองวาทะกรรมฉาบฉวย แต่จะต้องทำให้สาระที่ประชาชนเข้าใจได้ซึ่งเป็นศิลปะของสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เช่น เรื่อง AI ทำให้ประชาชนเดินดินกินข้าวแกงได้เข้าใจ
นายพิธายังตอบคำถามภายหลังสัมภาษณ์ด้วย โดยผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าสภาครั้งนี้แล้ว ไม่มีออกใช่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า “รอไปทำเนียบอย่างเดียว”