เลือกตั้งและการเมือง

‘เศรษฐา’ ชวนเอกชนบริจาคทุนการศึกษา อวย ‘แสนสิริ’ บริจาคให้ราชบุรี 100 ล้าน 3 ปีซ้อน

โดย chutikan_o

7 ธ.ค. 2566

143 views

‘เศรษฐา’ ชวนเอกชนขนาดใหญ่บริจาคทุนการศึกษา อวย ‘แสนสิริ’ บริจาคให้ราชบุรี 100 ล้าน 3 ปีซ้อน ไม่มีเด็กหลุดระบบการศึกษา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดโอกาสให้นักศึกษาในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง หรือ วบส. ได้สอบถามหลังการกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน โดยมีคำถามว่าก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักธุรกิจแนวหน้าของประเทศไทยมีเรื่องอัดอั้นตันใจอะไรที่ซีเรียสมากที่สุดและคิดว่าถ้ามีโอกาสขับเคลื่อนจะทำอะไรเป็นสิ่งในฐานะนายกรัฐมนตรี และท่านได้นำประสบการณ์หรือแนวทางการบริหารงานในเชิงธุรกิจมาใช้ขับเคลื่อนประเทศอย่างไร ปรับเปลี่ยนแนวทางอย่างไรเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในขณะนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ทำให้อัดอั้นตันใจ คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำ เพราะปฏิเสธไม่ได้ เขาก็มีเยอะและบางครั้งก็ใช้จ่ายเยอะจนกระทั่งละอายใจ อย่างเช่น การมีนาฬิกาหลายเรือน จนไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าอยากมีอีก แต่คิดแล้วก็ทุเรศตัวเอง เพราะบางคนเขาไม่มี และพูดแบบนี้ไม่ใช่ตัวเองดูดี มันมีความขัดแย้งในตัวเอง

“นิสัยส่วนตัวของผมเวลาไปทานข้าวที่ไหนไม่ชอบคำว่าโต๊ะวีไอพี ไม่ชอบแบ่งอาหารสำรับไม่ชอบแบ่งไวน์สองเกรด ผมไม่ชอบ จึงมีความไม่สบายใจเวลาลงพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยหรือทำเนียบฯ เวลาไปไหนก็ยังมีอยู่ และจะบอกทีมงานเสมอว่าผมกินข้าวสำหรับเดียวกับนักข่าวและเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าให้ผมกินพิเศษผมไม่เอา เรื่องของความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องที่พยายามผลักดันมาโดยตลอด แต่ยังไม่สำเร็จ เป็นเป็นสารตั้งต้นที่ทำให้อยากเข้ามาการเมืองตรงนี้” นายเศรษฐากล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการศึกษาก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งในวงต่างๆ ที่ไปพูดคุยบางคนก็ด้อยค่าในการศึกษา แต่เชื่อว่าทุกคนเริ่มได้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโรงเรียนสาธิต อัสสัมชัญหรืออินเตอร์เนชั่นแนล หลายคนบอกตลอดว่าการศึกษาไทยห่วย หลักสูตรไม่ดี ครูไทยสอนไม่ได้เรื่อง เขาก็พูดเรื่องนี้ตลอดเวลา ในวงเหล้าก็พูดคุยกันตลอด แต่ไม่มีใครลุกขึ้นมาทำ ลูกผมก็ไปเรียนเมืองนอกจบการศึกษาที่ดี ค่าเล่าเรียนปีละหลายล้านบาท หลายคนก็คงรู้สึกเช่นนั้นเพราะพวกท่านมีทางเลือกตลอด แต่มีคนอีกกว่าล้านคนที่หลุดออกจากวงการการศึกษาหลังจากโควิด เพราะพ่อแม่ถูกไล่ออกและไม่สามารถที่จะให้ลูกไปเรียนได้



“ผมคิดตลอดเวลาว่าทำอย่างไรจะให้คนเหล่านี้กลับเข้าสู่วงการการศึกษาได้ ผมอยู่ในภาคเอกชนก็บริจาคเงิน 100 ล้านบาท 3 ปีให้กับจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดไซส์เล็ก และบริษัทแสนสิริไม่มีโครงการและไม่ได้เป็นจังหวัด พรรคเพื่อไทยมี สส. เดี๋ยวจะหาว่าทำเพื่อซื้อเสียง เพื่อให้ไปทำงาน จังหวัดราชบุรีจะไม่มีเด็กแม้แต่หนึ่งคนหลุดออกนอกระบบการศึกษา ขอให้จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และต้องการให้บริษัทใหญ่ๆ ได้มีส่วนสนับสนุนในระบบการศึกษา” นายเศรษฐากล่าว

ส่วนกลยุทธ์หลักของประเทศไทยที่จะใช้ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ นายเศรษฐา กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของประเทศไทย คือความเป็นกลาง ขนมจีนและสหรัฐ รัฐบาลนี้ไม่สามารถเครมเครดิตได้คนเดียวซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีวิธีฑูตเป็นกลางมาโดยตลอด และยังต้องยกระดับการรักษาพยาบาล รวมไปถึงการพัฒนาพลังงานสีเขียว ขณะเดียวกันเรื่องความสงบภายในประเทศก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับหลายประเทศ ไทยยังคงมีความเป็นต่อ และการเป็นเซลแมนสำหรับเขาถือเป็นเรื่องที่ง่าย เพราะของที่ไปขายเป็นของดี เพียงแต่ไม่ไปขายเท่านั้นเอง และคาดการณ์ว่าภายใน 5-7 ปีจะเห็นผลอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าการกล่าวปาฐกถาในครั้งนี้ถือเป็นการพูดบนเวทีที่นานที่สุดตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News