เลือกตั้งและการเมือง
'เดชอิศม์' ยันต่อหน้าพระแม่ธรณี โหวตหนุน 'เศรษฐา' เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ไร้เงื่อนไข-ผลประโยชน์
29 ส.ค. 2566
74 views
วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ภายหลังรับมอบดอกไม้จากตัวแทนพรรค 4 ภาค เพื่อให้กำลังใจกรณีที่ มีการยื่นให้ตรวจสอบ 16 สส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติ เห็นชอบ ให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นการสวนต่อมติพรรค ว่า ในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการพูดคุยกันถึงแนวทางลงมติซึ่งมี 3 แนวทางคือไม่เห็นชอบ งดออกเสียง และเห็นชอบ
ซึ่งนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบไม่ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร แต่ในที่ประชุมพรรคไม่ได้มีการลงมติ และเพิ่งทราบภายหลังว่าการเดินออกจากห้องประชุมของนายชวน ติดภารกิจไปงานศพ และก่อนหน้านี้การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ก็ติดเรื่องมาตรา112 ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็มีกระแสจะล้มอีก แต่เห็นว่าการไม่มีรัฐบาล จึงตกลงกันว่า เมื่อ3 เสาหลักพรรค โหวตงดออกเสียงและไม่เห็นชอบ ซึ่งก็ลังเลว่าเป็นมติพรรคหรือไม่ จึงตัดสินใจโหวตเห็นชอบ พร้อมเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์แปลก ตรงที่เสียงส่วนน้อยจะดังกว่าเสียงส่วนมาก และอดีตสส. หรือสส. สอบตกจะมีเสียงดังกว่า สส. สอบได้ คนที่อยู่นอกพรรค เสียงดังกว่าคนในพรรค เราจึงมาโหวตทีหลังโดยไม่ได้ตรวจสอบว่าคะแนนผ่านหรือไม่ผ่าน แต่เหตุผลที่ลงมติเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้าได้
ส่วนที่พูดว่าไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายเขาหรือ ยืนยัน เป็นครั้งที่ร้อย ว่า ตัว สส. ไม่มีอำนาจในการเข้าร่วมรัฐบาลกรรมการบริหารพรรค ตัวบุคคลก็ไม่มีอำนาจหลักของประชาธิปัตย์คือต้องเทียบเชิญมา ประชุมร่วมกัน แล้วลงมติ พร้อมยกตัวอย่างการเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคมีการถกเถียงกันมาก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสาธิต ปิตุเตชะได้คัดค้าน ไม่อยากร่วมรัฐบาล หรือส่งเสริมพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดเผด็จการ ถกเถียงกัน 1 วัน 1 คืน สุดท้ายจบตรงลงมติ 61 คนขอให้ร่วมรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าไปได้ ส่วนอีก 16 คนเห็นว่ามีคนร่วม แต่ผลสุดท้ายคุณสาธิต ก็มารับตำแหน่งในรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชวนรับตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนที่ตนบอกว่าใครไม่โหวต ใครรับไม่ได้ แล้วออกไปหมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่ได้ตั้งใจมาพูดในวันนี้ เพื่อขับไล่ใคร จึงขออย่านำเรื่องอื่น มาโยงใยเพื่อทำร้ายให้คนเกลียดชัง แล้วคนที่พูดดูดี
นายเดชอิศม์ ย้ำว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านร้อยเปอร์เซ็นต์ และขอให้ดูบทบาทฝ่ายค้านว่าคั้นจริงอย่างไร พร้อมขออย่ามองคนอื่นต่ำตัวเองสูง อยากฝากถึงคนประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมองมาที่พรรค ทั้ง 360 องศาโดยเฉพาะเรื่องที่ได้จำนวนส.ส. ลดลง นโยบายโดนใจประชาชน ตรงต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ เต้องดูผลการเลือกตั้งในจังหวัดของตัวเอง เขตตัวเอง ต้องดูตัวเองให้ชัด อย่าฟังลิ่วล้อมากเกินไป ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ใช้สติและคิด และกาฝากในประชาธิปัตย์ก็มี เป็นใหญ่เป็นโตเพราะเลียแข้งเลียขาผู่ใหญ่ พร้อมเห็นว่าประชาธิปัตย์ต้องกลับมา เริ่มคิดและนับหนึ่งใหม่ อย่าหลงงมงายกับกาฝากบางคน อาจจะโดนติดคุกที่มีเรื่องมีคดี เราอย่าคิด ว่าเป็นพรรคอื่น แล้วเราไม่ชอบจะเป็นคนชั่วหมด เป็นประชาธิปัตย์และต้องคนดีทั้งหมด เพราะ ประชาธิปัตย์มีทั้งเคยติดคุก ความจริงเท่านั้นที่จะพาให้ประชาธิปัตย์ เดินไปข้างหนิาถ้าไม่ยอมรับความเป็นจริงยากมากที่ชนะการเลือกตั้งสมัยหน้า
ทั้งนี้ นายเดชอิศม์ ขอยืนยันต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผมว่า เราไม่มีเงื่อนไขและผลประโยชน์ใดๆ เลย หลังจากโหวตแล้วเราไม่ได้ไปพบใครเลย นั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเราบอกแล้วว่า การร่วมรัฐบาลมี 3 ข้อ ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน หากอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ต้องได้รับเทียบเชิญและต้องประชุมร่วมกันแล้วมีมติออกมา
ส่วนที่พูดว่าไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายหรือ ขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า ตัวสส. ไม่มีอำนาจในการเข้าร่วมรัฐบาล กรรมการบริหารพรรค ตัวบุคคลก็ไม่มีอำนาจ โดยหลักของประชาธิปัตย์ คือ ต้องเทียบเชิญมา ประชุมร่วมกันแล้วลงมติ
พร้อมยืนยัน นอกจากพวกตนไม่ทรยศประชาชนแล้ว ต้องสร้างความเจริญให้กับประชาชนด้วย ตนพูดจาแต่คำหวาน จนประชาชนเบื่อๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่ทำอย่างแน่นอน
วันนี้เราประกาศชัดเจนว่า เป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมากังวลเราเลย ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ในการโหวตเลย ข่าวที่ออกว่า ตนไปเจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั้น ไม่ได้เจอกับนายภูมิธรรมเลย ตั้งแต่เป็น สส.มาจนถึงวันนี้
ขณะเดียวกัน มีสมาชิกพรรคยื่นให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบลงโทษ 16 สส.ที่โหวตนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าขัดต่อ มติพรรค นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เรายอมรับได้หมดเพราะตนมาจากประชาชน คือ 1.หากประชาชนบอกให้ตนอยู่พรรคนี้ ตนจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขให้พรรคนี้ดีขึ้น 2.หากเห็นว่าตนไม่ควรอยู่พรรคนี้ก็พร้อมที่จะไป แต่ 3. ถ้าไปแล้ว ยังไม่พอให้ตนเลิกเล่นการเมืองก็ได้ แต่ต้องถามประชาชนเพราะเขามีความคาดหวังในตัวตนและพรรคประชาธิปัตย์ ข้อหนึ่งข้อสองทำได้ แต่ข้อ 3 ทำไม่ได้แน่เพราะต้องถามประชาชนก่อน
ส่วนกังวลหรือไม่ หากพรรคจะมีมติออกมาให้ขับ16สส. นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่กังวลเพราะหลักของประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับมติ