‘เสรีพิศุทธ์’ เผยเหตุไม่ลงมติพิจารณาเสนอ ‘พิธา’ ซ้ำ เพราะผิด กม. จ่อส่งศาล รธน.ตีความ

‘เสรีพิศุทธ์’ ให้สัมภาษณ์ช่อง 3 เผยเหตุไม่ลงมติญัตติ พิจารณาเสนอชื่อ ‘พิธา’ ซ้ำ เพราะผิดกฎหมาย เตรียมส่งศาล รธน. ตีความ ขอก้าวไกลถอย ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายค้าน เปิดทางเพื่อไทยรวมเสียงตั้งรัฐบาล สับแหลกด้อมส้ม ทำ ‘พิธา’ ไปไม่ถึงฝั่ง

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ไม่ลงมติพิจารณาการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นญัตติหรือไม่ ว่า ก็เพราะผิดรัฐธรรมนูญ และวันนี้กำลังเขียนถึงศาลรัฐธรรมนูญผ่านไปยังรัฐสภา ให้วินิจฉัยเรื่องนี้ว่าความถูกผิดเป็นอย่างไร เป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนตัวมองการทำงานของประธานรัฐสภาได้ดีแล้ว แต่เมื่ออภิปรายกันเสร็จ ลงไปกันอย่างไรก็ต้องวางไปตามนั้นท่านจะไปฝืนไม่ได้

ส่วน 8 พรรคร่วม ยืนยันว่า ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องปรับตัวด้วย แม้มติเมื่อวานจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เบื้องต้นก็ต้องปฏิบัติตามไปก่อน ดังนั้นต้องกลับมาดูข้อตกลงที่เคยว่าไว้หากนายพิธาไม่ผ่าน ก็ต้องกลับมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัด และหากนำก้าวไกลไปด้วย แต่วุฒิสมาชิกและพรรคอีกฝั่ง ก็เสนอชัดเจนว่าหากมีก้าวไกล ก็จะไม่ลงมติ และหากยังเป็นอย่างนี้ เพื่อไทยถือเป็นลูกผู้ชายรักษาสัจจะวาจาแต่เสนอเข้ามาแล้วตกไหม ซึ่งญัตติบอกชัดว่าเสนอซ้ำไม่ได้ ดังนั้นจึงฝากเพื่อไทยและก้าวไกลช่วยกันพิจารณา ทางใดที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จได้ ถ้ามัวไปกอดกันอยู่ แล้วตกกันไปหมด ต่อไปอีกฟากหนึ่งเขาก็ไปเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้นต้องคิดให้รอบคอบ ขออนุญาตเสนอแนะว่า ตอนนี้ต้องมีผู้เสียสละ

เมื่อถามย้ำว่าต้องเป็นนายพิธาหรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ พรรคก้าวไกลต้องถอยออกมา และไม่จำเป็นถอยออกไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ต้องให้เพื่อไทยมีอิสระในการจัดตั้งรัฐบาล ให้มีผู้สนับสนุนใหม่รวมเสียงให้ได้ ถอยมา แล้วก็คอยหนุนเขา ไม่ใช่หมายความว่าถอยมาแล้วให้ทิ้งไปเลย 151 เสียงก็ต้องให้เขาไปให้หมด อะไรทำนองนั้นเพื่อไทยเขาจะได้จัดได้ ก็จะได้เป็นรัฐบาลเอาชนะอีกฝากได้ สามารถจัดคนร่วมรัฐบาลได้ ไม่ใช่อุปสรรค แต่ถ้าก้าวไกลบอกไม่ได้ ต้องเอาผมไปด้วย สัญญาไว้อย่างนั้น เท่ากับตายหมู่

ส่วนเกมนี้มองว่าไม่จำเป็นต้องข้ามขั้วก็ได้ แต่ให้ก้าวไกล ถอยมาหน่อย และเวลาเพื่อไทยจัดงวดนี้ก็ไม่ต้องมีก้าวไกล จะไปเอาพรรคไหนมาก็แล้วแต่เพื่อให้ผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้

สุดท้ายก้าวไกลต้องไปเป็นฝ่ายค้านเลยหรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็น จะเอา สส.ทั้ง 500 คนทั้งหมดเป็นรัฐบาลหมดก็ได้ ไม่มีกฎหมายที่ไหนห้าม

วันนี้ทัวร์ลงเรื่องด้อมส้ม ที่พูดว่านายพิธาเสียหายเพราะด้อมส้มนั้น เพราะตัดสินใจตามด้อมส้ม ทำให้ไม่มีพวก ตอนแรกเลยรวมเสียงได้ 8 พรรค ไม่พอ การที่ไปหาพรรคชาติพัฒนากล้าก็ถูกแล้ว แต่พอด้อมส้มท้วง ถอยแล้ว ก็เลยตีตัวอยู่ในกรอบแค่นี้

“ที่ไปไม่ได้เพราะไอ้ด้อมส้มทั้งหลาย ถามว่าไปฟังมันทำไม พวกนี้มีอะไร เด็กเมื่อวานซืน ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เคยทำอะไรให้ประเทศชาติบ้านเมืองบ้าง เขาทำให้บ้านเมืองมา 50 ปีแล้ว เมื่อ 50 ปีที่แล้วที่ไปเสี่ยงชีวิตเสี่ยงตาย ปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไอ้ด้อมทั้งหลายยังเป็นวุ้นอยู่เลย ถามว่า ณ วันนี้ คุณทำอะไรให้บ้านเมืองบ้างเล่า เขาทำมาทั้งชีวิตแล้ว พวกคุณทำอะไรได้แต่เย้วๆ จะเอาตามใจพวกคุณเหรอ” พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นฝากก้าวไกล ให้เป็นตัวเป็นตน อย่าไปติดยึดอะไรมาก การที่ได้รับเสียงมา 151 เสียง แต่การที่ต้องมาอยู่ใต้คำสั่งความเห็นของด้อมส้ม มันไม่ถูกมันต้อง เป็นตัวตนของคุณเอง คุณจะบริหารประเทศชาติบ้านเมืองแต่ใครมาสะกิดก็ไม่เอาแล้ว บ้านเมืองจะไปไหนเล่า

ทั้งนี้อยากฝากความเห็นอะไรถึงด้อมส้มไม่ให้กระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า บรรดาด้อมส้มทั้งหลายที่เลือกเขามาแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เขาทำหน้าที่ อย่าไปชี้นำเพื่อที่ให้เขามาทำตามความต้องการของตัวเอง ให้เขาเป็นอิสระในการบริหารงาน เขามีความรู้มีความคิด คุณก็แค่คอยสนับสนุนเป็นกองเชียร์เขาก็พอ อย่าไปบีบเขาให้เดินไปทางโน้นทางนี้ และฝากพรรคก้าวไกล อย่าไปสนับสนุนม็อบที่มาทั้งหลาย อย่าไปให้กำลังใจ เห็นม็อบมาที่สภา ก็ออกไป อ้างว่าให้กำลังใจกัน แต่นี้เท่ากับสนับสนุนด้อมส้ม พวกนี้อยู่ไม่ให้ใครเขาวิพากษ์วิจารณ์