‘สาธิต’ ปชป. ซัด ‘พิธา’ ปราศรัยใส่ร้าย ส.ส.ระยอง เคลมผลงานแก้โควิด-น้ำมันรั่ว ทั้งที่ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร

‘สาธิต’ ปชป. ซัด ‘พิธา’ ปราศรัยเดือดระยอง ใส่ร้าย ส.ส.กระทบความนิยม ซ้ำเคลมผลงานแก้โควิด-น้ำมันรั่ว ลั่นหากจะอ้างต้องเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ ขอทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่ให้ร้ายป้ายสีกัน

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.ระยอง แถลงชี้แจงการปราศรัยพาดพิงของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จากเวทีระยอง หาดแหลมเจริญ วานนี้ (7 พ.ค.) ว่า ตนเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต และทีมมีทั้งหมด 5 เขต เมื่อวานนี้ทีมนายพิธา พรรคก้าวไกลลงพื้นที่จังหวัดระยอง และเวลาประมาณ 10.00 น. มีการปราศรัยที่เข้าข่ายเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจงใจให้เข้าใจผิดในความนิยมของผู้สมัครและ ส.ส.ในจังหวัดระยอง เป็นการปราศรัยพูดถึงการทำงานคล้ายๆ ตำหนิว่าไม่ได้ทำหน้าที่ในช่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 3 สถานการณ์ คือ สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในบ่อนการพนันที่ระยอง สถานการณ์ที่ 2 คือทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และการติดตามสถานการณ์น้ำมันรั่วในจังหวัดระยอง ขณะเดียวกันได้เปิดคลิปปราศรัยของนายพิธาประกอบการชี้แจ้ง

นายสาธิต กล่าวว่า ยืนยันทำหน้าที่ในทั้ง 3 สถานการณ์มาโดยตลอด จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ พร้อมโชว์ไทม์ไลน์รวมไปถึงหลักฐานการทำงานอย่างการทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงการร่วมมือกับภาคประชาชนเรียกร้องให้ปิดบ่อน จนนำไปสู่การโยกย้ายผู้การภาค การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และการสร้างความเชื่อมั่นให้จังหวัดระยอง

ส่วนที่นายพิธาบอกว่าเป็นผลงานของ ส.ส.ก้าวไกล นั้น นายสาธิต มองว่า หากใครจะอวดอ้าง คนนั้นควรเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ ชื่อสาธิต เป็นคนที่นั้นที่เป็น ส.ส. และฝ่ายบริหาร ที่ติดตามการทำงานรวมไปถึงเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว จนเหลือเพียง 3% ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ขอชื่นชมบทบาทการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติในสภาฯ ของพรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่ได้ดี แต่หากจะเอามาเคลมเป็นผลงานคงไม่ได้ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ทำหน้าที่ร่วมกับประชาชน

ขณะเดียวกันนายสาธิต ยังเปิดคลิปผู้สมัคร ส.ส.ระยองเขต 2 ที่จับมือกันทำสัญญาว่าจะทำการเมืองสร้างสรรค์ แข่งขันกันด้วยนโยบาย ไม่ให้ร้ายป้ายสีกัน ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลในพื้นที่ก็ยึดถือแนวทางนี้มาโดยตลอด แต่กลับถูกพังทลายจากการปราศรัยของหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นกระแสที่มีการสนับสนุนมาก หรือเพราะสนุกปากเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้นายสาธิตยังขอบคุณนายพิธาและนายวิโรจน์ ที่ทำให้ประชาชนได้ฉุกคิดเห็นภาพการทำงานของตัวเองอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน นายสาธิตยังฝากข้อความไปยังนายพิธาว่า การเป็นคนเก่งไม่จำเป็นต้องด้อยค่าคนอื่น การได้รับความนิยมไม่จำเป็นต้องว่าคนอื่น ขอให้ร่วมกันทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ พร้อมย้ำว่าขอให้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ และมีความเป็นลูกผู้ชาย

ขณะเดียวกันในช่วงประมาณเวลา 14.00-15.00 น.ในวันนี้ (8 พ.ค. 66) นายสาธิตจะนำข้อมูลทั้งหมดไป ลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองระยอง ส่วนถึงขั้นจะร้อง กกต. ที่เข้าข่ายความผิดจงใจใส่ร้าย อาจนำไปสู่การยุบพรรค มาตรา 73(5) หรือไม่ ขอฝ่ายกฎหมายรวบรวบข้อมูลประกอบก่อน จึงขอสงวนสิทธิ์ รอดูท่าทีของพรรคก้าวไกลก่อน

ส่วนที่นายพิธาปราศรัยว่าคนระยองเลือกกันที่ตระกูล นายสาธิต กล่าวว่า หากนายพิธาอวดอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย นายพิธากำลังเข้าใจผิด เพราะหากตั้งคนตระกูลเดียวกันเป็นตำแหน่งต่างๆ ในคณะทำงาน สามารถว่าตนได้ แต่ส่งคนนามสกุลเดียวกันลงเลือกตั้ง ผมตั้งเขาไม่ได้ แค่คัดสรรเขามาเป็นผู้สมัคร คนที่จะเลือกเขาคือประชาชน ผมกลับเสี่ยงด้วยซ้ำไปที่คัดเลือกแบบนี้ สุดท้ายมันคือการเลือกตั้งที่ประชาชนจะตัดสิน พร้อมย้ำว่ามีหลายเรื่องที่นายพิธาไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย สังคมกำลังตั้งคำถามถึงพฤติกรรมความไม่น่าเชื่อถือของหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ทำร้ายร่างกายเพศตรงข้าม กรณีกลับมาไม่ทันงานศพหรือไม่ และความไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ม.112 และวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งกรณีว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง