เลือกตั้งและการเมือง

'อมรัตน์' ซัดเดือด เหลือ 'ก้าวไกล' เป็นประชาธิปไตยแค่พรรคเดียว ยันไม่เล่นการเมืองตบจูบ

โดย weerawit_c

19 มี.ค. 2566

656 views

วานนี้ (18 มี.ค.) พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค / นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค / นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรค / นายแพทย์วาโย อ้ศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ / และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดเวทีปราศรัยแนะนำนโยบาย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 5 จังหวัดในหัวข้อ “ปักธงส้มทั่วไทย ต้องก้าวไกล ตรงไปตรงมา” ที่ศาลา 60 พรรษา ริมน้ำ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ช่วงหนึ่ง นางอมรัตน์ ขึ้นปราศรัย กล่าวย้อนไปถึงช่วงอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในสภาฯ ว่า ตนเคยทวงถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปแล้วว่า พลเอกประยุทธ์นิรโทษกรรมตัวเองได้ แต่ทำไมนิรโทษกรรมให้เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติไม่ได้ พูดจาหมาๆแบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้ เกิดจากโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลไม่รู้กี่รัฐบาล พรรคก้าวไกลต้องการแก้ไขโครงสร้างและเป็นพรรคเดียวที่เป็นกองหน้าประชาธิปไตยตัวจริงเสียงจริงในสภาเพียงพรรคเดียว

“พรรคก้าวไกลต้องการมาแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนถาวรเปลี่ยนที่โครงสร้าง และเป็นพรรคเดียวที่เป็นกองหน้าประชาธิปไตยตัวจริง เสียงจริง เหลืออยู่ในสภาเพียงพรรคเดียวแล้ว พรรคที่ประกาศว่าจะเเลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลมาถึง 2 รอบแล้ว แต่ไม่เคยทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นปี่กลองการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง ภายใน 60 วันข้างหน้าแเราจะได้เข้าคูหาเข้าไปเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ ดิฉันถามว่าท่านอยากเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือท่านพอใจที่จะอยู่ในนรกกับ 9 ปีที่ผ่านมา ถ้าท่านรู้สึกว่ามันดีอยู่แล้วไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง มีพรรคให้เลือกเยอะแยะไปหมดเลย” นางอมรัตน์กล่าว

นางอมรัตน์ ระบุต่อว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลงให้ดีกว่านี้ ให้ค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ให้มีการปฏิรูปกองทัพ ให้มีการเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ มีเหลือพรรคเดียวหากต้องการเปลี่ยนประเทศไทย คือพรรคก้าวไกลเท่านั้น การเมืองใหม่แบบพรรคก้าวไกล บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการเมืองของคนรุ่นใหม่เท่านั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น การเมืองใหม่ของพรรคก้าวไกลคือบริบทของความคิดใหม่ ไม่เกี่ยวกับวัย เพศ คนที่มีความคิดใหม่ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกคือชาวอนาคตใหม่ คือชาวพรรคก้าวไกล เหมือนกันทั้งนั้น

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่เราจะก้าวพ้นศตวรรษที่สูญหายไปได้ คือการเอากองทัพออกไปจากการเมือง เอาทหารออกไปจากการเมือง เอามืออาชีพเข้ามาทำงานแทนพวกเรา ตนคิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนการปกครองมาเข้าสู่ปีที่ 91 แล้ว ถ้าเป็นคนก็แก่หงำเหงือกแล้ว แต่ประชาธิปไตยไทยไปไม่ถึงไหน เพราะการรัฐประหารที่มากถึง 13 ครั้ง เฉลี่ยแล้ว 7 ปีต่อ 1 ครั้ง เราต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทุก 5 ปี แล้วมันจะไปได้อย่างไร

“ต้องเอาทหารออกจากการเมือง อย่ามาเสือกค่ะ เราซื้อปืน ซื้ออาวุธ ซื้อเรือดำน้ำที่ยังไม่มีเครื่องยนต์ให้ ให้คุณไปยืนปกป้องประเทศจากอริราชศัตรู ไม่ใช่ให้มาสอดส่องหาศัตรูภายใน มองเพื่อนร่วมชาติ ที่เพียงแต่เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติสามัญมากในระบบประชาธิปไตย” นางอมรัตน์กล่าว

นางอมรัตน์ กล่าวว่า ทหารเข้ามาการเมืองผ่าน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่มีข่าวว่ามีบัญชีผีเต็มไปหมด ไปแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ใช้งบประมาณปีละหมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่า 3 กระทรวงเล็กๆรวมกัน และหนึ่งในกำลังพลก็คือเมียน้อยสมาขิกวุฒิสภา (ส.ว.)

นางอมรัตน์ กล่าวด้วยว่า 4 ปีที่ผ่านมา เรารู้สำนึกในบุญคุณของประชาชนที่เข้าคูหาเสียเวลาไปเลือกเรา เราทำในสิ่งที่ไม่มีพรรคการเมืองไหนๆ ทำมาก่อน ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร แต่พรรคการเมืองที่มีทั้งหมดในประเทศไทยมา แต่เขากลัว เขาไม่กล้า แต่ก็มีพรรคก้าวไกลเข้ามาทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยเปลี่ยนไปตลอดกาล พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่จะรื้อทิ้งระบอบปรสิตที่กัดกินประเทศนี้ สูบเลือดสูบเนื้อ ซึ่งก็คือพยาธิจะต้องหมดไป

นางอมรัตน์ ตั้งคำถามว่า โรงพยาบาลในจังหวัดกาญจนบุรี อยากมีโรงพยาบาลแบบศิริราช รามาธิบดีหรือไม่ พรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนเรือดำน้ำให้เป็นโรงพยาบาลเพื่อพี่น้องประชาชน

พรรคก้าวไกล แม้เป็นเพียงฝ่ายค้านก็ได้ยกระดับเกียรติภูมิ หลังจากการปรากฏตัวของพรรคก้าวไกลในสภา ทุกๆพรรค ต้องปรับตัวขนานใหญ่เพื่อแข่งขันกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายินดีให้แข่งขันการอภิปรายที่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ โดยพรรคก้าวไกล จะไม่ร่วมกับพรรคทหารจำแลง 2 พรรค ทั้งพรรคที่มีพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ

พรรคก้าวไกล มีความนิยมสูงสุดของประเทศ สิ่งที่ชีวัดได้คือยอดเงินบริจาคภาษีเข้าพรรคที่มาเป็นอันดับ 1 ถึง 3 ปีซ้อน

“มีใครที่จะมีสง่าราศี ลองไปดูหัวหน้าพรรคที่มีกัญชาเสรีจนลูกหลานเราต้องแย่กันไป แบบนั้นจะเลือกได้ไหมคะพี่น้อง แล้วมันจะเหลือใครอีก ที่เหลือก็พายเรือให้โจรนั่ง ตระบัดสัตย์ต่อประชาชน ตอนหาเสียงก็บอกว่าจะไม่ชูไม่ยกมือให้ผู้ชายคนนั้นเป็นนายกฯ แล้วก็หักหลังประชาชนแบบหน้าด้านๆ” นางอมรัตน์กล่าว

นางอมรัตน์ กล่าวว่า นายพิธาจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อันดับหนึ่งของโลก เราจะดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ดีกว่าคนที่บอกว่าไม่รู้ๆๆ

“การที่พรรคก้าวไกล ไม่ใช่เป็นคนหน้าอย่างหลังอย่าง ปากบอกแบบนี้ แต่กั๊กๆ ไม่รู้จะให้อิ๊งอิ๊งยังไง อิ๊งอิ๊งอะไรอย่างนี้ เอ๊ะ จะไปร่วมกับพรรคลุงป้อม แล้วจะเป็นร่วมกับพรรคลุงตู่ พรรคก้าวไกลไม่ทำอย่างนั้น และขอให้สัญญาไว้ตรงนี้ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่เล่นการเมืองแบบตบจูบค่ะ ต่อหน้าสื่อมวลชนตบกัน ลับหลังไปกินกาแฟ” นางอมรัตน์กล่าว

นางอมรัตน์ ระบุว่า จนถึงวันนี้บางพรรคการเมืองยังไม่สามารถให้ความเชื่อใจ มั่นใจว่าจะไม่ผสมพันธุ์กับสัตว์เลื้อยคลานได้ ฝากบอกพี่น้องคนเสื้อแดง ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะลงนาม ICC กับศาลอาญาโลก ทำสัญญาประชาคมโลก เอาฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชน 99 ศพในเหตุการณ์คนเสื้อแดงราชประสงค์ปี 2553 มาลงโทษ เพราะลอยนวลมานานแล้ว ซึ่งเมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีรัฐมนตรีชื่อนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ไม่กล้าเซ็น ทั้งที่อัยการระหว่างประเทศทำเรื่องแล้ว ขอเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนาม เพราะฉะนั้นวิญญาณของพี่น้องคนเสื้อแดง จึงไม่ได้รับความยุติธรรมมา 13 ปีแล้ว และอีกเพียง 7 ปีเท่านั้น คดีจะหมดอายุความ โดยวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภาฯ นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำคนเสื้อแดงได้มายื่นหนังสือต่อพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค

ซึ่งนางธิดาและญาติผู้เสียชีวิตนำรูปมาและจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง มีพรรคใหญ่ฝ่ายค้านพรรคหนึ่ง ทำให้ตนแทบน้ำตาจะร่วง เมื่อได้รับยื่นหนังสือ เขาเป็นพรรคที่คนเสื้อแดงยอมพลีชีวิตถวายหัวเพื่อปกป้อง แต่สิ่งที่ได้รับ หัวหน้าพรรคกลับบอกว่า จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตนรับหนังสือต่อ ข้อเรียกร้องทั้งหมดตรงกับนโยบายพรรคก้าวไกล ตนจึงรับปากอย่างจริงใจว่าข้อเรียกร้องทั้ง 8 ข้อ พรรคก้าวไกลได้ทำไปแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News