เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ ย้ำสัมพันธ์การค้า "จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน"

โดย paweena_c

3 พ.ย. 2565

47 views

นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ย้ำความสัมพันธ์ทางการค้า "จีน-ไทย" ใช่อื่นไกล เราเป็นพี่น้องกัน


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม ปาฐกถาพิเศษ เปิดงาน “Thailand – China Investment Forum” ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ จัดโดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นเวทีสนับสนุนความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน


โดยพลเอกประยุทธ์ บอกถึงความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันแห่งความสุขอีกวัน เพราะได้ทำงานเพื่ออนาคต โดยย้ำว่า ความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านนโยบายการเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของตัวเลขลงทุนจากต่างประเทศในปีนี้


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนที่มีความแน่นแฟ้น มีพลวัตทุกระดับ จีนถือเป็นคู่ค้าและคู่มิตรที่สำคัญของไทย และในปี 2565 นี้ ถือเป็นปีครบรอบหนึ่งทศวรรษของความเป็น “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ระหว่างกัน


โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลจีน เพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนสู่ทศวรรษหน้าในทุกมิติ อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังคำกล่าวที่ว่า “จีน – ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”


นอกจากนี้ ไทยได้สนับสนุนบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของรัฐบาลจีน ตามแผนริเริ่มการพัฒนาโลก (Global Development Initiative: GDI) ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย ที่มุ่งเน้นความเจริญรุ่งเรือง โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นำไปสู่การเติบโตที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุมในทุกมิติ


รัฐบาลไทยได้ส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งยกระดับความเชื่อมโยงทางด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เชื่อมโยงกับภูมิภาคและโลก รวมถึงการพัฒนา EEC เชื่อมโยงกับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุน การปรับปรุงร่างข้อเสนอยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อดึงดูดกิจการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพมาลงทุนในไทย


นอกจากนี้ ไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค รัฐบาลพร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นจุดยุทธศาสตร์การคมนาคมไร้รอยต่อ สอดคล้องกับการยกระดับการพัฒนา EEC เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta: YRD) ของจีน


แสดงให้เห็นความพร้อมของไทยในการรองรับการลงทุนจากจีน ในสาขาที่จีนมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและดิจิทัล ทั้งนี้ การเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานของการลงทุนระหว่างไทยกับจีนนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงการรถไฟจีน – ลาว กับระบบรางของไทย จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ การขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว


ทำให้เกิดประโยชน์นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ภูมิภาค ทั้งนี้ในการส่งเสริมให้นักลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดย 9 เดือนแรกของปีนี้ เป็นการลงทุนด้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้า กว่า 45,000 ล้านบาท


นอกจากนี้ ไทยและจีนยังมีความร่วมมืออื่น ๆ ทั้งในกรอบทวิภาคี กรอบอนุภูมิภาค อย่างแม่โขง – ล้านช้าง ACMECS GMS และระดับภูมิภาค อย่างอาเซียน – จีน การขยายความร่วมมือภายใต้ BRICS Plus ที่จีนริเริ่ม รวมถึงการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยในปีนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีนเป็นอย่างดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมกลางเดือนนี้ด้วยตนเอง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความเป็นหุ้นส่วนที่แนบแน่นของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง


นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต เสถียรภาพ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่มั่งคงและยั่งยืน ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ควบคู่ไปกับการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของโลก


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ที่ร่วมกันจัดงานในวันนี้ขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจในอนาคต และอวยพรให้งานในวันนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และ ขอบคุณ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ที่ตอบ รับ เข้าร่วมประชุมเอเปก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วย


นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ครบรอบ 10 ปี การสถาปนาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและจีน นายสี จิ้น ผิง ได้รับเรื่องเป็นเลขาธิการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งใหญ่ของจีนอีกครั้ง


อีกไม่นานเอเปกกำลังจะเกิดขึ้นกรุงเทพฯ จะได้รับการจับตามองจากทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง หวังว่าการเสวนาครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการอุ่นเครื่องเวทีเอเปก ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนกับนานาชาติมากขึ้น


ทั้งนี้ภายในงานยังจะนำเสนอผลการศึกษาวิจัยการลงทุนของนักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ที่เป็นการดำเนินการร่วมระหว่างศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูนนาน ด้วยความสนับสนุนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสถานเอกอัครราชทูตจีน


พร้อมกันนี้ยังมีเสวนา เช่นนายวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน  นายคณิศ แสงสุพรรณ  ที่ปรึกษาพิเศษด้านการพัฒนาการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกร่วมกับนักลงทุนจีน ชั้นนำ



คุณอาจสนใจ

Related News