เลือกตั้งและการเมือง

'ชวน' กล่าวเปิดงาน “ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต” ชี้! อย่าทำให้การเมืองเป็นธุรกิจ

โดย paweena_c

2 ก.ย. 2565

648 views

“ชวน” กล่าวเปิดงาน “ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต” เผย เป็นนักการเมืองมานาน รู้ด้วยตาตัวเอง บ้านเมืองเป็นอย่างไร ชี้ อย่าทำให้การเมืองเป็นธุรกิจ แนะ ผู้กู้กยศ. คืนเงิน เพื่อรุ่นต่อไป


2 ก.ย. 2565 เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษหัวข้อ ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง โดยได้รับการเลือกตั้งต่อเนื่องมาถึง 16 สมัย จึงได้เห็นบ้านเมืองด้วยตาตนเองและประจักษ์ว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร หรือการเมืองเป็นเช่นไร มิใช่การรู้จากคำบอกเล่าของผู้อื่น


โดยเมื่อปี 2512 ตนได้รับการเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งสมัยนั้นเท่าที่ทราบยังไม่มีการใช้เงินเพื่อซื้อเสียงเลือกตั้ง แต่พบว่ามีผู้ลงสมัครเลือกตั้งบางคน บางจังหวัดแจกอาหารข้าวของให้ประชาชน ในฐานะที่ตนอยู่บนเส้นทางการเมืองมานานกว่า 50 ปี เคยดำรงตำแหน่งทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ตนจึงเป็นห่วงบ้านเมืองว่านักการเมืองทำการเมืองแบบไม่สุจริต


โดยเฉพาะในลักษณะของ ธุรกิจการเมือง คือการใช้เงินปูทางขึ้นมาสู้อำนาจ ซึ่งถือเป็นการทุจริตอย่างหนึ่ง และการทุจริตในลักษณะเช่นนี้ ย่อมเอื้อต่อการทุจริตคอร์รัปชันในทุกระดับและในแทบทุกภาคส่วน เพราะนักการเมืองย่อมอาศัยกลไลในระบบบราชการและเครือข่ายในภาคส่วนธุรกิจ เป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้ามาถอนทุน ผลเสียหายต่อบ้านเมืองและการพัฒนาประเทศย่อมมีมากมายมหาศาล


นายชวน กล่าวต่อว่า ดังนั้นการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน จะต้องเริ่มต้นที่การสร้างบ้านเมืองให้สุจริต ไม่ใช่แค่ทำการเมืองให้สุจริตเท่านั้น แต่จำเป็นต้องกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคการเมือง


ให้เห็นความสำคัญของการเมืองที่ยึดหลักคุณธรรมและหลักธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม นิติรัฐ หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า โดยตนขอเพิ่ม หลักความไม่เกรงใจต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไว้เป็นค่านิยมใหม่อีกข้อหนึ่ง


“และในสมัยที่ผมดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ผมทราบว่าต่อให้มีการสร้างมหาลัยในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ถ้าครอบครัวยากจน เด็กก็ไม่ได้ศึกษาต่อ ผมจึงได้ออกนโยบายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขึ้นมา


ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าใจความยากลำบากของประชาชน จึงออกนโยบายช่วยเหลือเด็กด้านการศึกษา อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ได้รับเงินกยศ. จบการศึกษาและมีงานทำแล้ว ก็ควรที่จะใช้เงินทุนคืน เพื่อให้รัฐนำเงินทุนนั้นไปมอบต่อไปให้เด็กๆรุ่นต่อไป สิ่งนี้ก็เป็นความสุจริตประการหนึ่ง”


คุณอาจสนใจ

Related News