สว. ถกงบ 68 ห่วงรัฐบาลสร้างภาระหนี้ จี้คลังคุมเข้มปัญหาล็อกสเปก

การอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภาในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ที่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยเนื้อหาของสว.เน้นไปที่ภาพรวมของงบประมาณ ที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงเรื่องการสร้างภาระหนี้ให้กับประเทศ ที่สุ่มเสี่ยงกระทบกรอบวินัย การเงิน การคลัง


สมาชิกวุฒิสภาที่อภิปรายคนเเรก ก็คือ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยสว.ชีวะภาพ มีข้อสังเกตถึงรัฐบาล 8 ข้อ เช่น


รัฐบาลควรเร่งใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะการใช้จ่ายลงทุนเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และการเร่งรัดการลงทุนในโครงการลงทุน นอกจากนี้รัฐบาลควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับหนี้สินครัวเรือน เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และการรักษาพื้นที่ทางการคลัง และปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์


โดยเฉพาะเรื่องของสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ตั้งแต่ปี 62-65 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด แต่หากรัฐมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายมากขึ้นผ่านการกู้เพื่อชดเชย แต่การชำระต้นเงินกู้จะทำให้ยอดลดลงไม่มาก ทำให้การรักษากรอบวินัยการเงินการคลังสุ่มเสี่ยม เพราะฉะนั้นรัฐต้องจัดงบประมาณเพื่อชำระต้นเงินกู้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5 แต่ไม่เกินร้อยละ 4.0


ขณะที่ นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายถึงปัญหางบประมาณที่มีการล็อกสเป็ก การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พร้อมยกตัวอย่าง กรณีถาดหลุมของกองทัพ โดยนาวาตรีวุฒิพงศ์ บอกว่า เห็นได้ชัดถึงปัญหาล็อกสเป็กกันจนชิน จึงเรียกร้องให้กระทรวงการคลัง ดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณของกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพเรือที่เคยสังกัด โดยระบุว่า กองทัพเรือไทยมีประสิทธิภาพ สามารถต่อเรือหลวงเองได้หลายประเภท ทั้งเรือฟริเกต เรือคอร์เวตได้ รวมถึงเอกชนไทยเองก็สามารถต่อเรือได้ แต่กองทัพกลับเลือกที่จะซื้อเรือจากต่างประเทศ แล้วมีการล็อกสเป็กทำให้หาอะไหล่ได้ยาก


ด้าน สว. นันทนา นันทวโรภาส เรียกร้องให้รัฐบาลจัดงบประมาณ โดยเน้นให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่าท่ามกลางสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจ มีเพียง 2 หน่วยงานที่ปรับลดงบประมาณลง คือ กระทรวงมหาดไทย กับ ส่วนราชการในพระองค์ ในขณะที่หน่วยงานอื่นปรับเพิ่มทั้งหมด โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม เพิ่มถึง 2.6 %


หลังสมาชิกวุฒิสภาอภิปรายแล้วเสร็จ ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ 174 เสียง ไม่เห็นชอบ 3 งดออกเสียง 7 เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 ทั้ง 3 วาระ


และวันนี้ รัฐบาลเอง ก็เริ่มมีความชัดเจน ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะเริ่มดำเนินการสำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวสัดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้พิการก่อน รวมจำนวน 14.5 ล้านคน คาดว่าจะโอนเงินให้หลังจากวันที่ 20 กันยายนนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดนั้นจะต้องรอนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ อีกครั้ง


ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระวงกลาโหม เปิดเผยว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 17 กันยายนนี้ เพื่อเร่งอนุมัติ มากระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือนนี้ รอบแรกจะโอนเงินสดให้กลุ่มเปราะบางประมาณ 14 ล้านคน คนละ 10,000 บาท โดยใช้งบ ปี 2567 เมื่อโอนเข้าบัญชีแล้ว สามารถนำไปใช้ที่ไหนก็ได้


ส่วนที่เหลือเฟสสอง คือคนที่ลงทะเบียนแล้ว รัฐจะใช้งบปี 2568 จะแจกเงินสด 5,000 บาท ภายในปีนี้ และส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท หากวางระบบดิจิทัลได้ทัน จะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากไม่ทัน ก็อาจเป็นเงินสด