เลือกตั้งและการเมือง
'พรรคไทยภักดี' ยื่น กกต.ตรวจสอบ 'พรรคประชาชน' ตั้งถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
โดย parichat_p
13 ส.ค. 2567
33 views
พรรคไทยภักดี ขอให้ กกต.ตรวจสอบพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล และพรรคประชาชน ว่าตั้งสาขาพรรค ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายหรือไม่ โดยขอให้ตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่กฎหมายประกาศใช้ รวมทั้งให้ตรวจสอบการรับเงินบริจาคของพรรคประชาชนว่า เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ พรรคประชาชนรายงานตัวเลขผู้สมัครสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมามีสมาชิก 5 หมื่นคน และยอดเงินบริจาคสนับสนุนอยู่ที่ 25 ล้านบาท
วันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการมีสาขาของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จากระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองย้อนหลังใน 2 ประเด็น ที่เกี่ยวเนื่องกับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล และพรรคประชาชน
ประเด็นที่ 1 ขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองของ กกต.ตรวจสอบฐานข้อมูล ย้อนหลังว่าพรรคถิ่นกาขาวชาวิไล หรือพรรคประชาชน มีจำนวนสาขาในแต่ละปีเท่าไร ในแต่ละภาค ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2560 นับตั้งแต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ หากมีสาขาไม่ครบ 4 ภาคเป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะมีคำสั่งให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพ ซึ่งการที่มีข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันได้มีการอัพเดทแล้วมีสาขาพรรคครบ 4 ภาคนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่อยากให้ กกต.ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปเป็นรายปีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ประจักษ์ชัด
ประเด็นที่ 2 ได้รับข้อมูลว่าวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลได้จัดประชุมใหญ่ โดยมีมติเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน ตราสัญลักษณ์พรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อีกทั้งเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินให้กับพรรค โดยเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการรับบริจาคของพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามข้อ 42 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2563 ที่ให้อำนาจหัวหน้าพรรคและเหรัญญิก เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์ โดยมีหลักฐานสำคัญประกอบการเปิดบัญชีคือ หนังสือรับรองรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคจากกกต. โดยวงเล็บว่าเพื่อการบริจาค ซึ่งการรับรองจาก กกต.มีระยะเวลาในการดำเนินการ ไม่ใช่ประชุมวันนี้แล้วมีหนังสือรับรองเลย
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวชี้แจงเรื่องนี้ว่า ในประเด็นเรื่องการตั้งสาขาพรรค ตามกฎหมาย กำหนดว่า ต้องตั้งให้ครบทั้ง 4 ภาคภายใน 1 ปี ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ติดตามการมี อยู่ของสาขาพรรคแต่ละพรรคโดยตลอด หากพรรคใดมีปัญหาสาขาพรรคไม่ครบถ้วน หรือมีการ เปลี่ยนแปลง จะต้องมีหนังสือแจ้งเตือนจากนายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้ดำเนินการให้ ครบถ้วนตามกฎหมาย กรณีนี้จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ กกต.จะปล่อยประเด็นนี้ให้หลุดไปได้
การที่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นชื่อเดิมของพรรคประชาชน ดำรงความเป็นพรรคมานานกว่า 10 ปี ก็เป็นเครื่องการันตีอยู่แล้วว่า การจัดตั้งสาขาพรรคไม่มีปัญหา ในประเด็นที่สอง เรื่องการเปิดบัญชีรับบริจาคในนามพรรคประชาชน นายศรายุทธิ์กล่าวว่า พรรค ถิ่นกาขาวชาววิไล ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 9/2555 มีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการรับบริจาค ไว้นานแล้ว มีทั้งบัญชีที่วงเล็บว่าเป็นค่าบำรุง และวงเล็บว่าสำหรับการบริจาค ตามที่กฎหมาย กำหนดทุกประการ แม้ปัจจุบันจะเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคประชาชน แต่ก็เป็นนิติบุคคลเดียวกัน มี ความสืบเนื่องของนิติบุคคล พรรคประชาชนจึงใช้บัญชีดังกล่าวในการรับเงินค่าสมาชิก และเงินบริจาค แยกคนละบัญชีตามกฎหมาย
สำหรับการเปิดรับสมัครสมาชิกของพรรคประชาชน ข้อมูลเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พรรครายงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีผู้สมัครแล้ว 5 หมื่นจากเป้าหมาย 1 แสนคนใน 1 เดือน ส่วนยอดบริจาคสนับสนุนการทำงานของพรรคอยู่ที่ 25 ล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง พรรคไทยภักดี ,พรรคประชาชน ,กกต. ,ตรวจสอบ