'ปานปรีย์' ยื่นหนังสือลาออก รมว.ต่างประเทศ หลังถูกลดตำแหน่ง

ผลกระทบหลังการปรับ ครม.ของนายกฯเศรษฐา โดยนายปานปรีย์ ตัดสินใจขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังถูกถอดตำแหน่งรองนายกฯ


หนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ถูกเผยแพร่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ในหนังสือลาออกของนายปานปรีย์ ระบุถึงสาเหตุการลาออกโดยระบุว่า


"ตามที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีบางตำแหน่ง และปรากฏว่าผมยังคงดำรง ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่เพียงตำแหน่งเดียวนั้น

ผมมีความประสงค์จะขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2567 เพื่อเปิดทางให้ท่านอื่นเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน


นายปานปรีย์ระบุสาหตุของการถูกปรับออกจากรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ว่าไม่เกี่ยวกับการไม่มีผลงานแน่นอน เพราะได้ทุ่มเทการทำงานด้านต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และตั้งใจทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนมากขึ้น ตามที่รัฐบาลได้แถลงผลงานไปแล้ว จนสามารถตอบสนองต่อนโยบายการ ทูตเศรษฐกิจเชิงรุกอย่างเด่นชัด วันนี้ไทยหวนกลับมาขึ้นบนจอเรด้าของโลก มีมิตรประเทศเพิ่มขึ้น และมีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนในไทยมากขึ้น


นอกจากนั้น ยังระบุว่าให้ความสำคัญกับคนไทยในต่างประเทศ ทั้งเรื่องไปเจรจาด้วยตัวเอง เพื่อนำคนไทยผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอลกลับประเทศได้ถึง 23 คน รวมทั้งแรงงานไทย 8,000 คน และจากเล่าก็ก่ายเมียนมาอีก 1,000 คน เปิดวีซ่าฟรีกับหลายประเทศ เพื่อคนไทยมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา ฟื้นความสัมพันธ์กับอาเซียน สหภาพอียู อินเดีย และประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา และ จีน จนเกิดการเจรจาลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในประเทศไทย


นายปานปรีย์ลงท้ายจดหมายลาออกโดยระบุว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของนายกฯครั้งนี้จะช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป รวมทั้งได้ขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสทำงานมาช่วงเวลาหนึ่ง


ส่วนการลาออกในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่องานต่างๆ ที่ได้มีการประสานกับต่างประเทศไว้หรือไม่โดยเฉพาะเรื่องการขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี ซึ่งนายปานปรีย์ให้สัมภาษณ์กับมติชนออนไลน์ ว่า ไม่เป็นไร เพราะก่อนหน้านี้ได้วางแผนไว้ว่า 6 เดือนหลังนี้กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรต่อ และเชื่อว่ารัฐมนตรีที่จะมาสานงานต่อก็สามารถที่จะทำงานแทนต่อไปได้