สังคม

DSI ค้นห้องเย็นนครปฐม โยงคดี บ.นำเข้าหมูเถื่อน พบหมูไม่มีใบขนย้าย-หายจากระบบอื้อ

7 ธ.ค. 2566

110 views

วันนี้ (7 ธ.ค. 66) กรมสอบสวนคดีพิเศษนำหมายค้นไปค้นกิจการห้องเย็นแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม หลังพบว่ามีเม็ดเงินรวมกันกว่า 259 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีส่วนตัวและบัญชีบริษัทเว้ลท์ธี่ แอนด์ เฮลท์ธี่ฟู้ด จำกัด ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานนำเข้าหมูเถื่อน ซึ่งการตรวจค้นวันนี้ นอกจากได้เอกสารหลักฐานแล้ว ยังพบหมูแช่แข็งที่ไม่มีเอกสารเคลื่อนย้าย 7 ตัน และอีกกว่า 55 ตัน ก็หายไปจากระบบบัญชีของห้องเย็นด้วย



หัวหน้าคณะทำงานคดีหมูเถื่อนของดีเอสไอ อ่านสิทธิและข้อปฎิบัติตามหมายค้นของศาลอาญารัชดา ให้ผู้จัดการห้องเย็นแห่งนี้ได้ฟังเพื่อขอเข้าค้นและเก็บเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีนำเข้าหมูผิดกฎหมาย



สถานที่นี้ติดป้ายว่าเป็นสถานที่ผลิตอาหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม ภายในโรงเรือนนี้มีลักษณะคล้ายแปรรูปเนื้อแช่แข็งให้เป็นเนื้อนำไปปรุงอาหาร และใจกลางโรงเรือนเป็นห้องแช่เย็น



ดีเอสไอประสานทั้งปศุสัตว์จังหวัดและสารวัตรกรมปศุสัตว์ร่วมตรวจสอบโดยมีผู้จัดการนำตรวจ และรายงานว่าในห้องเย็นนี้มีเนื้อหมูชำแหละเก็บอยู่ประมาณ 7 ตัน เป็นที่น่าสังเกตว่า ลักษณะเนื้อหมูที่การหั่นแหละชำแหล่ะเป็นแผ่นขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันตามสัดส่วน ห่อด้วยถุงพลาสติกหลากสีดูผิวเผินคล้ายกับหมูจากต่างประเทศที่แกะออกจากกล่อง ซึ่งมีถุงหลาสติกห่อหุ้มมาด้วย แต่ผู้จัดการยืนยันว่าเป็นหมูไทยที่เมื่อชำแหละแล้วจะห่อไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิและรักษาความสะอาดไว้ด้วย



ทั้งดีเอสไอและปศุสัตว์ยืนยันตรงกันว่าเนื้อหมูราว 7 ตันในนี้ไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายที่ถูกต้อง และยังไม่ชัดเจนว่าห้องเย็นนี้ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานใด ระหว่างปสุสัตว์หรือพาณิชย์จังหวัด



เจ้าหน้าที่ระบุว่าแม้ที่นี่จะมีเนื้อหมูแช่เย็นเก็บอยู่แต่มีลักณะเหมือนใช้เป็นพื้นที่รอแปรรูปจากหมูแช่แข็ง แล้วนำมาผ่านขั้นตอนสลายน้ำแข็งกลายเป็นเนื้อหมูพร้อมปรุง จากนั้นบรรจุหีบห่อพลาสติกเพื่อนำส่งลูกค้า



ส่วนจุดที่ 2 ที่ดีเอสไอนำหมายค้นไปตรวสอบ เป็นห้องเย็นเจ้าของเดียวกัน ที่ขยายกิจการไปอยู่คนละท้องที่ตำบล ที่นั่นมีผู้นำแสดงเอกสารหลักฐานการนำหมูชำแหละแล้วจากโรงเชือดต่างๆในจังหวัด เข้าไปตัดแต่งแปรรูปเป็นชิ้นเพื่อนำส่งห้างร้านต่างๆทั้งในพื้นที่และใกล้เคียง



อย่างไรก็ตาม ที่นี่สำแดงเอกสารว่ามีเนื้อหมูนำเข้า 253 ตัน แจ้งการเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว 144 ตัน ตามหลักจึงควรเหลืออยู่ 139 ตัน แต่ในระบบกลับแจ้งว่าเหลือยู่ 84 ตัน เท่ากับเนื้อหมูหายไป 55 ตัน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม จึงสั่งให้ปศุสัตว์จังหวัดตรวจสอบและให้ได้คำตอบภายในวันนี้



ขณะที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนระบุถึงเหตุผลสำคัญของการตรวสอบที่นี่ เพราะต้องการหาหลักฐาน ที่เชื่อมโยงกันกรณีมีเงินกว่า 200 ล้านบาท จากเจ้าของกิจการนี้โอนเงินเข้าบัญชีของกรรมการบริษัทเวล์ทธี่ แอนด์ เฮล์ทธี่ฟู้ด ของสองพ่อลูก ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานอยู่เบื้องหลังสั่งนำเข้าหมูเถื่อนก่อนหน้านี้



ข้อมูลการแกะรอยเส้นทางการเงินของดีเอสไอ พบว่า มีการโอนเงินจากชายชื่อย่อ ศ.ศาลา 3 ครั้ง ครั้งแรก 21 ล้านบาท เข้าบัญธี 1 ในของผุ้ต้องหากรณีบ.เว้ลทธี่ ครั้งที่ 2 โอนเงินรวม 220 ล้าน เข้าบัญชี ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นกรรมการลงนาม บ.เวล้ทธี่ ครั้งที่ 3 โอนอีก 10 ล้าน เข้าบัญชี บ.เว้ลทธี่ ส่วนอีกครั้ง ถือเป็นครั้งที่ 4 โอนจากบัญชีภรรยาของ นาย ศ. ศาลา 7 ล้าน เข้าบัญชีผุ้ต้องหาที่เป็นกรรมการ บ.เว้ลท์ธี่ รวม 4 ครั้งเป็นเงิน 259,397,490 บาท



ดีเอสไอยืนยันว่าการโอนเงินดังกล่าวไม่ได้นิติกรรมสัญญาใดๆต่อกัน แต่มีธุรกิจลักษณะเดียวกัน และนอกจากนี้ ดีเอสไอก็พบเบาะแสเงินกว่า 259 ล้าน ที่ถูกโอนไป บ.เว้ลท์นี้ แท้จริงต้นทางหรือที่มาของเงินอาจเป็นของกลุ่มทุนอื่นที่อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News