เร่งหาข้อยุติ ตำรวจร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก 34 นาย เข้าข่ายผิด ม.157 หรือไม่

การได้รับโอนคดีกำนันนก มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจสอบสวนกลาง ทำให้ต้องเร่งคลี่คลายคดี ให้ พ.ต.ต.ศิวกร ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด และตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจทั้ง 34 คนที่อยู่ในงานเลี้ยง ว่าเข้าข่ายความผิด ม.157 หรือไม่ โดยจะร่วมมือกับอัยการตีความหมายขอบเขตการละเว้นการปฏิบัติ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทั้ง 34 คนด้วย ขณะที่การเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล เพื่อกวาดล้างผู้มีอิทธิพลก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วย



ความเหิมเกริมของกลุ่มผู้มีอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีพฤติกรรมมีมือปืนประกบข้าง พกพาอาวุธปืนทุกคน และไม่เพียงแต่กำนันนก แต่กำนันคนอื่นๆ ยังมีอยู่หลายกลุ่มทั่วประเทศที่น่าจับตามอง เมื่อคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดเหตุเมื่อใด การเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลาจะเป็นทางออกที่ดี การฝึกซ้อมสถานการสมมติว่า มีคนร้ายก่อเหตุ จนต้องเรียกชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานและคอมมานโด สนับสนุน การฝึกซ้อมจึงต้องเตรียมไว้เพื่อพร้อมในการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นหน้างานของสอบสวนกลาง ที่จะปราบกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนเพื่อความสงบสุขของสังคม



ขณะที่คดีของกำนันนก ที่ใช้การสอบสวน นำการสืบสวนของทีมคลี่คลายคดี โดยวันนี้มีการประชุมของชุดมือทำงานที่ลงพื้นที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่วันแรก



พันตำรวจเอกวิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ในฐานะโฆษกชุดสืบสวนคลี่คลายคดี บอกว่าจะไม่เรียกตำรวจมาสอบทั้งหมด 34 คนมาสอบใหม่ แต่จะใช้พยานหลักฐานที่มีอยู่แล้ว จากกล้องวงจรปิดและการให้ปากคำ เชิญอัยการมาตีความในกฎหมาย ม.157 ว่าการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หากช่วยกำนันนกคือผิดชัดเจน แม้จะอ้างอยู่นอกเวลาราชการ แต่หากไม่ช่วยระงับเหตุ จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่



สำหรับกล้องวงจรปิดมี 15 ตัว จะมีกล้อง 2 ตัว ไม่ได้ใช้งาน อีกตัวถูกดึงสายออก ซึ่งระบบจะขึ้นข้อมูลไว้ เวลา 10.16 นาที ที่กล้องหยุดบันทึก ซึ่งในคืนเกิดเหตุ ตำรวจกองกำกับการ5 กองปราบปรามไปถึงพื้นที่ เมื่อไปตรงจุดเกิดเหตุ ถูกทำลายพยานหลักฐานไปแล้ว ก็ไปตรึงกำลังที่บ้านกำนันเพราะตรวจสอบแล้วพบว่ากำนันนกอยู่ในบ้าน แต่เนื่องจากเป็นช่วงกลางคืน ยังไม่มีหมายจับและหมายค้น จึงอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีตำรวจที่ร่วมงานเลี้ยง เข้ามาอยู่ในบ้านกำนันนกกี่คน คืนเกิดเหตุจึงทำได้เพียงตรึงกำลังไว้ กระทั่งช่วงบ่าย ตร.สภ.เมืองนครปฐม เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุได้ไปขอหมายจับ แต่ทนายความได้แนะนำให้กำนันนกเดินทางมามอบตัวเอง



โดย พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวถึง ตำรวจ 6 คนที่ช่วยกำนันนกหลบหนี จะย้ายจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มาควบคุมตัวในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งจะต้องย้ายมาจากเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรสงคราม มาที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการแทรกแซงของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนผู้ต้องหาทั้งตำรวจและอดีตกำนันนก จะถูกคุมขังอยู่ที่เดียวกันหรือไม่ขึ้นอยู่กับระเบียบของกรมราชทัณฑ์