พท.ปิดดีลตั้งรบ.ที่ 315 เสียง พรรค 2 ลุงมาครบ โหวต 'เศรษฐา' เป็นนายกฯ

คืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้รวมเสียงข้างมากจากพรรคการเมืองต่างๆ รวมแล้วอย่างน้อย 315 เสียง โดยคาดว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ของ 2 ลุงร่วมอยู่ด้วย เพื่อดันนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี



มีรายงานจากแหล่งข่าวในพรรคการเมืองเข้ามา ถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในตอนนี้ว่า ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ ที่พร้อมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน



โดยประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง / พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง / พรรคประชาชาติ 9 เสียง / พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง / ส่วนพรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และพรรคประชาธิปไตยใหม่พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 239 เสียง



ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ก็แสดงความชัดเจนแล้วว่า ส.ส.ทั้ง 40 คนจะยกมือโหวตให้พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 279 เสียง เช่นเดียวกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยืนยันแล้วว่า จะยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย



ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น พรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจะเพิ่มอีก 36 เสียง ทำให้รวบรวมเสียงได้ทั้งหมด 315 เสียง ต้องหาเสียงสว.เพิ่มเติมอีก 59 เสียง เพื่อให้มีเสียงในรัฐสภา 374 เสียงหรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา ผลักดันนายเศรษฐา ทวีสินให้เป็นนายกรัฐมนตรี



ส่วนของเก้าอี้รัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมรัฐบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการหารือในสัดส่วนของพรรคการเมืองแต่ละพรรค เพราะต้องนำตัวเลขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดมาคำนวณ โดยจะใช้จำนวน 315 เป็นตัวตั้งหารด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี 35 ตำแหน่ง เฉลี่ย ส.ส. 9 ที่นั่งต่อ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งจะชัดเจนมากขึ้นหลังการเลือกนายกฯ เสร็จสิ้น



--- INS 5 ---

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยืนยัน ไม่มีปัญหาหากต้องทำงานกับ 2 ลุง หลังพรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติมีท่าทีโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างต้องอยู่กับคามเป็นจริง



โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้น เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทยได้มีการแถลงจับมือกับหลายพรรคไป จนมาถึงวันนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาไปในระดับที่ดีแล้ว และขอขอบคุณ สส.ทั้ง 40 คนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะยกมือโหวตให้ เมื่อผ่านการโหวตเลือกนายกเสน็จสิ้น ก็จะมีการหารืออีกครั้ง



ส่วนเรื่องทำงานร่วมกับ 2 ลุงได้หรือไม่ ก็ขอให้ใช้หลักการเป็นสำคัญ เพราะมองว่าเรื่องนโยบายเพื่อประชาชนและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน



นายเศรษฐาย้ำว่า ทั้งพรรคพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นต้นกำเนิดของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จะต้องเข้าใจว่านี่เป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย แม้จะมี 2 พรรคนี้เข้าร่วม เพื่อไทยก็จะยังคงเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ



ขณะที่เรื่อง เสียง สส.ที่พรรคเพื่อไทยรวมได้ทั้งหมด นายเศรษฐา ระบุว่า ตอนนี้ทีมเจรจา กำลังเจรจากันอยู่ โดยหวังว่าในช่วงที่สภาวะการเมืองไม่ปกติ ก็จะยังคงได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง สว. และ สส. ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อในการจัดตั้งรัฐบาล "เป็นหน้าที่" ที่จะต้องรวบรวมเสียงให้พอ เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐและจัดการปัญหาของบ้านเมือง โดยเชื่อว่าเสียงโหวตนายกจะผ่านตั้งแต่ครั้งแรก