'เพื่อไทย' แถลงจับมือ 'ภูมิใจไทย' ยันจะไม่มีพรรค 2 ลุง - 'ชลน่าน' เชื่อ 212 เสียงเป็นสารตั้งต้นของรัฐบาล

ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล วันนี้ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เป็นสารตั้งต้นรัฐบาล 212 เสียง เดินหน้าเชิญพรรคการเมืองและขอเสียง สว.เลือกนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อผ่าทางตันทางการเมือง ยืนยันจะไม่มีพรรค 2 ลุง และหวังจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ขณะที่กลุ่มทะลุวัง เข้าปิดล้อมพรรคเพื่อไทยและขวางรถแกนนำพรรคภูมิใจไทยจนเกิดความวุ่นวายขึ้น


นายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบรับคำเชิญพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะยอมรับจุดยืน 3 ข้อทั้งการไม่แก้ไขมาตรา 112 ไม่มีพรรคก้าวไกล และ ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทย 141 เสียง กับ พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง รวม 212 เสียง เชื่อว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยยินดีสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ายังเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ที่นายอนุทิน ยืนยันด้วยว่าได้ถอนฟ้องกรณีการวิจารณ์นโยบายกัญชาเสรีด้วย


นายแพทย์ ชลน่าน เชื่อว่า 212 เสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เป็นสารตั้งต้นของรัฐบาลที่จะไม่มีคำว่า 188 เสียงอีกแล้ว และไม่มีพรรค 2 ลุง แต่หากจะมี สส.ร่วมโหวตให้นายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยก็ยินดี เพราะเป้าหมายของรัฐบาลชุดใหม่ จะเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ ที่ผ่าทางตันทางการเมือง เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งของสังคม


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่านับจากวันนี้จนถึงวันที่มีการนัดหมายเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งใหม่ จะมีการเชิญพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ขอเสียง สส.กับ สว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ขณะที่ระหว่างการสัมภาษณ์นักข่าวได้สอบถามถึงความสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยที่เคยใช้แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน ชี้แจงว่าเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง ที่ไม่เคยคิดเป็นศัตรู


การแถลงข่าววันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น แม้ขณะนั้นหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยกลุ่มทะลุวังได้มาทำกิจกรรมต่อต้านไม่ยอมรับพรรคภูมิใจไทยที่บริหารงานผิดพลาดจากช่วงโควิด-19 แต่หลังการแถลงข่าว กลุ่มทะลุวังได้ไปปิดทางออกพรรคเพื่อไทย ดักตรวจรถยนต์เพื่อค้นหาแกนนำพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีรถของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ต้องจอดรถและถูกปิดล้อม จนนายพิพัฒน์ ต้องลงจากรถมาเจรจา แต่เกิดการปะทะคารมกันขึ้น


หลังจากนั้นเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นเป็นระยะจากการพยายามตรวจค้นรถยนต์ และมีการใช้พลุควัน จนกระทบกระทั่งกับนักข่าวด้วย จนตะวัน กลุ่มทะลุวัง ออกมาขอโทษนักข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พรรคเพื่อไทยด้วย และประกาศยุติกิจกรรม