เพื่อไทย แยกทาง ก้าวไกล ชี้ไม่ได้หักหลัง แต่จำเป็นต้องเร่งเดินหน้าประเทศ

ถือเป็นวันที่การเมืองไทยมีความชัดเจนมากที่สุด นับแต่หลังเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม จน 8 พรรค จับมือประกาศตั้งรัฐบาล มาถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงขอแยกออกจากเอ็มโอยู ที่เคยตกลงร่วมกัน เพื่อจะรวบรวมพรรคใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกล โดยจะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ไม่ได้หักหลัง 8 พรรคร่วม แต่เป็นเพราะ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งพรรคก้าวไกล ไม่ยอมถอยในประเด็นนี้

ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดคุยให้ถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 พร้อมระบุว่า พรุ่งนี้ จะประชุม สส.เพื่อหามติว่า จะยกมือโหวตให้ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หรือไม่



นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแถลงผลการหารือร่วมกับพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ หลังจากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล รวมทั้ง 8 พรรคได้สำเร็จ และไม่สามารถเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขของพรรคการเมืองอื่น และสมาชิกวุฒิสภา ไม่ยอมรับนโยบายการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย จึงส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งนโยบาย แต่ก็ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนเพิ่มได้ เพราะบางพรรคการเมืองยังติดเงื่อนไขนี้



ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ยืนยันว่าไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะไม่มีพรรคก้าวไกล อยู่ในพรรคร่วม แต่จะไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน



พรรคเพื่อไทย แถลงว่า เมื่อได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะให้จัดทำประชามติและจัดตั้ง สสร. และจะนำนโยบายที่เสนอไว้กับพรรคร่วมมาผลักดันด้วย เช่น กฏหมายสมรมเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ปฏิรูปตำรวจ กองทัพ และกระทบวนการยุติธรรม ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กัเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกล ส่วนหน้าตารัฐบาลใหม่จะแถลงในวันพรุ่งนี้ 3 สิงหาคม



นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่จะต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฏรอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤตการเมือง



ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าได้โทรศัพท์แจ้งเลขาธิการพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคให้ทราบถึงเหตุผลแล้ว และให้เป็นการตัดสินใจของทุกพรรคว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่



ส่วนจะมีพรรคใดเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยบ้าง จะมีการแถลงช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ 3 สิงหาคม ที่รัฐสภา



หลังจากพรรคเพื่อไทยแถลงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคกัาวไกล ได้แถลงข่าวขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของประชาชนได้สำเร็จ ซึ่งการพูดคุยระหว่างสองพรรค ทางพรรคเพื่อไทยได้แจ้งขอออกจาก MOU 2 ฉบับที่ทำกับพรรคก้าวไกลในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และที่ทำไว้กับ 8 พรรคร่วม โดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยการแก้ไขมาตรา 112 และไม่เคยมีการเจรจาหรือให้เหตุผลนี้ว่าเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล



เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมตรี ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของทุกพรรค โดยพรรคก้าวไกล จะหารือ สส.เพื่อกำหนดแนวทางในวันพรุ่งนี้ และเท่าที่รับฟังแกนนำพรรคเพื่อไทยมีความกังวลหากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้ อาจทำให้ สว.ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยว่าจะดึงพรรคก้าวไกลมาเป็นรัฐบาลในภายหลัง



นายชัยธวัช ยอมรับว่าไม่ว่าจะอยู่ในสภานะไหน พรรคก้าวไกล จะสู้เต็มที่เพื่ออำนาจสูงสุดของประชาชน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ที่ถือเป็นภารกิจของพรรคก้าวไกลที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้เสียงของประชาชนสำคัญที่สุด



ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้มาแถลงข่าวด้วย ซึ่งนายชัยธวัช เปิดเผยว่า นายพิธา ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว