เช็กจุดยืนพรรคขั้วรบ.เดิม ก่อนวันโหวตนายกฯรอบ 2

ท่าทีและจุดยืนของพรรคการเมืองจากฝั่งขั้วอำนาจเดิมหรือฝั่ง 188 ส.ส. วันนี้ มีการเรียกประชุมพรรคเพื่อกำหนดท่าทีของส.ส.และจุดยืนของพรรคก่อนการเสนอชื่อและโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2



โดยทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคภูมิใจไทย จนถึงพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ประกาศ ว่า จะไม่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ฝั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า จะไม่เลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยด้วยหากมีพรรคก้าวไกลร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย



นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ​ เปิดเผยว่าที่ประชุมที่มีนายพีระพันธุ์​ สาลีรัฐวิภาคหัวหน้าพรรค เป็นประธานในการประชุม ได้มีการหารือ ถึงเรื่องญัตติ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มีการโหวตนายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว



ซึ่งข้อบังคับซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับ ประชุมสภาข้อที่ 41 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ถ้าญัตติใดตกไปไม่สามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้ ดังนั้นในการประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ ถ้ายังมีการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีอีก พรรครวมไทยสร้างชาติถือว่ายังเป็นสถานการณ์เดิม โดยพรรคได้มอบหมายให้นายวิทยา​ แก้วภราดัย​ รองหัวหน้าพรรค​ ในฐานะประธานวิป พร้อมด้วยนายเอกนัฏ​ พร้อมพันธุ์​ เลขาธิการพรรค และตน เป็นผู้อภิปรายชี้แจง​ ถึงเหตุผลที่ไม่สามารถนำญัตติเดิมขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งได้



นายอัครเดช​ กล่าวว่า​ หากที่ประชุมสภาฯได้มีมติให้ญัตติเดิมตกไป​ พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ​ 2 เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ จุดยืนพรรครวมไทยสร้างชาติ ถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วม จะไม่โหวตให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะ ถือเป็นจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติที่จะไม่โหวตให้​ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติมีจุดยืนที่ชัดเจนในการปกป้อง​ 3 สถาบันหลัก​ ชาติ​ ศาสนา​ และพระมหากษัตริย์



ส่วนที่พรรคภูมิใจไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรค แถลงภายหลังการประชุมส.ส.ของพรรค โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภา วาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีพรุ่งนี้ ซึ่งทางพรรคมี จุดยืนคือ ไม่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย



สำหรับประเด็นสำคัญจากที่มีการประชุมวิป 3 ฝ่าย จะสามารถเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ซ้ำได้หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยจึงมีความไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯซ้ำได้ ให้เป็นไปตามข้อบังคับฯ ข้อที่ 41 ทางพรรคภูมิใจไทยได้เตรียมผู้อภิปรายแสดงความเห็นในเรื่องนี้ไว้แล้วแน่นอน และจะทำทุกวิถีทางเพื่อปิดกั้นพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแบบนี้ นั่นก็คือพรรคก้าวไกล



เช่นเดียวกับทางพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม หรือ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ถ้าพรรคก้าวไกล ไม่ถอยเรื่องมาตรา 112 ถือเป็นการปิดประตู โดยทางนายวราวุธ ย้ำว่า จะยังยืนยันในจุดยืนเดิม คืองดออกเสียง พร้อมย้ำว่า มาตรา 112 เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงที่สุด ฉะนั้นหากพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลและไม่มีแนวทางที่จะแก้ไขมาตรา 112 ก็น่าจะคุยกันได้



พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยอย่างจริงจัง แต่ตามภาษาความความเป็นพี่น้องได้มีการพูดคุยแบบพี่น้องพูดคุยกันอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเท่านั้น แต่การเทียบเชิญจริงๆจังๆ ยังไม่มี



ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ก่อนประชุมรัฐสภาก่อน 1 ชั่วโมง พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีการประชุม เพื่อกำหนดแนวทางการพูดคุยในการประชุมรัฐสภา



ส่วนทีท่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกังวลฝ่ายเสียงข้างน้อยเสนอชื่อนายกฯ นั้น มองว่าอย่ากังวลเลย เพราะเราเป็นเสียงข้างน้อย ยิ่งพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ต้องกังวลเพราะเรามีแค่ 10 คน และพูดตั้งแต่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้ววันนี้ก็ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม